หลังจากที่มีโอกาสได้ดูหนังของผู้กำกับธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามของคุณเป็ด เชิญยิ้ม วันรุ่งขึ้นดิฉันก็ต้องไปถอนฟันกรามตามที่นัดไว้กับหมอฟัน ที่เล่ามานี้คุณผู้อ่านอาจจะรู้สึกว่ามันไม่มีความข้องเกี่ยวกันเลย แต่ที่อยากจะบอกก็คือความรู้สึกในการดูหนังก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่นี้ กับการอ้าปากให้หมอพยายามเอาคีมมาดึงฟันกรามออกจากปากมันช่างให้ความรู้สึกทรมานไม่ต่างกันเลยจริงๆ
ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยได้ดูรายการก่อนบ่ายคลายเครียดทางโทรทัศน์บ้างนานๆ ครั้ง และต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็รู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินได้พอสมควร อาจไม่ถึงขนาดขำจนท้องแข็ง แต่ก็คลายเครียดไปได้สมกับชื่อรายการ และนั่นคือความรู้สึกคาดหวังก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าโรงเพื่อดูหนังเรื่องนี้
แต่ดูเหมือนความเคยชินในการทำรายการก่อนบ่ายฯ มานานเป็นสิบปีจะทำให้การทำหนังของคุณเป็ด เชิญยิ้มครั้งนี้เดินมาผิดทาง เพราะหนังเรื่องก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่ฯ ไม่ต่างอะไรจากการเอารายการก่อนบ่ายคลายเครียดที่ฉายเป็นตอนๆ ตอนละประมาณครึ่งชั่วโมงมาฉายต่อกัน โดยพยายามให้มีเนื้อเรื่องมาจับโยงให้ออกมาเป็นหนังเรื่องเดียว
ในความเป็นจริงเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับหนุ่มดอยนามว่า ทีป้อ (อ๊อฟ AF2) ที่หลงรักคุณดอกไม้ (อเล็กซานดรา สติเบิร์ท) สาวไฮโซที่มาเป็นครูชั่วคราวบนดอย และลงทุนถึงขนาดชวนพรรคพวกอีกสองคน (นุ้ย เชิญยิ้ม และจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) เข้ากรุงเทพมาตามหาเมื่อคิดว่าหญิงสาวเข้าใจบางอย่างผิดจนหนีมา ก็น่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่สร้างความสนุกแบบเพลินๆ ได้ไม่ยากนัก เพราะหนังที่มีการเอาตัวละครให้ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ และการใส่รายละเอียดในส่วนของการผิดที่ผิดทางให้น่าสนใจก็น่าจะทำให้หนังสนุกและมีสีสันได้เป็นอย่างดี
แต่กลายเป็นว่าความสนุกจากการผิดที่ผิดทางของตัวละครที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญของเนื้อเรื่องกลับถูกเอามาเล่นแค่ไม่มากนัก ในขณะที่ส่วนที่ผิดที่ผิดทางจริงๆ กลับเป็นการให้น้ำหนักกับตัวละครบางตัวมากไปในช่วงท้าย กับมุขตลกส่วนใหญ่ที่ไม่ต่างจากหนังตลกเรื่องอื่นๆ ส่วนมากในตอนนี้ ที่โดดออกมาจากเนื้อเรื่องแบบที่อยากใส่อะไรก็ใส่กันมานั่นเลยทีเดียว
และน่าเสียดายที่ถึงคุณเป็ด เชิญยิ้มจะแม่นในเรื่องการวางจังหวะแอ๊คชั่นของตัวละคร ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในหนังตลก และการแสดงของบรรดาชาวตลกทั้งหลายจะทำได้ดี แต่ผลที่ออกมาของบรรดามุขทั้งหลายกลับมีเพียงไม่กี่มุขเท่านั้นที่สร้างเสียงหัวเราะได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในขณะที่มุขตลกที่เหลือทำได้อย่างมากแค่หัวเราะหึๆ ไปจนถึงขั้นนิ่งจนอิดโรย
