ภาพยนตร์จากประเทศไทยที่สร้าง เกี่วยกับพระ สร้างชื่อคว้า3รางวัลใหญ่ในเทศกาลประกวดภาพยนตร์ในสหรัฐฯ
วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C.) ภาพยนตร์จากประเทศไทยที่เกี่ยวกับคดีการฆาตกรรมอำพรางที่มีเหตุเกิดในวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คว้า3รางวัลใหญ่จากเทศการประกวดภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้
ภาพยนตร์เรื่อง สติ สืบ ศพ หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า "Mindfulness and Murderซึ่งป็นบทประพันธ์ขายดีของนักเขียนที่มีถิ่นพำนักอยู่ในไทย นิค วิวกัส Nick Wilgus ผู้มีผลงานหนังสือแนวสืบสวน สอบสวน หลายต่อหลายเล่ม โดยหนังสือส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ หลวงพ่ออนันดากับการสืบคดีและเรื่องลึกลับ โดย นิค วิวกัสได้ประพันธ์ไว้หลายตอนด้วยกัน
"สติ สืบ ศพ นำแสดงโดย ( ปู )วิทยา ปานศรีงาม รับบทเป็น หลวงพ่ออนันดา ผู้ต้องค้นหาความจริง และเปิดโปงพฤติกรรมชั่วของเหล่ามารศาสนา ซึ่งถือเป็นการแสดงนำในภาพยนต์ไทยเป็นครั้งแรกในชีวิตของวิทยา
นอกจากนั้นยังมีนักแสดงร่วมอีกคับคั่งไม่ว่าจะเป็นนักแสดงรุ่นครูอย่าง สีเทา จรัญ เพ็ชรเจริญ , ปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ไทเทเนียม , สติ สืบ ศพ ยังได้อีกหนึ่งสาวหน้าใส จากวงซาซ่า แก้ว จรีนา สิริสิงห์ มาร่วมแสดง, สมทบด้วย นาตาลี เกลโบวา นางงามจักรวาล ปี 2005 , โดยมี หมึก อภิชาติ ชูสกุล ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องสุดท้ายที่ปิดตำนานนักแสดงมากบทบาทที่วงการภาพยนตร์เพิ่งจะสูญเสียเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
และเมื่อต้นเดือนตุลาคมนื้เอง สติ สืบ ศพ ได้รับเกียรติคัดเลือกให้เข้าร่วมฉายในรอบพิเศษของวันสุดท้ายในเทศกาลภาพยนตร์ International Thriller and Spy Film Festival 2010 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ThrillSpy ซึ่งเป็นการประกวดภาพยนตร์ แนวตื่นเต้นและสืบสวนซึ่งจัดขึ้นที่ วอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C.)
และแล้ว สติ สืบ ศพ ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง โดย ( ปู )วิทยา ปานศรีงาม คว้ารางวัลสาขา นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ,ส่วนผู้กำกับเชื้อสายไทย-อังกฤษ ทอม วอลเลอร์ ก็ได้รับรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครอง, และรางวัลสุดท้ายที่ สติ สืบ ศพ ได้รับก็คือรางวัลสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากฝีมือของ เว้ด มูลเลอร์ (Wade Muller)
ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง ทอม วอลเลอร์ ผู้เกิดที่กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในฐานะที่มีคุณแม่ที่เป็นคนพุทธ และคุณพ่อเป็นคน ไอริช แคทอลิก ทำให้เขาเห็นมุมมองที่หลากมิติจากเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ เมื่อผมได้รับบทภาพยนตร์จากนิค ผมก็ตื่นเต้นกับการทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะเป็นบทที่น่าติดตามและน่าสนใจแล้ว คงมีไม่บ่อยนักที่เราจะได้ยินเรื่องราวหรือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระที่เป็นหลวงพ่อนักสืบ!
