Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ผลงานกำกับของ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (รักแห่งสยาม,13เกมสยอง) เป็นการเล่าชีวิตของคน 3 วัย คือวัยรุ่น (ช่วงมัธยม), วัยสูงอายุ (ช่วงใช้ชีวิตลำพัง) และวัยทำงาน (ช่วงตัดสินใจมีครอบครัว) โดยเลือกนำเสนอเนื้อหาเป็นตอนๆ อย่างเข้มข้น

วัยรุ่น นำแสดงโดย จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล และกิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา เป็นเรื่องของหนุ่มตากล้องประจำโรงเรียนที่กำลังจบชั้น ม.6 ซึ่งแอบชอบรุ่นน้องชั้น ม.3 หนุ่มนักบาสของโรงเรียน ทั้งคู่ได้ใช้เวลาวันสุดท้ายก่อนต่างฝ่ายต้องแยกย้ายไปศึกษาต่อ เพื่อระลึกถึงมิตรภาพของรุ่นพี่และรุ่นน้อง อารมณ์ของหนังในตอนนี้เหมือนผู้กำกับตั้งใจเปิดเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมได้หวนนึกถึง “รักแห่งสยาม” ก่อน แม้เรื่องไม่ได้มีอะไรเพื่อให้คนดูไปต่อยอดมากนัก แต่บทภาพยนตร์และการเล่าเรื่องชวนให้ติดตาม รวมถึงการแสดงอย่างใสๆ ของนักแสดง ทำให้ส่วนนี้ออกมาดูลงตัว

วัยสูงอายุ นำแสดงโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตหลังจากที่เธอได้สูญเสียสามีไป เธอกลายเป็นผู้ดูแลทุกอย่างแทนสามี ทั้งบ้าน กิจการ รวมทั้งหนี้สิน ในตอนที่สองนี้บทได้ดำเนินอย่างหนักขึ้นและเรื่องส่งให้คนดูจับตามองที่นักแสดงนำ เรื่องได้พูดถึงการใช้ชีวิตจริงที่น้อยคนจะได้อยู่กันไปจนวันตาย มีแต่จะอยู่กันจนตายไปข้างนึง เมื่อฝ่ายหนึ่งจากไป ฝ่ายที่ยังอยู่จะทำอย่างไร เพ็ญพักตร์ยังรักษามาตรฐานความสามารถในการแสดงที่ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง ด้วยสีหน้า อารมณ์ ความรู้สึก เราสามารถรับรู้ไปพร้อมกับตัวละครได้เป็นอย่างดี

วัยทำงาน นำแสดงโดย เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว ที่กำลังแต่งงาน การแต่งงานอาจเป็นบทพิสูจน์ความรักอีกช่วงเวลาหนึ่งของทั้งคู่ แต่ความวุ่นวายยังเกิดขึ้นเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นความไม่เห็นด้วยในหลายอย่างของแม่ฝ่ายชาย, ความกังวลและกลัวการใช้ชีวิตคู่ของเจ้าสาว และการทวงถามสัญญาจากอดีตคนรักเก่า หลายปัญหาได้เข้ามาในเวลาอันสั้นอย่างรวดเร็ว ผมมักเห็นปัญหาหนึ่งของการแสดงกับหนังไทยคือเรื่องของ timing (การใช้เวลา) ซึ่งตอนนี้น่าจะเกิดปัญหาเช่นกัน แต่ผลกลับไม่ใช่ เรื่องตอนนี้สามารถเอาชนะปัญหาที่กล่าวถึงไปได้ แม้ปัญหาจะเกิดในเวลาอันสั้นอย่างรวดเร็ว และความผูกพันของตัวละครต่างๆ ที่อยู่ๆ โผล่มา ไม่มีการปูพื้นมาก่อนเลย แต่บทภาพยนตร์ที่แน่นและการดำเนินเรื่องสามารถช่วยก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ไปได้ทั้งสิ้น บทยังคงหนักในช่วงแรกและคลายลงในตอนท้าย ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจะเข้าไปอยู่ในการจดจำของใครหลายคนได้ไม่ยาก และเป็นการตอบโจทย์การวางเรื่องอย่างฉลาด

โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องอาจดูไม่ได้พิสมัยหรือมีอะไรแปลกใหม่นัก แต่บทภาพยนตร์ที่เขียนออกมาอย่างพิถีพิถันประกอบกับถูกถ่ายทอดออกมาอย่างดี ทั้งการแสดงที่ถือว่าผ่านกันแบบยกทีม และภาพก็ไม่ได้สร้างความแตกแยกกับเรื่อง ทำให้ทุกอย่างดูลงตัว แต่กระนั้นผมติดใจแค่การผูกเรื่องของแต่ละตอนและการเลือกวิธีลำดับภาพที่ยังดูไม่กลมกล่อม และภาพของเด็กผู้ชายที่วิ่งเล่นใต้ท้องฟ้าสีดำแอบขัดอารมณ์ไปบ้างเล็กน้อย

ส่วนตัวแล้ว Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ถือเป็นอีกภาพยนตร์คุณภาพ ที่ไม่ได้ทำให้รู้จักความรัก แต่ผู้สร้างได้สะท้อนออกมาให้รู้สึกถึงความรักกันมากขึ้น

เสียงสะท้อนจากแขกกิตติมศักดิ์

สินจัย เปล่งพานิช
“นกชอบไดอะลอกจากทุกประเด็นของตัวละครทำให้รู้สึกดีมากๆ สำหรับคนที่เป็นแฟนของ “มะเดี่ยว” ต้องชอบแน่นอนค่ะ สำหรับเรื่องนี้มีทั้งความโรแมนติกนิดๆ ดราม่าหน่อยๆ แต่เป็นอะไรที่ทำให้เราได้หลายๆ มุมมองเอากลับบ้านไปได้ค่ะ”

นนทรีย์ นิมิบุตร
“ผมชอบบรรยากาศของหนังทุกๆ ตอนมันมีความพิเศษ หนังเรื่องนี้มันจำลองมาจากชีวิตจริง ความรู้สึกจริงๆ เป็นบันทึกความรัก เป็นความทรงจำทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งรวบรวมไว้ในภาพยนตร์เรื่องเดียวถือว่ายิ่งดูยิ่งอิ่มเอม ประทับใจครับ”

ยุทธนา บุญอ้อม
“เป็นหนังที่ใกล้เคียงกับคำว่า perfect มากที่สุด ผมชอบมากๆ ครับ เรื่องนี้วางตัวละครทุกตัวไว้น่ารักมาก สคริปท์ดีมาก การแสดงของนักแสดงทุกคนถือว่าเข้าขั้นยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในหนังไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ดูแล้วประทับใจมาก ไม่อยากให้ใครพลาดเลยแม้แต่คนเดียว”

ดีเจบ๊อบบี้
“ถ้าใครชอบ “รักแห่งสยาม” นี่คือหนังที่ดีที่สุดต่อจากรักแห่งสยามของ “คุณมะเดี่ยว”ครับ อยากบอกว่าอย่ามองข้ามหนังเรื่องนี้ครับ เพราะหนังเรื่องนี้ คือหนังเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับหนังไทยที่ผ่านมา”

Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ กับรอบพิเศษก่อนใครในวันที่ 12 – 16 เมษายน เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ทุกโรงภาพยนตร์ (เฉพาะกทม.)