แต่ส่วนของมุขตลกที่ไม่ค่อยบรรลุผลนี้ ก็ยังไม่ใช่ส่วนที่ทำให้ทรมานถึงขนาดต้องเอาไปเทียบกับการถอนฟัน แต่กลายเป็นเรื่องของมุมมองของผู้กำกับมากกว่าที่ทำให้หงุดหงิดได้ขนาดนั้น เพราะนอกจากความน่าเชื่อถือที่ไม่มีอยู่เลยในตัวละครแล้ว ยังมีอีกหลายช่วงหลายตอนของก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่ที่มุขตลกที่ใช้เป็นเรื่องลามกใต้สะดือ ทั้งการให้มีฉากฉีกเสื้อผู้หญิงแล้วจะเอาไปข่มขืนก่อนตบมุขว่าพอถึงคิวที่เป็นหญิงแก่โจรก็อ้วกแล้วกลับไป ฉากหมอผีในหมู่บ้านเอาน้ำตาเทียนสะบัดใส่สาวชาวบ้านก่อนทำเสน่ห์แล้วพยายามจะปล้ำ ไปจนถึงการให้มีตัวละครเป็นผู้หญิงกลางคืนที่ดูจะสนุกสนานเหลือเกินกับการทำงาน ฯลฯ
ฉากเหล่านี้ถึงจะมีขึ้นเพื่อเจตนาในการปล่อยมุข แต่การเอามาใส่ในหนังโดยไม่หวังผลในแง่ของการเล่าเรื่อง หรืออารมณ์ของตัวละคร แต่หวังแค่เสียงหัวเราะจากคนดู ก็แสดงให้เห็นถึงมุมมองของผู้กำกับที่ขาดความละเอียดรอบคอบในการนำเสนอ และขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่พอสมควร เพราะทุกวันนี้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ และการไม่เห็นคุณค่าในตัวเองของผู้หญิงก็มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยจนน่าสังเวชใจอยู่แล้ว จนไม่ควรต้องมีการปลูกฝังกันอีก โดยเฉพาะผ่านการแฝงอยู่ในหนังที่หวังให้เป็นทางเลือกสำหรับความบันเทิงในช่วงปีใหม่อย่างในหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ทีมงานทุกคนจะไม่มีเจตนาในแง่ลบเลยก็ตาม
เพราะสุดท้ายก็ต้องยอมรับกันว่าหนังเป็นสื่อมวลชนแขนงหนึ่ง ที่มีอิทธิพลกับความคิดของคนดูได้ในวงกว้าง และผู้กำกับควรคิดให้มากขึ้นในการทำหนังเรื่องต่อไป (ถ้าจะมี) อย่างน้อยก็เพื่อให้ได้ชื่อว่า แม้จะเป็นเพียงหนังตลกที่ไม่ได้หวังจะสะท้อนหรือตีแผ่ปัญหาสังคม แต่ก็เป็นหนังตลกแบบสะอาดๆ ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับคนดู
เกี่ยวกับผู้เขียน :
ธัญวรรณ เหมพนม อายุ 28 ปี จบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจาก ม.กรุงเทพ และปริญญาโทจากนิด้า คณะเศรษฐศาสตร์
ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม แต่หลังจากได้มีประสบการณ์ทำงานแบบเต็มตัวก็ทำให้พอจะรู้ตัวว่าอยากทำงานอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับหนังมากจริงๆ จนไม่อยากทำงานด้านที่จบมา เลยกำลังจะออกจากงานเพื่อมาหาทางทำงานเกี่ยวกับหนังตามที่ชอบแบบเต็มตัวต้นปีหน้านี้
ส่วนที่เกี่ยวกับหนังก็มี
- อบรมภาพยนตร์วิจักษณ์กับมูลนิธิหนังไทย
- เรียนคณะมนุษยศาสตร์รามคำแหงเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
- เขียนบทหนังสั้นประกวดตามที่ต่างๆ
- เขียนบทความส่งตามที่ต่างๆ
- ช่วยในทีมเขียนบทหนังของบริษัทแห่งหนึ่ง
- เตรียมทำหนังสั้น และเขียนบทหนังยาวของตัวเอง |