รักเว้ยเฮ้ย อีกภาพยนตร์ของเด็กแนวที่ไม่ต้องหวังเนื้อหาสาระ แต่หากต้องการขำกับความบ้าๆ บอๆ ของนักแสดง และจดมุขเสี่ยวๆ ไปใช้จีบสาว ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในสัปดาห์นี้
หนังเล่าเรื่องราวของ ลวก (สตาร์บัค สาระแน) หนุ่มผู้ช่วยดีเจสุดเอ๋อ ที่ตกหลุมรัก โต๊ะอี้ (ชญานุช บุญธนาพิบูลย์) ดีเจสาวสุดน่ารัก ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ความรักของทั้งคู่มาลงเอยกันได้ แต่เพราะการช่วยเหลือจาก น้าหมา (เปิ้ล นาคร) กูรูจีบสาวสุดเพี้ยน กลยุทธ์จีบสาวสุดเสี่ยว ขำบ้างไม่ขำบ้าง ใช้ได้บ้างใช้ไม่ได้บ้างจึงบังเกิดขึ้น
ผมรู้สึกว่าหนังพยายามยัดเยียดหลายสิ่งหลายอย่างเกินไปตั้งแต่เปิดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์ตัวละคร เช่น นางเอกต้องเป็นคนสวย เป๊ะ หรือพระเอกต้องเป็นคนเอ๋อ เนิร์ด หากผู้สร้างเลือกหาจังหวะเปิดตัวนางเอกดีๆ หรือให้เวลาพระเอกได้แสดงพฤติกรรมกิริยามากขึ้นตอนต้นเรื่อง ผมคงจะสัมผัสได้เหมือนกันและคลายความอึดอัดลง
หากจะกล่าวเนื้อหาโดยรวมของหนังอีกครั้งแล้ว เป็นเรื่องของชายที่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยได้เจอเจ้าหญิงแสนสวย และเลือกเล่นของสูง จึงคิดพยายามหาทางและลงมือจีบ ซึ่งโชคได้เข้าข้างจนได้สมหวัง พอคบไปสักพักเกิดการทะเลาะ มีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นธรรมดาและฝ่ายหญิงโกรธ ฝ่ายชายจึงต้องตามง้อ ว่าไปแล้วการดำเนินเรื่องไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากนัก ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก แต่เพราะความธรรมดาเกินไป ที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก หรือใส่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญ จึงทำให้หนังอาจดูน่าเบื่อบางช่วงบางตอนได้เช่นกัน
แม้หนังจะอาศัยมุขเสี่ยวๆ บทตลกอ้วก ตลกเจ็บตัว และดึงฉากนั่งเรือที่ทะเลบางขุนเทียนมาเป็นจุดขายโรแมนติกในช่วงท้าย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้หนังมีพลัง ฉากอื่นๆ ตลอดเรื่อง งานสร้าง สถานที่ถ่ายทำและภาพแทบไม่มีส่วนช่วยส่งเสริมบรรยากาศหนังให้น่าติดตามและมีแรงดึงดูดเลย

ฉากเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกเชื่อจนแอบเศร้าตาม คือฉากเมื่อนางเอกเป็นแฟนกับพระเอกแล้ว กลับไม่มีใครสนใจน้าหมา ซึ่งเป็นคนช่วยผลักดันความรักของทั้งคู่ให้จูนเข้าหากัน ผมเห็นแววตาของเปิ้ล นาครที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างดี แต่ผมก็รู้สึกในช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะผู้สร้างไม่ได้ให้เวลากับตัวละครได้เล่นตามบทบาทหรือให้เวลากับเนื้อหาดำเนินต่อไป
ผมขอบคุณผู้สร้าง ที่นำฉากทะเลบางขุนเทียนมาใส่ไว้ในหนัง ภาพเสาไฟฟ้ากลางทะเล ภาพหลักเขต แม้จะไม่ได้บอกถึงปัญหาที่น่ากลัวในขณะนี้ที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วมากนัก แต่อย่างน้อยก็คงได้เตือนสติคนดูได้ฉุกคิดถึงปัญหาโลกร้อนว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
สิ่งที่ผมเห็นด้วยสองอย่างในหนัง สิ่งแรกคือความไม่มีเหตุผลที่นางเอกโกรธพระเอก ซึ่งนางเอกไม่ได้พยายามจะเข้าใจและฟังคำอธิบายใดๆจากพระเอก นั่นแหละคือความจริงของผู้หญิง และสุดท้ายคือคำถามที่เกิดกับตัวเองว่า ทำไมนางเอกถึงรักพระเอกได้ นั่นอีกแหละคือคำตอบของความรักที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล แค่ให้รู้ว่า รัก..เว้ย..เฮ้ย
|