ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย
ประเดิมด้วยฉากสำคัญ เลิฟซีนแลกจูบแบบถึงใจชนิดขยี้ปากต่อปากกับรุ่นพี่นักแสดงมากฝีมืออย่าง ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ที่รับบทคู่รักต่างวัยที่เกิดปิ๊งกันบนดอย งานนี้ผู้กำกับใจดีฝีมือเริ่ดอย่าง กอล์ฟ ธัญวาริน สุขะพิสิษฐ์ ลงทุนขนทีมงานขึ้นดอยแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศสวยๆบนดอยมาให้แฟนๆ ได้รับชมกัน
บรรยากาศการถ่ายทำเต็มไปด้วยความคึกคัก และหนึ่งในนั้นที่ออกอากาศดี๊ด๊ามากที่สุดคงไม่พ้นหนุ่มปั้นจั่น ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหวั่นกับฉากเลิฟซีนขยี้ปากนักแสดงรุ่นพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ หลังจากซุ่มซ้อมกันอยู่นาน ถึงเวลาต้องเริ่มถ่ายทำจริงพอสิ้นเสียงสั่งแอ็คชั่นจากผู้กำกับ หนุ่มปั้นจั่นไม่รอช้าโน้มคอต่าย เพ็ญพักตร์มาจูบอย่างดูดดื่ม แต่มุมภาพยังไม่สวยสมใจผู้กำกับ งานนี้กอล์ฟ ธัญญ์วารินขอรีเควทอีกหนึ่งเทค หนุ่มปั้นจั่นเลยขอสอนมวยรุ่นพี่บอกเทคนิคการจูบแบบไล่สเต็ปเริ่มจากประกบปากแล้วค่อยๆบรรจงจูบเพิ่มปริมาณความรักให้ดูดดื่มขึ้นจนกลายมาเป็นขยี้ปาก ทำเอาพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ถึงกับหลุดฮา แถวออกปากแซวปั้นจั่นว่าจูบเก่งแบบนี้น่าจะไปขายจูบการกุศลช่วยน้ำท่วม ทำเอาทีมงานฮากันเป็นแถวๆ ลองมาฟังหนุ่ม ปั้นจั่น เปิดใจถึงเลิฟซีนจูบแบบดุเด็ดเผ็ดมันส์ในฉากนี้ว่า
"...เมื่อคืนก่อนจะมาถ่ายฉากนี้ผมเองคิดและวิตกอยู่นานว่าจะต้องทำอย่างไร และต้องถ่ายทอดอารมณ์ขนาดไหนบ้าง พยายามศึกษาบทและคิดตามกับบทของไฟว่าตอนนี้ไฟเขารู้สึกกับสายธาร(รับบทโดยพี่ต่าย เพ็ญพักตร์)อย่างไร พอเข้าใจผมเลยแสดงออกมาตามความรู้สึก ปล่อยให้อารมณ์มันค่อยๆ ไหลไปเรื่อยๆ ในแบบที่คนรักเขาทำกันครับ
ตัวผมเองก็ไม่ได้จูบเก่งแบบที่พี่ต่ายล้อเลยครับ แหม...ถ้าเราจะต้องเล่นบทอะไร เราก็ต้องควรศึกษาบทนั้นให้เข้าใจอย่างท่องแท้เสียก่อน ก็แอบมีประหม่าเหมือนกันครับ ก่อนเข้าฉากผมกลัวพี่ต่ายจะรังเกียจเลยต้องขอเบรคไปแปรงฟันให้ปากหอมสดชื่นกันเหนียวไว้ก่อน(หัวเราะ) ถ้าถามว่าเขินบ้างมั้ย ผมว่าผมเองมีเขินเหมือนกันนะเรียกว่าเขินสุดๆ เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของพี่ต่าย และพี่เขาใจดีเป็นกันเองทำให้ผมกล้าแสดงฉากเลิฟซีนกับพี่ต่ายอย่างเต็มที่ พี่ต่ายทำให้ผมเชื่อนะ เชื่อว่าเขาเป็นคนรักของผมอย่างสนิทใจ เพราะพี่ต่ายสอนเสมอว่าเราเป็นนักแสดงต้องมีสปีริตไม่ว่าจะรับบทไหน เล่นฉากไหนก็ต้องทำให้เต็มที่ บวกกับพี่กอล์ฟผู้กำกับช่วย บิ๊ว อยู่ข้างๆ กล้องด้วย งานนี้ผมเลยต้องจัดเต็มไม่อยากให้เทคบ่อยเกรงใจพี่ต่ายเขา ซึ่งสำหรับตัวผมเองผมชอบฉากนี้ที่สุดเพราะบรรยากาศแสงไฟที่จัด พอดูมอร์นิเตอร์ภาพออกมาสวยมากๆ อยากให้แฟนๆ ลองติดตามดูครับว่าภาพออกมาจะเป็นอย่างไร? จะดุเด็ดเผ็ดร้อนขนาดไหน?? ฝากภาพยนตร์เรื่องแรกของผมไว้ด้วยนะครับ อย่าลืมไปให้กำลังใจกัน กุมภาพันธ์ นี้รับรองได้ชมแน่นอน
หนุ่มนิค-พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์
นักแสดงดาวรุ่งมากฝีมือที่ยอมตกปากรับคำเล่นบทกระตุ้งกระติ้งแบบไม่ห่วงภาพพจน์
"
