สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย
  อัญชลี ชัยวรพร / 7 ตุลาคม
  LINK : ข้อมูลหนัง
 
Share |
Print   
       
 


สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย เป็นหนังเล็ก ๆ นิ่ง ๆ เรียบ ซึ่งอาจจะี่ดูเหมือนเป็นเพียงการบันทึกประจำวันของหนุ่มชนชั้นกลางอีสานคนหนึ่ง แต่ในความราบเรียบนั้นมันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดลึก ๆ ของหนุ่มอีสานกับประสบการณ์ในวัยเด็ก การเปลี่ยนก้าวเดินที่สำคัญจากวิศวกรรมสู่การทำหนัง รวมทั้งมุมมองที่เขามีต่อการเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อสองปีก่อน

หนังเริ่มเรื่องจากหนุ่มอีสานคนหนึ่งที่ไปเจอกองถ่ายหนังเข้า ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านที่ขอนแก่นช่วงสงกรานต์ ได้พบเพื่อนเก่า ๆ รวมทั้งสาวรุ่นพี่ที่เคยแอบชอบ ก่อนที่หนังจะสลับกลับไปกลับมาระหว่างเรื่องราวชีวิตของผู้กำกับ ทั้งแผลในใจอันเกิดจากประสบการณ์เมษาในวัยเด็ก รวมทั้งทัศนะต่อทางการเมืองในช่วงท้ายของหนัง ทำให้หนังมีลักษณะพิเศษที่ผสมผสานระหว่างสารคดีและหนังเล่าเรื่องอยู่ในตัว

 

 

หนังดูนิ่ง ๆ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องงบการผลิตอย่างเห็นได้ชัด ภาพส่วนใหญ่ดูเรียบ ๆ ยกเว้นก็มุมกล้องที่เจตนาเดินตามตัวละครอย่างหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายจากข้างหลัง เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของเขาต่อเรื่องราวที่กำลังจะซื่อ    นักแสดงหลักแม้อาจจะไม่ได้ช่ำชองแบบนักแสดงมืออาชีพ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่เห็นในหนังอินดี้หลายเรื่อง หลาย ๆ ฉากชวนให้เกิดความรู้สึกเอ็นดู โดยเฉพาะฉากที่หนุ่มพยายาม “จีบ” รุ่นพี่อีกครั้ง เท่า ๆ กับที่หนังได้สะท้อนให้เห็นภาพของชนชั้นกลางอีสานร่วมสมัยที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยหนัก ไม่ใช่ตลกแบบหม่ำ จ๊กม๊ก ไม่ได้ลำบากยากเข็ญแบบลูกอีสาน

ผู้กำกับเหมือนกับจะ “กด” รายละเอียดของตัวละครและเรื่องราวในอดีตบางอย่างไว้ในตอนแรก จึงทำให้หนังขาดเสน่ห์และเรื่องราวบางส่วนไป เราไม่รู้ว่าหนุ่มเป็นโฟร์แมนที่กลับบ้านเพราะตกงาน เช่นเดียวกับประสบการณ์ในวัยเด็กหลายที่ผู้กำกับพยายามไม่ให้มันดูฟุ่มเฟือย ดังนั้นฉากดูการ์ตูนอิ๊กคิวซัง ซึ่งน่าจะเล่าเรื่องราวได้มากมาย ก็ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนที่ดีที่สุดกลับเป็นการเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของตน ผ่านการสัมภาษณ์พ่อผู้เป็นครู ซึ่งวิชชานนท์ทำได้ดีมาก มันไม่มีการเคอะเขินแบบคนในครอบครัว ไม่ได้เล่น ๆ แบบหนังบ้าน และหนังไม่ได้มีลักษณะฟุ่มเฟือยทางอารมณ์ด้วยการหวลหาอดีต หนังอาจไม่ได้ท้าทายการเล่าเรื่องของชีวิต   แต่มันครุ่นคิด ดูเหมือนไม่ได้มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแผลลึก ๆ ที่เขาต้องก้าวให้ผ่าน ต้องเผชิญหน้ากับมัน การทำหนังเรื่องนี้คือการเผชิญหน้าที่สำคัญของเขา หนังจึงมีลักษณะของการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง (self-relief)

หลายคนอาจจะบอกว่าไม่มีอะไร ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้ ชีวิตคนเรานั้นมันซับซ้อนมากกว่าที่คิด บางเรื่องมันประดังเข้ามา จนเราช็อค แต่มันก็ทำให้เราเผชิญหน้าและก้าวผ่านไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงเช่นกัน แต่เรื่องราวบางอย่างมันแทรกซึมเข้ามาทีละเล็กละน้อย เป็นแค่รอยขีดข่วนในตอนแรก ก่อนที่จะลุกลามเป็นแผลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แผลแบบนี้แหล่ะที่เราไม่รู้ว่ามันอยู่กับเราตั้งแต่เมื่อไร รู้แต่ว่ามันเจ็บลึก ๆ หลายคนก็อาจจะไม่รู้ตัวเลยตลอดชีวิต

เรื่องราวชีวิตมันซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด

แต่พลังที่จะผลักเรื่องราวซับซ้อนแบบนี้ยังไม่มากเท่าที่ควรในหนังเรื่องแรกของวิชชานนท์ ด้วยข้อจำกัดด้านการผลิตและการเลือกที่จะนำเสนอเสียมากกว่า   ผู้เขียนไม่คิดว่าผู้กำกับขาดประสบการณ์ในการถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองนำเสนอ หนังดูนิ่ง ๆ แต่มันต่อเนื่อง ไม่ขัดเขิน ดูไปได้เรื่อย ๆ เห็นเจตนาของผู้กำกับอยู่หลายอย่าง เป็นหนังไม่มีตะเข็บ มันมีความละไม แต่อาจจะยังไม่ได้ทำให้รู้สึกละมุนอย่างถึงที่สุด มันเป็นหนังที่ไม่ได้เสแสร้งอย่างหนังอินดี้หลาย ๆ เรื่องในหลายปีนี้ ที่เอาแต่ตัดต่อแบบสลับไปสลับมา (เกินความจำเป็น)

เช่นเดียวกับคลิปทางการเมือง ซึ่งในตอนแรกอาจจะมองไม่เห็นทรรศนะของผู้กำกับอย่างชัดเจน  หนังพยายามให้ข้อมูลสองด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้บาดเจ็บ หรือการบริการรถที่ให้ผู้ชุมนุมทางการเมืองกลับบ้าน รวมทั้งการตั้งคำถามกับประชาธิปไตยของไทย แต่มันมีประโยคหนึ่งในหนังที่ทำให้เรารู้ว่าผู้กำกับคิดอย่างไร แต่มันไม่มากพอ เลยทำให้หนังดูพยายามเป็นกลาง

จริง ๆ แล้วหนังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวข้างในแบบนี้ ผู้กำกับต้องเสี่ยง ต้องลงทุนที่จะเผยความคิดออกมาอย่างชัดเจน เหมือนกับที่ผู้กำกับกล้าบอกว่าเรื่องราวในวัยเด็กของเขา ซึ่งกลายเป็นจุดที่มีพลังมากที่สุดในหนังเรื่องนี้

หลังจากอาทิตย์ อัสสรัตน์ อโนชา สุวิชากรพงษ์ ศิวโรจน์ คงสกุล ….สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย เป็นหนังที่เราจะได้เห็นลายเซ็นเล็ก ๆ หลายอย่างที่วิชชานนท์เริ่มสลักไว้ และหนึ่งในนั้นก็คือลักษณะที่เป็นแบบฉบับของตนเอง ที่ฝรั่งเรียกว่า original

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.