สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
อินทรีแดง ทักทายแฟนหนังกลางแจ้ง
  18 ตุลาคม 2553 /
   
 

 

เทศกาลหนังปูซานนั้นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่จะให้ทีมงานหนังและดารา พบปะกับแฟนหนังที่เวทีกลางแจ้ง ซึ่งเท่าที่ผ่านมา เห็นคุณนนทรีย์ นิมิบุตร ขึ้นเวทีทักทายกับแฟนหนังเมื่อสิบปีที่แล้ว พร้อมกับคริสตี้ ชุง จากภาพยนตร์เรื่อง จันดารา (2543)

ต่อมาก็เป็นน้องแน็ก ชาลี ไตรรัตน์ ตอนที่ได้คัดเลือกเข้าโครงการ Star Summit และอนันดา เอเวอริ่งแฮม ซึ่งได้รางวัลดาราชั้นนำแห่งเอเชียรุ่นใหญ่  ซึ่งได้ปรากฎตัวออีกเช่นกันพร้อมกับนนทรีย์ นิมิบุตร จากหนังเรื่่อง ปืนใหญ่จอมสลัด

ปีนี้ อินทรีแดง ได้รับเกียรตินี้เช่นกัน วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง นำดาราทั้งสอง คือ อนันดา เอเวอริ่งแฮม และวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ขึ้นเวทีพบปะและทักทายแฟนเพลงอีกเช่นกัน

 

 

   


อนันดา วรรณสิงห์ ฮ็อต  
  12 ตุลาคม 2553 / ณัฎฐ์ธร กังวาลไกล รายงาน
   
 

 

หลังจากฉายในเมืองไทยไปได้ห้าวัน “อินทรีแดง” ก็ฉายในระดับนานาชาติครั้งแรกที่เทศกาลหนังปูซาน หนังได้รอบฉายประมาณ 3 รอบเท่าๆ กับหนังไทยเรื่องอื่น (แต่ฉายจำนวน 6 โรง) หนังฉายรอบแรกไปแล้วสองรอบเมื่อสองสามวันก่อน แต่เพิ่งจะมีรอบที่เป็นคิวแอนด์เอไปในวันที่ 12 เพราะต้องรอให้วิศิษฎ์เดินทางมาถึงเสียก่อน

“อินทรีแดง” ฉายที่เดียวกับ “ที่รัก” และ “ไฮโซ” คือ ลอตเต้ ซีเนม่า ซึ่งเท่าที่ผ่านมาจากการฉายหนังไทยเรื่องอื่นๆ ก็จะมีปัญหาในเรื่องของระบบเสียงบ้างที่ส่วนใหญ่จะดังเกินไป และขอบของภาพที่ปรากฎบนจอจะดูขาดๆ ไป แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไรของผู้ชมชาวเกาหลี

ระหว่างที่ “อินทรีแดง” ดำเนินเรื่องไป ผู้ชมส่วนใหญ่ก็ดูจะสนุกไปกับหนังดี มีเดินลุกออกบ้างสองสามคน และมุกตลกหลายๆ มุกก็เป็นที่ถูกใจของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นมุกอินทรีแดงกับผ้าอนามัย หรือในฉากที่กล้องแพนไปที่รูปถ่ายของนายกดิเรก กับประธานาธิปดีโอบาม่า ที่คนไทยไม่ขำ แต่ผู้ชมที่นี่ขำ หรือมุกที่วรรณสิงห์ขี่รถไอติมไล่ตามผู้ร้าย ที่เรียกเสียงฮาอย่างเบาๆ และฉากปิดท้ายของหนังที่จบแบบไม่จบ ที่เรียกเสียงฮาได้จากความงงๆ แน่นอนว่ามุกตลกแบบไทยๆ ที่เล่นกับภาษาหรือวัฒนธรรมเฉพาะ จะไม่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ชมที่นี่ได้เลย

 

 

