สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

 
หนังประกวด
  อัญชลี ชัยวรพร / 17 พฤษภาคม 2558
  LINK : เมนูเทศกาลหนังเมืองคานส์
 
Share |
Print   
 


Day 6

Marguerite & Julien นิทานปรัมปราที่แหวกแนว

 



มาถึงตอนนี้สรุปได้อย่างหนึ่งว่าหนังสายทางการปีนี้ของคานส์ไม่ค่อยดีเท่าไร มีหนังที่ทำให้เรางงว่าเข้ามาได้ยังไงอยู่หลายเรื่อง Marguerite & Julien ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ผู้เขียนคงจะสนุกกับหนังเรื่องนี้มากกว่านี้ ถ้าเผอิญไม่มีหนังเรื่อง Tale of Tales เข้ามาก่อนหน้านี้ Marguerite & Julien มีวิธีการดำเนินเรื่องที่คล้ายกัน โดยใช้วิธีการเล่านิทานแบบอีสปเข้ามานำเสนอ (แถมในเรื่องก็ยังเล่าให้เด็กสาวฟังก่อนนอนอีกนั่นแหล่ะ) แต่เนื้อเรื่องนั้นถือได้ว่าทำลายโครงสร้างนิทานปรัมปราอย่างสิ้นเชิง

 



หนังเล่าเรื่องชีวิตความรักของพี่น้องสายเลือดเดียวกันอย่าง Marguerite & Julien ฝ่ายหลังเป็นพี่ชาย ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน และสัญญาว่าจะรักกันจนวันตาย ทำเอาพ่อแม่และบาทหลวงประจำตระกูลเริ่มเห็น พวกเขาตัดสินใจแยกทั้งสองออกจากกัน จูเลียนถูกส่งไปเรียนในเมืองหลวง และไม่เคยได้รับอนุญาตให้กลับบ้านอีกต่อไปเลย เมื่อถึงคราวปิดเทอม เขาก็ไปเรียนพิเศษทางศิลปะบ้าง การเงินบ้าง

จวบจนกระทั่งคนทั้งสองเติบโตกันเป็นหนุ่มสาว แต่แม้ว่าจะห่างไกลกันเท่าไร ความรักของคนทั้งสองก็ยังมั่นคงต่อกันอยู่ มาร์เกอริตปฏิเสธการแต่งงานกับผู้ชายทุกคน และเมื่อถึงคราวที่จูเลียนกลับบ้าน ความรักที่คนทั้งสองมีต่อกันก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง และไม่สามารถหยุดยั้งอีกต่อไปได้

หนังออกจะธรรมดามากค่ะ นอกจากประเด็น incest มันไม่มีอะไรใหม่ อาจจะแหวกแนวไปบ้าง ก็ตรงเนื้อเรื่องและกลุ่มผู้ฟังในหนังเรื่องนี้คือเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ซึ่งถ้าเป็นสังคมเอเชีย หนังเรื่องนี้จะต้องถูกเซ็นเซอร์อย่างแน่นอนค่ะ

ก็ดูกันสนุก ๆ ไม่คิดอะไรมาก ถ้าหนังจะได้รางวัลอะไรไป ก็คงเพราะกรรมการไม่รู้จะให้รางวัลกับหนังเรื่องไหน ก็เลยส่ง ๆ ไปล่ะ


The Measure of A Man หนังสวนทาง


 


ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาวสั้นที่สุดจากหนังประกวดที่ฉายมาก่อนหน้านี้ ด้วยความยาวเพียง 93 นาที ทำให้ดิฉันรู้สึกค่อยยังชั่วเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้หนังบางเรื่องนั้นดี แต่ยาวเกินเหตุด้วยกันทั้งสิ้น

สำหรับ The Measure of a Man มีความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการนำเสนอตั้งแต่แรก หนังเล่าเรื่องสภาพชีวิตของชายวัยห้าสิบที่ตกงาน แต่ต้องรับผิดชอบดูแลภรรยาและลูกพิการ เขาพยายามที่จะประคับประคองสภาพการเงินของครอบครัวให้ผ่านไปได้ จนในที่สุดได้งานทำเป็นยามในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เขาน่าจะดีใจที่ได้งานและช่วยครอบครัวได้ในที่สุด แต่สิ่งที่เขาเผชิญหน้า มันโหดร้ายเสียยิ่งกว่า

Stephen Brize ผู้กำกับวัยห้าสิบคนนี้เคยทำหนังมาแล้ว 5 เรื่อง แต่เพิ่งมีผลงานชิ้นนี้ได้เข้าสายประกวด เขาค่อนข้างจัดเจนในวิถีทางที่เล่าเรื่อง เขาใช้วิธีสังเกตพฤติกรรมและความคิดของตัวละครหลัก ดังนั้นภาพต่าง ๆ มักจะนำเสนอในฉากที่เน้นการพูดตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นหนังทำนอง talking head ไป และใช้มุมกล้องระดับกลางหรือ middle-shot ตลอด โดยจะมีฉากที่ปล่อยให้ตัวละครดำเนินเพียงตัวเดียวอยู่น้อยมาก ดังนั้นภาพส่วนใหญ่จะมีบทสนทนาตลอด หลาย ๆ ตอนมักจะสะท้อนผ่านกระจกหรือกล้อง เพื่อแสดงให้เห็นสภาวะของการถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา

 



แต่ลักษณะนี้มันเริ่มน่าเบื่อหลังจากหนังดำเนินไปครึ่งหนึ่ง และปีนี้ดิฉันมีความเบื่อมากในการดูฉากซ้ำซาก ดิฉันเริ่มคิดว่าสงสัยต้องเดินออกอีกแน่ ๆ

...แต่ปรากฎว่าสถานการณ์เริ่มพลิกค่ะ ประมาณ 20 นาทีสุดท้าย บทเริ่มเปลี่ยน มันไม่ได้แสดงให้เห็นสภาพความยากลำบากของตัวละครหลักอีกต่อไป แต่มันได้สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงในสังคมฝรั่งเศสร่วมสมัย กับปัญหาความยากจน ปัญหาแรงงาน จนตัวละครหลักต้องต่อสู้ภายในจิตใจตัวเอง ระหว่างความมั่นคงในชีวิตกับมโนธรรมในใจเขา

ฉากจบที่ใช้ลองช็อตเป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกสะเทือนในหัวใจ

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.