ส่วน ( ปู) วิทยา ปานศรีงาม ผู้เคยร่วมงานกับทอมก่อนหน้านี้ในบทของ กษัตริย์สรายุ จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง The Prince and Me: The Elephant Adventure ซึ่งถ่ายทำในประเทศไทย กล่าวยอมรับว่ารู้สึกอึดอัดใจหลังได้รับการติดต่อและทาบทามให้รับบทแสดงนำในภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับขบวนการอาชญากรรม,พระปลอม,ตำรวจนอกรีดและการค้ายารวมทั้งเรื่องฉาวซึ่งเกิดขึ้นในวัด แต่หลังจากได้อ่านบทภาพยนตร์จึงตัดสินใจรับแสดงเป็น
หลวงพ่ออนันดาซึ่งถือเป็นบทที่ท้าทายยิ่ง ในฐานะพระที่จะต้องมาสืบคดีฆาตกรรม ผมเห็นเป็นโอกาสและต้องการสื่อให้เกิดการรับรู้ว่าศาสนาในประเทศของเรากำลังถูกคุกคามจากมารศาสนาที่แฝงตัวเข้ามาแสวงผลประโยชน์และทำลายสิ่งที่เราเคารพบูชา ด้วยการเปิดโปงผู้ที่กระทำผิด หลวงพ่ออนันดาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดนั่นก็คีอการทำหน้าที่ปกป้องพระศาสนาไม่ให้แปดเปื้อนนั่นเอง
สติ สืบ ศพ ถ่ายทำด้วยระบบ 2.35:1 cinemascope โดยตากล้องชาวออสเตรเลีย เว้ด มูลเลอร์ ( Wade Muller ) เว้ดได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับแถวหน้าอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว จากองค์บาก โดยเพิ่งจะเสร็จสิ้นการถ่ายภาพยนตร์ภาษาอังกฤษที่กำกับโดยปรัชญา ปิ่นแก้ว กำกับเป็นเรื่องแรก เรื่อง Elephant White เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
โดยประมานสิ้นเดือนตุลาคมนี้ สติ สืบ ศพ ยังได้รับเกียรติคัดเลือกให้เข้าร่วมฉายในเทศการภาพยนตร์1st Cambodian International Film Festival ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเขมรเป็นครั้งแรกอีกด้วยเช่นกัน
ทั้งทอมและ (ปู) วิทยา หวังไว้ว่า แฟนภาพยนตร์ชาวไทยจะได้มีโอกาสได้ชม สติ สืบ ศพ ในเร็วๆนี้ ส่วนนักประพันธ์ นิค วิวกัส กล่าวแต่เพียงสั้นๆว่า ผมหวังว่าผู้ชมจะชอบภาคแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ และคอยการกลับมาของพ่ออนันดาในภาคต่อไป
Controversial new Thai monk movie wins 3 awards at film festival in USA!
WASHINGTON DC - A murder mystery set in a Bangkok temple has won three awards for its filmmakers at an international film festival in the United States earlier this month.
"Satit-suek-sop" aka "Mindfulness and Murder" is based on a book by Bangkok based writer Nick Wilgus, who puts a new spin on the clerical detective genre with his "Father Ananda mystery" novel series. Starring Vithaya Pansringarm in his first lead role, the Thai language film also features veteran Thai actor Jaran "See Tao" Petcharoen, Prinya "Way" Intachai (Thaitainium), Charina "Kaew" Sirisinha (ZaZa), Natalie Glebova (Miss Universe 2005) and Abhijati "Muek" Jusakul (4 Oct 1955 - 6 Sep 2010) in his last Thai film role.
Selected to show as a special preview for the Closing Film at ThrillSpy, a festival dedicated to the thriller/spy genre, "Mindfulness and Murder" won a Best ACTOR award for lead actor Vithaya Pansringarm, and Best DIRECTOR for Tom Waller.
Born in Bangkok to a Thai Buddhst mother and Irish Catholic father, producer/director Tom had a unique dual perspectve on the story: "When I received the script from Nick I was immediately excited about making a film version of this gripping story - afterall, how often do you see a film about a monk detective!"
"Pu" Vithaya, who had worked with Tom before playing King Saryu in the Hollywood production of "The Prince and Me: The Elephant Adventure", was at first reluctant to take on the lead role after hearing about the story, which deals with organized crime in the monastery, fake monks, corrupt cops, drug-dealing and other taboos. But after reading the script, Pu was immediately excited about taking on the challenging role of Father Ananda, a former homicide detective: "I saw this project as an opportunity to send a message and make people realize how Buddhism in Thailand is being abused. By solving the crimes and finding the murderer, Father Ananda is protecting the Buddhist Sangha".
Shot in 2.35:1 cinemascope, the film also won Best CINEMATOGRAPHY for Bangkok based Australian DP Wade Muller, who went on to work with "Ong Bak" Thai director Prachya Pinkaew on his English language debut "Elephant White" earlier this year.
Later this month, the film will be shown at the 1st Cambodian International Film Festival in Phnom Penh. Both Tom and Pu hope that Thai audiences will get to see the film soon: "Nick wrote a trilogy of novels, so we hope that if audiences like the first film, Father Ananda will also return for a sequel!".
|
