สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

ไทย / English
หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

สวย สิงห์ กระทิงแซ่บ

 

23 มกราคม 2551 / ณัฎฐ์ธร กังวาลไกล

  ©thaicinema.org
 

เดือนมกราคมของปีนี้ต่างจากหลายๆ ปีอยู่ไม่น้อย ตรงที่หนังไทยออกฉายเกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งตรงข้ามกับปีก่อนๆ ที่จะมีหนังแค่ในช่วงสัปดาห์วันเด็ก  ถึงจะมากในปริมาณ แต่ก็ไม่อาจจะยืนยันได้ว่าเปี่ยมไปด้วยคุณภาพหรือเปล่า  หลายๆ เรื่องดูเหมือนจะถูกปล่อยออกฉายเพราะค่ายหนังไม่รู้จะเอามาฉายเมื่อไหร่ดี และทางค่ายก็คงอยากจะลองเสี่ยงดวงดู โดยไม่ได้หวังอะไรมากนัก  “สวย สิงห์ กระทิง แซ่บ”  ก็คงจะเข้าข่ายนั้น เพราะตัวหนังเองมีการโปรโมตตามสื่อต่างๆ ไม่เยอะนัก

ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้  พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม  เคยทำหนังมาหลายเรื่อง  ไม่ว่าจะเป็น “เพื่อนกันเฉพาะวันหยุด”   ก่อนจะเว้นว่างไป 5  ปี  แล้วตามมาด้วยผลงานที่ไม่เคยซ้ำแนว ไม่ว่าจะเป็นสองตอนใน“ผีสามบาท”, “พันธุ์ร็อคหน้าย่น” , “ไทยถีบ” รวมถึงหนังแฟนตาซีที่สร้างไม่เสร็จซึ่งนำแสดงโดยอัครา อมาตยกุล

ถ้ามองเผินๆ อาจจะหาภาพรวมมาเชื่อมหนังเขาไม่ได้  แต่ถ้ามองดีๆ ก็จะพบว่าเขาดูจะชอบหนังตลกเป็นพิเศษ

เล่าเรื่องของคนที่ถูกดึงให้ไปอยู่ในสถานการณ์วุ่นวายแบบตกกระไดพลอยโจรและชอบแถมยังพยายามจะให้เรื่องราวมีความสลับซับซ้อนยากแก่การคาดเดา  แต่หนังแบบนี้  การจะทำให้ดีนั้นก็ต้องอาศัยบทภาพยนตร์ที่แม่นยำ และเล่าเรื่องได้อย่างสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ

น่าเสียดายที่ “สวย สิงห์ กระทิง แซ่บ” ไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้  แม้โครงเรื่องของหนังจะดูน่าไปในทางนั้น เรื่องย่อของหนังก็มีอยู่ว่าโจรและนักตุ๋นสองคนที่เป็นเพื่อนกัน (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์กับศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) ได้รับการไหว้วานให้ช่วยตามหาดาว (สุวนันท์ คงยิ่ง) ให้กลับไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด แต่ไปๆ มาๆ สามคนนี้ก็ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล้นเพชรมูลค่ามหาศาลที่มีเสี่ยบรรหาร (จรัสพงษ์ สุรัสวดี) อยู่เบื้องหลัง และต้องโดนตามไล่ล่าทั้งจากฝ่ายเสี่ยและตำรวจที่ทำคดี

เหตุการณ์ของหนังส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับการเอาเพชรคืน และหักเหลี่ยมเฉือนคมกันระหว่างเสี่ยกับพวกพระเอก  แต่ปัญหาของบทอยู่ที่การเล่าเรื่อง  จริงๆ การพัฒนาเหตุการณ์ การผูกเรื่องทำได้โอเคแล้ว  แต่ บางครั้งตัวละครหลายตัวไม่ได้ถูกอธิบายที่มาที่ไปที่มาเกี่ยวข้องกัน  นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกสองคนที่มีต่อกันและมีต่อนางเอก  ตัวละครอื่นๆ หลายๆ ตัวกลับเข้ามาในเรื่องแบบไม่มีที่มา ยกตัวอย่างตำรวจคนหนึ่งที่รู้จักกับพวกพระเอก ซึ่งหนังก็ไม่ได้บอกว่ารู้จักกันเพราะอะไร นอกจากบอกว่าตำรวจรู้ว่าพวกพระเอกเคยเป็นโจร  ไม่จำเป็นถึงกับต้องมีฉากแฟลชแบ็คย้อนกลับไปในอดีต อาศัยตัวบทสนทนาก็สามารถอธิบายได้  บางทีผู้กำกับควรที่จะหลีกเลี่ยงการคิดแทนคนดู  หรือเอาเพียงความเข้าใจของตัวเองเป็นหลักมาใช้ในการเล่าเรื่อง

