ด้วยสังคม วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป ผู้หญิงไทยครองความโสดกันนานขึ้น ทำให้อัตราการเพิ่มจำนวนของสาวๆกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่แปลกที่วงการภาพยนตร์ไทยจะเริ่มสะท้อนความคิด ความต้องการ และความวิตกกังวล(เรื่องความโสด)ของพวกเธอ ผ่านทางตัวหนัง อย่าง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ที่ประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างสวยงามเมื่อ 2 ปีก่อน จนถึง 30+ โสด On Sale หนังล่าสุดของค่ายสหมงคลฟิล์ม และ 30 กำลังแจ๋ว ของค่ายเอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ ที่กำลังจ่อคิวเข้าฉายตามกันมาติดๆ
และด้วยความที่ทั้ง 3 เรื่องเป็นหนังรักของสาว (โสด) วัย 30 เหมือนกัน จึงเป็นไปได้ยาก ที่จะห้ามไม่ให้ทั้งคนดูและผู้เขียนนำเอาทั้ง 3 เรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันตรงๆ ยิ่งไปกว่านั้น จากความสำเร็จของ รถไฟฟ้าฯ ทำให้คนดูตั้งความคาดหวังจากหนังอีกทั้ง 2 เรื่องไว้สูงไม่แพ้กัน
เมื่อลองนำมาเปรียบเทียบกันจริงๆ ในขณะที่ รถไฟฟ้าฯ มีความพอดีของบท จังหวะการแสดง และการคัดเลือกนักแสดง 30+ โสด On Sale ยังขาดๆเกินๆในหลายๆด้าน
ในแง่ของบท รถไฟฟ้าฯ ให้ความสำคัญที่ตัวนางเอกคนเดียว เธอเป็นศูนย์กลางของเรื่อง ส่วน พระเอก เพื่อนๆ ครอบครัว งาน ทั้งหมดเป็นเพียงตัวประกอบที่โคจรรอบๆตัวเธอ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนดูเข้าถึงตัวละครได้ไม่ยากเท่าไรนัก เพราะเขาสามารถมองเห็นความเป็นตัวเอง ความคิด-ความฝัน ที่อยู่ในตัวละครของ คริส หอวัง แต่สำหรับ 30+ โสด On Sale หนังให้น้ำหนักกับบทของนางเอกน้อยเกินไป ทั้งยังเพิ่มเรื่องของพระเอกและเพื่อนนางเอกเข้ามาอีกมาก จนทำให้ตัวหนังกลายเป็นเหมือนหนังรักโรแมนติกคอมมะดี้ธรรมดาเรื่องหนึ่งที่บังเอิญนางเอกอายุเกิน 30 เท่านั้นเอง
จริงๆ 30+ โสด On Sale เริ่มเรื่องได้ดี พลอย-เฌอมาลย์ แสดงเป็น อิง สาวยุคใหม่ สวย มั่นใจ การงานรุ่ง แต่ดันมาถูกแฟนหนุ่มที่คบหากันมานาน บอกเลิกอย่างไม่ทันตั้งตัว ลองไปนั่งปฏิบัติธรรมก็แล้ว เดทกับผู้ชายใหม่ๆก็แล้ว คาน ก็ยังคงถามหาไม่หยุด จนมาได้ที่พึ่งสุดท้ายที่สาวๆมักจะใช้เป็นที่พักพิงทางใจเวลาหมดหนทาง นั่นคือ หมอดู ซึ่งทำให้อิงได้เจอกับ จืด (เป้-อารักษ์) พ่อค้าขายหมูปิ้งที่ดูดวงเป็นงานอดิเรก และจากความใกล้ชิดก็เริ่มพัฒนากลายมาเป็นความผูกพัน
แต่แทนที่บทจะยังคงเน้นที่ตัวอิงและด้านอื่นๆของเธอ เช่น ครอบครัว (พ่อแม่คาดหวังให้อิงรีบแต่งงานหรือเปล่า) เพื่อน (ไปงานแต่งงานบ่อยมากหรือเปล่า) และงาน (การสละโสดเป็นอุปสรรคต่อการก้าวหน้าหรือเปล่า) เธอหายไปจากจอหลายครั้ง เรากลับเห็นจืดมากขึ้น ความรู้สึกลับๆที่มีให้อิง (ฉากเล่นกีตาร์) การแข่งขันชนะใจอิงกับหนุ่มไฮโซมาดเท่ (ฉากงานแต่งงานเพื่อน) ครอบครัวที่เหมือนจะมีน้องสาวกันแค่ 2 คน (ฉากกินข้าวที่บ้าน) และการที่ถูกเพื่อนอิงจีบ (ฉากเพื่อนอิงมาดูดวง) ทำให้หนังที่เนื้อเรื่องควรจะเป็นของผู้หญิงวัยใกล้ 30 กลายเป็นหนังรักของคน 2 คนแทน
