การที่ได้ไปดูหนังที่เมืองคานส์ยาวนานถึงสองสัปดาห์เมื่อเดือนที่แล้ว มันทำให้ดิฉันกลับกลายเป็นคนดูหนังที่มีปัญหาอย่างยิ่งเมื่อกลับถึงเมืองไทย
เพราะหลังจากนั้นแล้ว ดิฉันดูหนังไม่สนุกสักเรื่อง แม้แต่หนังฝรั่งอย่าง Shrek 3 ก็เถิด ยิ่งถ้าพูดถึงหนังไทยแล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ และที่สำคัญ
มุมมองเชิงวัฒนธรรมที่ปรับตัวมาใช้เวลาดูหนังไทย หรือดูหนังไทยเฉพาะกรอบมาตรฐานของหนังบ้านเราหรือหนังเอเชียนั้น มันก็มลายหายไปจากอินทรีย์
เพราะฉะนั้น สี่งที่เกิดขึ้นขณะดูหนังรอบสื่อ สวยลากไส้ เมื่อคืนนี้ จึงเต็มไปด้วยความกระสับกระส่ายครั้งแล้วครั้งเล่า จนเพื่อนรุ่นน้องอย่าง นายเที่ยง ที่ได้ชื่อว่าปากกล้าที่สุดจนไม่เคยได้รับเชิญจากค่ายหนังหลายแห่ง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า มันเป็นแค่หนังครับ พี่
ขนาดนายเที่ยงยังต้องเตือน แสดงว่าเรากำลังมีปัญหาจริง ๆ
สวยลากไส้ เริ่มเรื่องด้วยการตัดต่ออย่างฉับไว ประทับใจโก๋อยู่ไม่น้อย หนังเริ่มเรื่องในห้องผ่าตัดแห่งหนึ่ง มีหมอและพยาบาลสาวสวย ๆ ทั้งนั้นเลย พยายามเชือดนางพยาบาลสาวอีกคน ซึ่งหลุดคำพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า ฉันจะแฉให้หมดว่าพวกแกค้าศพ สู้กันไปสู้กันมา เธอก็ถูกเชือดในที่สุด พร้อมประโยคหนึ่งขึ้นมาว่า ในคืนวันที่ 7 คนที่ตายไปแล้วจะกลับมาหาคนรัก ประมาณนี้
หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็เริ่มอีกครั้งในห้องสังสรรค์ของเหล่าพยาบาล บางคนก็ออกกำลังกาย บางคนก็แต่งหน้าทาปาก บางคนก็เอ็นจอยการกิน พยาบาลสาวเอ๊ะ ซึ่งบ้าการแต่งหน้าแต่งตัวอย่าบ้าคลั่ง ก็เริ่มปรารภเรื่องความเชื่อที่ว่า ผีจะกลับมาแก้แค้นหลังจากตายไปเจ็ดวัน แล้วก็เกิดมีปากมีเสียงกัน มีการสั่งสอนกันบ้าง แล้วก็ผ่านกันไป บางคนก็แยกย้ายกลับเข้าห้องส่วนตัว
ขณะนั้นเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมง ก่อนจะถึงเที่ยงคืน ก็จะพ้นเวลาเจ็ดวัน แล้ว แต่การล้างแค้นของผีสาวตาหวานก็เริ่มตรงนี้แหล่ะ
หนังเริ่มประสบการณ์เจอผีของแต่ละคนแตกต่างกันไป ตามลักษณะเด่นของพยาบาลสาวแต่ละคน คนที่ชอบกิน ก็เจอผีมาเล่นด้วยตรงปาก คนที่บ้าคลั่งเรื่องความสวยความงามของสรีระและเรือนผม ก็เจอผีมาเล่นผม คนที่บ้าแบรนด์เนมอยากเป็นไฮโซ ก็เจอกระเป๋าครอบหัว คนที่บ้ามือถือ ก็ต้องตายเพราะมือถือ
เรียกได้ว่า รู้หมดว่าผู้กำกับและคนเขียนบทมีทรรศนะต่อผู้หญิงอย่างไรบ้าง บ้าความสวยงามจนเกินเหตุ บ้ารักษาหุ่น บ้ายี่ห้อ บ้ากิน บ้าอยากแต่งงาน บ้ามือถือ แล้วพวกเขาก็จับตรงนี้มาเล่น บรรดาพยาบาลสาวสวยต้องตายเพราะสิ่งที่ตัวเองบ้ากันนั่นแหล่ะ ประเภทหมองูตายเพราะงู
แต่ตรงนี้ ดิฉันไม่ค่อยซีเรียส ไมได้เป็นเฟมินิสต์เข้าข้างผู้หญิงอย่างเดียว ว่าไปแล้วผู้หญิงก็ควรจะสะท้อนมองตัวเองในเรื่องนี้เหมือนกัน