ช่วงท้ายๆ ของหนังก็ยังมีปัญหา เมื่อมีแต่เหตุการณ์ซ้ำซากประเภทนางเอกโดนผู้ร้ายจับ และพระเอกต้องไปช่วย แล้วนางเอกก็โดนผู้ร้ายจับไปอีก พระเอกก็ไปช่วยอีก เหมือนคนเดินอยู่กับที่  เรื่องไม่เดินหน้าไปไหน  แถมยังลดความน่าติดตามในตัวลงไปเรื่อยๆ  สุดท้ายฉากไคลแม็กซ์ที่ควรจะตื่นเต้นและสนุกกว่านี้ก็เลยกลายเป็นแค่ “เออ จบแล้วนะ” ไป

มุขตลกของหนังก็อยู่ในระดับที่มีได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ยิงมุขหูดับตับไหม้จนเรื่องไม่ได้เดินหน้าไปไหนแบบที่หนังตลกบางเรื่องเป็น  มุขตลกต่ำๆ ประเภทเล่นกับอุจจาระหรือคนแก้ผ้าโชว์ตูดยังคงมีอยู่  แต่ลดระดับความน่าเกลียดลงไปพอสมควร ยังดีที่รสนิยมของผู้กำกับไม่ได้ต่ำเกินไป

งานด้านเทคนิคอย่างการถ่ายภาพก็เป็นไปตามมาตรฐานของหนังค่ายนี้  ที่ต่างออกไปเห็นจะเป็นการตัดต่อที่แอบโชว์ลูกเล่นบ้างเล็กน้อย  มากกว่าจะเดินหน้าไปอย่างทื่อๆ  สำหรับเอฟเฟกต์ ฉากยิงกัน เปลวเพลิงเวลาที่ปืนถูกยิงมันดูหลอกๆ ตาชอบกล


ในส่วนการแสดงของเหล่าดาราก็เหมือนเอาความเป็นตัวของตัวเองช่วยให้เอาตัวรอดได้  ไม่ว่าจะเป็นสุวนันท์ คงยิ่ง ที่ชื่อของเธอเป็นชื่อขายหลักของหนัง เธอยังมีเสน่ห์อยู่ และบทดาวก็ไม่ต่างจากบทสาวแก่นแก้วและเจ้าเล่ห์ในละครทีวีบางเรื่องของเธอ เช่นเดียวกับวีรภาพที่ไปได้เรื่อยๆ  ไม่ได้น่าประทับใจอะไร  ส่วนศุภกรณ์ เขาเคยเล่นบทที่ท้าทายและยากกว่านี้  หนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นการพักร้อนสำหรับเขา ลึกๆ แล้วก็น่าเสียดายอยู่  เพราะเขาน่าจะได้เล่นอะไรที่ดึกศักยภาพของเขาออกมามากกว่านี้

อีกคนที่น่าเสียดายในฝีมือคืออิม อชิตะ หนังสองเรื่องหลังของเธอ (ซึ่งเป็นหนังพระนครฟิล์มทั้งสองเรื่อง) ล้วนแค่ให้เธอมาเป็นตัวประกอบฉากและปล่อยมุกสองสามมุก เธอไม่ได้ฉายแสงโชว์ความสามารถที่แท้จริงแบบที่เคยทำไว้กับ “ซัตเตอร์” และ “13 เกมสยอง” เลย  และเมื่อดูจากการเลือกรับบทของเธอและภาพรวมของหนังไทยที่ออกมาตอนนี้  คงจะอีกสักพักกว่าจะได้เห็นเธอกลับมา “ปล่อยของ” อีก

สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นหนังที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด  คงยากที่จะประสบความสำเร็จได้ คนที่อยากไปดูหนังเรื่องนี้เพราะชื่อของดารานำก็อาจจะมีแต่ไม่น่าจะมากพอ  เพราะนอกจากการโปรโมตจะน้อยแล้ว  เสียงวิจารณ์ปากต่อปากจากคนที่ได้ดูหนังมาแล้ว  ก็คงจะไม่ใช่ในแง่ที่ชักชวนให้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ 

 

 

  ©thaicinema.org
   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.