หลังหนังฉายจบ ระหว่างรอคิวแอนด์เอ ผู้ชมหลายคนก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นอนันดา พระเอกของเรื่องนั่งอยู่ด้านนอกโรง และเสียงกรี๊ดมาแบบเต็มๆ เมื่อวิศิษฎ์อนันดา และวรรณสิงห์ปรากฎตัวพร้อมกันบนเวที ก็มีเสียงกรี๊ดจากชาวเกาหลีที่รอฟังคิวแอนด์เออยู่ คำถามส่วนใหญ่ที่ถามก็มักจะถามว่า จะมีภาคต่อจริงๆ เหมือนอย่างที่บอกไว้ในตอนจบของหนังหรือเปล่า? วิศิษฐ์ยืนยันว่าเขาจะเลิกทำหนัง หรืออย่างน้อยก็ขอพักไปทำอย่างอื่นก่อน จริงๆ ก็เขียนเรื่องไว้สำหรับทำสองภาค แต่หมดแรงแล้วก็คงจะหมดแค่นี้ หนังเรื่องนี้จะไม่มีภาคต่อแน่ๆ มีชาวเกาหลีผู้ชายคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาพูดภาษาไทยแบบงูๆ ปลาๆ เพราะเพิ่งเข้าครอสเรียนมา เขาขอให้อนันดากับวรรณสิงห์พูดอะไรก็ได้หน่อย วรรณสิงห์จึงพูดทักทายเป็นภาษาเกาหลี ในขณะที่อนันดาได้แต่บอกว่า โดนแย่งมุกพูดเกาหลีไปก่อนแล้ว นอกจากนั้น ผู้ชมชาวเกาหลียังถามอนันดาว่าชอบกินอาหารอะไรเป็นพิเศษ อนันดาตอบว่าเมื่อวานกินบาร์บีคิวไป แต่ที่ทั้งกลัวทั้งอร่อยคงหนีไม่พ้นปลาหมึกสดๆ เป็นๆ ที่คนเกาหลีชอบกินกัน ผู้ชมคนหนึ่งถามทั้งสามคนว่า คิดยังไงกับโรงหนังล็อตเต้ ซีเนม่า ซึ่งเป็นที่จัดฉายหนังของเขา ทั้งสามก็ตอบเหมือนกันว่าชอบ และคิดว่ามีคุณภาพทันสมัยดี

ส่วนคำถามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหนัง ผู้ชมคนหนึ่งถามว่า อินทรีแดงมีอะไรพิเศษต่อคนไทย วิศิษฐ์เล่าว่า เคยเป็นหนังที่ได้รับความนิยมเมื่อ 40 ปีก่อน และนำเอากลับมาสร้างใหม่ แต่เวอร์ชั่นนี้จะทันสมัยขึ้น และปรับให้ตัวละครดูโหดขึ้นตามสภาพสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ผู้ร้ายก็กำหนดให้เป็นองค์กรลับที่ชักใยอยู่เบื้องหลังนักการเมือง แทนที่จะเป็นพวกคอมมิวนิสต์แบบหนังเวอร์ชั่นก่อนๆ เป็น และตัววิศิษฐ์คิดว่า ถ้าพูดถึงคนเลวในยุคนี้ นักการเมืองจะให้ภาพที่ชัด เป็นพวกที่ชอบหัวโขนและเล่นละครให้ประชาชนดู ผู้ชมเกาหลีท่านหนึ่งถามเรื่องศีลธรรมของตัวอินทรีแดง อนันดากล่าวว่า ตั้งใจจะให้ตัวละครนี้ดูรู้สึกคลุมเครือสำหรับผู้ชม คือเป็นวีรบุรุษหรือแค่กบฎคนหนึ่งกันแน่ ตรงนี้เป็นเสน่ห์ของเรื่องราวสำหรับเขา เป็นประเด็นของตัวละครนี้ ส่วนวรรณสิงห์เสริมว่า ตั้งใจอยากให้มองหลายๆ แบบ แล้วแต่ว่าคนจะตีความยังไง

มีผู้ชมชาวเกาหลีถามว่า อนันดาสนใจจะเล่นหนังเกาหลีหรือไม่ อนันดากล่าวว่า ถ้ามีคนจ้างก็จะเล่น และยังพูดติดตลกนิดๆ ว่า แต่ต้องขอมีฉากเลิฟซีนกับนางเอกเกาหลีสวยๆ ด้วย

เมื่อจบการพูดคุย วิศิษฐ์มอบของที่ระลึก หน้ากากอินทรีแดงให้แก่ผู้ร่วมซักถาม และก็มีการถ่ายรูปกัน และดูเหมือนว่าคนดูจะให้ความสนใจแก่วิศิษฎ์อย่างน้อยก็มากกว่าอาทิตย์และศิวโรจณ์ มีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่สนุกสนาน และมีการถ่ายรูปวิศิษฐ์และนักแสดงนำทั้งสองทั้งภายในโรงและด้านนอกเลยทีเดียว

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.