สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

บทวิจารณ์ ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

 

สรดิเทพ ศุภจรรยา / 3 ก.ย. 2558

 
Share |
Print   
       
 





อย่าคิดว่า ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เป็นหนังจีทีเอชแนวตลกเฮฮา รักหวานซึ้ง เหมือน ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ หรือ เอทีเอ็ม เออรัก เออเร่อ

แต่มันคือ Mary Is Happy เวอร์ชั่นคนวัยทำงาน เป็นหนังที่พูดถึงชีวิต ความรัก ความฝัน และความกังวล ของหนุ่มวัย 30 ปี ได้อย่างตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยมุขตลกร้ายตามสไตล์ผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวมากที่สุดคนหนึ่ง เป็นหนังที่ผสมผสานหลายแนว ทั้งหนังดราม่าที่มีตัวละครเด่นชัด หนังรักที่ไม่เหมือนหนังรักเรื่องอื่น และหนังตลกที่สอดแทรกประเด็นความตาย

“ยุ่น” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เป็นฟรีแลนซ์ทำกราฟฟิคดีไซน์ ทำงานหนักอดหลับอดนอนเป็นประจำจนผื่นขึ้น ซึ่งทำให้ได้พบกับ “หมออิม” (ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่) ซึ่งความสวยและความเป็นกันเองของเธอทำให้ยุ่นตกหลุมรัก

หนังดำเนินเรื่องตามสไตล์ของผู้กำกับ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่เราคุ้นเคย เช่น บทสนทนายาวๆแล้วหันกล้องไปมาตามคนพูด การใช้เสียงพูดในหัว และการยิงมุขแบบไม่ให้คนดูตั้งตัว (โดยเฉพาะฉากไปทะเลกับตรวจร่างกายในโรงพยาบาลนี่ขำมาก)

ยุ่น เป็นตัวละครที่ตอนแรกดูแปลกสุดโต่ง จะมีสักกี่คนที่ภูมิใจว่าเคยไม่นอนนานสุด 5 วัน หรือการคิดโปรเจ็คใหม่ๆคือกิจกรรมบันเทิงยามว่าง หรือไม่เข้าใจว่าคนเราไปเดินเล่นสยามทำไมให้เสียเวลา แต่บทแข็งแรงพอที่ทำให้คนดูเข้าใจในตัวละครนี้ได้ และสุดท้ายก็ไม่ได้มองว่าเขาแตกต่างจากคนวัยทำงานคนอื่น ที่อยากทำในสิ่งที่ชอบ ต้องการชื่อเสียง กลัวถูกแทนที่ และไม่อยากยอมรับการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

ความสัมพันธ์ของยุ่นกับหมออิม เปรียบเสมือนความรักต้องห้าม ที่ไปไกลสุดแค่การเชคแฮนด์ ทุกๆครั้งที่เจอและคุยแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกัน กำแพงที่ทั้งคู่ได้สร้างไว้ในตอนแรกก็ค่อยๆพังทลายลง จนถึงฉากไคลแมกซ์ ที่เป็นความเงียบท่ามกลางความอึดอัดในห้องตรวจแคบๆ กับการลังเลตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรระหว่างหัวใจกับหน้าที่ นี่คือหนึ่งในฉากที่ดีที่สุดของหนัง

และจริงๆหนังน่าจะจบตรงนี้ แต่บทกลับดำเนินเรื่องต่อไปที่องค์สามที่พูดถึงประเด็นการทำงานหนักจนลืมให้ความสำคัญกับคนที่เป็นห่วงเราจริงๆ ถึงแม้จะโดนกลุ่มเป้าหมายไม่น้อย แต่ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นใหม่ เป็นหัวข้อที่มีการพูดถึง และแชร์ผ่านทางโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งแล้ว จึงทำให้หนังในส่วนท้ายรู้สึกยาวเกินไป ขาดเสน่ห์ และไปหักล้างเรื่องราวก่อนหน้านี้ด้วย ทำให้ตัวละครหมออิมหมดความหมาย กลายเป็นว่าไม่มีหมออิมหนังก็ยังจบแบบเดิม

ซันนี่ แสดงได้ยอดเยี่ยม แบกรับทั้งเรื่องไว้ได้ ทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเป็นฟรีแลนซ์บ้างานจริงๆ และเป็นหนุ่มติสๆเนิร์ดๆที่ไม่ค่อยได้เจอคนและไม่ค่อยได้เคยจีบหญิง ใหม่-ดาวิกา แสดงพลังแบบเงียบๆ โดยเฉพาะในฉากไคลแมกซ์ที่ทำให้คนดูลุ้นและเข้าใจในความลำบากในการตัดสินใจของเธอ วี-วิโอเลต วอเทียร์ ในบทสาวที่หางานมาให้ยุ่น มีการพัฒนาการแสดงอย่างก้าวกระโดดจากครั้งสุดท้ายที่เห็นในเรื่อง ฝากไว้..ในกายเธอ

โดยรวม ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ตีแผ่ชีวิตคนบ้างานได้อย่างเฉียบขาด สนุก และมีเอกลักษณ์ส่วนตัวสูง ถึงแม้ว่าตอนท้ายเรื่องจะยาวเกินไป การร่วมมือระหว่าง เต๋อ-นวพล กับจีทีเอช เรื่องนี้ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับหนังเข้าใหม่ในช่วงนี้

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.