ในเรื่องนี้ น้องนิค รับบทเป็นดิน ตัวดินเป็นเด็กที่ค่อนข้างสับสนในตัวเองออกแนวกระตุ้งกระติ้งรักสวยรักงาม ชอบขโมยเสื้อผ้าแม่มาใส่ชอบแต่งหน้าทาปาก พอพ่อจับได้เลยเป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่สับสน อลหม่านของความรักวุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจในตัวพ่อของตนที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้
กอล์ฟตั้งใจที่จะเลือกน้องนิคให้มารับบทนี้โดยเฉพาะ อาจเป็นเพราะกอล์ฟเห็นบางอย่างในตัวน้องเขา เวลาเขาแสดงออกมาไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือสายตาที่บอกผ่านความไม่เข้าใจในตัวพ่อของเขา มันเป็นสายตาของความกังขาที่เราเชื่อเลยว่านี่คือดินไม่ใช่นิค เพราะคาแรกเตอร์ของดินจะต้องเน้นการแสดงออกที่สีหน้าแววตาและอินเนอร์จากข้างในค่อนข้างเยอะ เราแคสหานักแสดงที่จะมาเล่นบทนี้มาหลายคนแต่ยังไม่เจอใครที่ถูกใจ จนได้มาเจอกับน้องนิคนี่แหละ นิคเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ มีความตั้งใจสูงมากหัวไว และมีการเตรียมตัวมาอย่างดี ขยันทำความเข้าใจในบทและขยันซ้อม ซึ่งเราเห็นได้ชัดเลยว่าน้องเขามีพัฒนาการขึ้นจริงๆ แล้วเราก็ค่อยๆ ช่วยขัดเกลาให้ดูเนียนมากขึ้น
อีกอย่างหนึ่งที่กอล์ฟชอบคือน้องเขาเต็มที่กับบทที่เขาได้รับมากไม่ห่วงภาพพจน์กลัวว่าใครจะมองว่าเป็นเกย์รึเปล่า หรือแม้แต่ในเรื่องจะต้องมีฉากที่โกนหัวเพื่อรับบทเป็นเณร น้องเขาก็เต็มที่ไม่มีอิดออดว่าจะต้องถูกโกนหัว นี่แหละคือสปีริตของนักแสดงไม่ว่าคุณจะได้รับบทไหนก็ตามคุณต้องทำมันออกมาให้เต็มที่ อยากให้จับตาดูเด็กคนนี้ดีๆ เขายังมีอะไรในตัวอีกเยอะ กอล์ฟรับรองว่าผู้ชมจะต้องหลงรักนิคในบทของดินแน่ๆ ลองมาดูเรื่องราวความรักที่หลากหลายรูปแบบที่ไม่จำกัดเรื่องสถานะ เวลาและอายุ คงจะถูกใจใครหลายๆคนไม่น้อย
"
ด้านหนุ่ม นิค พาวิช เปิดใจถึงบทบาทการแสดงที่ได้รับว่า
ดินเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นขาดแม่และต้องเติบโตมากับพ่อ พอโดนพ่อจับไปบวชตอนแรกก็รู้สึกต่อต้านคิดว่าพ่อไม่รักและคงไม่ยอมรับที่เรากระตุ้งกระติ้ง แต่หลังจากที่ดินได้บวชเรียนเลยทำให้ได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่พ่อทำไปเพราะรักดินนั่นเอง
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผม ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะมาแคสดีมั้ย เพราะยังไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองว่าจะทำได้หรือเปล่าแต่สุดท้ายแล้วผมก็ตัดสินใจลองมาดู พอรู้ว่าได้เล่นก็ดีใจกันทั้งบ้านเลยครับ(หัวเราะ) ผมคิดว่าโอกาสมาถึงแล้วก็ต้องลองพยายามทำให้ดีที่สุด ความยากอยู่ตรงที่ดินต้องสื่อสารออกทางสีหน้าและอารมณ์ค่อนข้างเยอะ โชคดีที่พี่กอล์ฟ(ผู้กำกับ) สอนการแสดงให้กับผมเยอะมากๆ
พี่เขาจะคอยแนะนำเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดอารมณ์ว่าตอนนี้ดินคิดอะไร หรือรู้สึกอย่างไร แล้วให้ผมถ่ายทอดออกมาครับ มีหลายคนถามว่าที่ผมเล่นเรื่องแรกก็รับบทตุ้งติ้งกลัวว่าคนจะมองว่าเป็นเกย์หรือเปล่า ผมนั่งยัน ยืนยัน นอนยันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ ว่าผมเป็นแมนเต็มร้อยครับยังไงผมก็ยังชอบผู้หญิง ฝากติดตามผลงานของผมด้วยนะครับในภาพยนตร์ไม่ได้ขอให้มารัก มาร่วมตามหารักแท้ไปพร้อมๆกับผมนะครับกุมภาพันธ์ปีหน้าแน่นอนครับ
|