จังหวะการเดินเรื่องยังมีสะดุดบ้าง บางฉากที่ควรจะตัดให้สั้นกลับถูกปล่อยให้ดำเนินต่อไป อย่างฉากที่อิงไล่แฟนเก่าลงจากรถก็ยังคงเล่ายาวต่อ แต่ไปเน้นที่ตัวแฟนเก่าเป็นหลัก ฉากที่อิงเดินแฟชั่นเล็กๆในคอนโดตัวเองก็ดูยาวจนเกินไปและไม่ได้เพิ่มอะไรให้พล็อตเรื่องเลย หรือฉากที่อิงควงจืดไปซื้อรองเท้าก็เหมือนจะตั้งใจให้ขำแต่ก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไร เช่นกัน
ในแง่ของการแสดง พลอย โอเวอร์แอคติ้งในหลายๆฉาก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ร้องไห้ตาบวมอยู่บนเตียงกินพิซซ่าอย่างไม่กลัวอ้วน หรือตอนทำท่างอนทะเลาะกับจืดในตอนแรกที่มาดูดวง เธอใส่อารมณ์เกินสถานการณ์จนทำให้ตัวละครเป็นเหมือนตัวการ์ตูนล้อเลียน แต่บางฉากเธอก็สื่ออารมณ์ได้ดี อย่างตอนที่โทรศัพท์ไปด่าแฟนเก่าในห้องน้ำ หรือตอนที่สองจิตสองใจว่าจะลบอีเมล์จากแฟนเก่าออกจากอินบ็อกซ์ดีหรือเปล่า ส่วน เป้-อารักษ์ แสดงแนวกวนๆได้ดี อย่างในฉากที่ดูดวงให้อิงในตอนต้นเรื่อง แต่เขาก็ยังไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้เต็มที่ในฉากที่เป็นดราม่า
ในแง่ของตัวนักแสดงเอง พลอยดูไม่เหมาะกับบทนี้ เธอดูสวย เก่ง และมั่นใจมากกว่าที่หญิงไทยส่วนมากจะมองตัวเองเป็นแบบตัวละครนั้น บวกกับการที่พระเอกซึ่งไม่ได้เป็นคนหล่อมากมาย จะมาชอบเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก ต่างกันกับ คริส ใน รถไฟฟ้าฯ ที่คนดูเข้าถึงได้เพราะเธอไม่ได้สวยมากแต่มีความหมวยน่ารักใสๆ ตลกๆ อย่างที่หญิงไทยส่วนมากมองตัวเองเป็นอย่างนั้น และการที่สุดหล่ออย่าง เคน ธีรเดช มาชอบเธอได้นั้นมันก็เหมือนฝันที่เป็นจริง
จะว่าไปแล้ว รถไฟฟ้าฯ เป็นเรื่องที่ขายความฝัน ว่าสักวันจะมีโอกาสได้คบกับหนุ่ม หล่อทะลุแป้ง อย่าง เคน ธีรเดช บ้าง แต่ 30+ โสด On Sale ขายความเป็นจริง ว่าคนที่ใช่ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคที่สุดแต่อาจเป็นคนที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง ก็เป็นคนละมุมมองแล้วแต่ใครจะชอบ ความฝันย่อมมีพลังมากกว่าความจริง แต่ความจริงนั้นเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับมันให้ได้
30+ โสด On Sale หนังเจาะกลุ่มสาว (โสด) วัยใกล้ 30 ที่ให้เสียงหัวเราะบ้าง ซึ้งบ้าง แต่ขาดๆเกินๆในหลายๆด้าน จึงยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เราคงต้องรอดูต่อไปว่า หนังอีกเรื่องที่มีเป้าหมายเป็นกลุ่มสาว (โสด) วัย 30 เหมือนกัน จะเป็นอย่างไร
|