ดิฉันยอมรับว่า หนังมีการตัดต่อที่กระชับ ชวนให้ติดตามอยู่เหมือนกัน ถ้าจะมีปัญหาบ้าง ก็ช่วงต้น ๆ ที่อยู่ดี ๆ บอกว่าเหตุการณ์การล้างแค้นเริ่มตอน 15 นาทีก่อนเที่ยงคืน เล่าเรื่องเจอผีของพยาบาลไปแล้ว 2- 3 คน เสร็จแล้วทำไมต้องย้อนไปก่อนหน้านั้นอีก (หนังบอกว่า 15 นาทีก่อนหน้านี้ ซึ่งหมายถึงครึ่งชั่วโมงก่อนเที่ยงคืน) มันก็เลยทำให้ดิฉันออกจะงง
และที่สำคัญ พยาบาลคู่แฝด ถูกผีหลอกในห้องพักผ่อนแล้ว และดูเหมือนจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ ทำไมตอนหลังหนังมาเล่าเรื่องใหม่ ให้สองคนมีเหตุให้พลัดกัน และต้องตายด้วยวิธีใหม่อีก (งงมาก) อ้าวแล้วที่ถูกผีหลอกให้สลบคาโต๊ะ มันคืออะไร
หนังพยายามบอกที่มาที่ไป ซึ่งก็ขมวดปมกับความเป็นจริงบางอย่างที่จะมาเปิดเผยในตอนท้ายได้ (แต่นั่นไม่ได้หมายความจะเห็นด้วยกับพล็อตเรื่องแบบนี้นะ) เพียงแต่ว่าทางผู้กำกับและคนเขียนบทไม่ได้คิดทำอะไรมั่ว ๆ เท่านั้นเอง
เช่นเดียวกับแสงสีเรื่องนี้ใช้ได้ ถือว่าดี เข้ากับแคแรคเตอร์พยาบาลแต่ละคน
แต่ปัญหาก็คือ วิธีการตัดต่อที่สลับกันไปกันมา บวกกับความรุนแรงและโหดของหนัง ทำเอาตัวเองกระสับกระส่ายตลอดเวลา
ปรกติถ้าดูหนังผีดี ๆ แล้ว มันจะทำให้เรากลัวจากการสร้างบรรยากาศ ความรู้สึก ไม่ใช่ขยะแขยง หรือรุนแรง ดิฉันยอมรับว่าความน่ากลัวของผีใน สวยลากไส้ นั้นมีอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตอนที่เราเห็นมาแล้วในหนังตัวอย่าง อย่างตอนแปรงฟัน เป็นต้น
แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนัก เอาเป็นว่าตัวเองไม่ได้หลับตาเพราะกลัวผี แต่หลับตาเพราะความโหดของเรื่อง ไม่ว่าจะเหงือกที่หลุดออกมาทั้งปาก ซากผีทารกหลุดจากขวดดองไปปิดปากไว้ ฉากโอชาถูกผีใช้ผมรัดตัว จนพุ่งไปตายในบ่อเลี้ยงปลา ฉากพยาบาลเอ๊ะถูกกระเป๋าครอบหัว แล้วพยาบาลนุ๊กพยายามลบรอยตะเข็บออก แต่มันคือตะเข็บต่อหัว เอ๊ะก็เลยกลายเป็นผีหัวขาดในบัดดล
โอ๊ว
. ทำไมฉันจะต้องมาดูหนังโหด ๆ แบบนี้นะ
เอาเป็นว่า ฉันกลับถึงบ้านไม่ได้กลัวเข้าห้องน้ำ เหมือนอย่างดูหนังผีเรื่องอื่น ๆ แต่ไม่กล้าหยิบอะไรมากินเลย แม้กระทั่งนมกล่อง
แล้วดิฉันก็พยายามมาให้เหตุผลกับหนังอีกนั่นแหล่ะ อ้าว ทำไมดิฉันดูหนัง Deathproof โหด ๆ ของเควนติน ตารันติโนได้ นั่นก็เลือดกระฉูดเหมือนกัน
แต่เผอิญเควนตินเขาเน้นความรุนแรง แต่ไม่ขยะแขยงน่ะ ออกจากโรงหนังก็ลืมไปแล้ว และที่สำคัญเควนตินแกสร้างความรุนแรง เพื่อประชดหนังเมนสตรีมของฮอลลีวู้ดเขา
อ้าว ผู้กำกับไทยก็มีเหตุผลนะ เขาอาจจะอยากเตือนผู้หญิงให้ระวังเรื่องกิน ก็เลยให้เหงือกขาด ให้หัวขาดตายไปกับกระเป๋าแบรนด์เนมซะเลย
อืม ดิฉันไม่ชอบภาพน่ากลัวขยะแขยงน่ะ แล้วทำไมดิฉันจะต้องมาดูหนังแล้วปิดตาอยู่หลายครั้งล่ะ
สรุปแล้ว มันเป็นปัญหาของดิฉันเองทั้งหมด ที่ดันไปดูหนังเมืองคานส์ ที่ไม่ชอบดูหนังขยะแขยง
จบ
|