นักแสดง

“ฟลุ๊ค” พงศธร ศรีปินตา ศรีปินตา (ผู้น้อง) และฟลุค-ธีรภัทร โลหนันทน์ (ผู้พี่) ทั้งสองเข้าวงการจากการชักชวนของ ผู้กำกับ-ณิชภูมิ ชัยอนันต์ ให้มาแคสติ้งภาพยนตร์เรื่องนี้   โจทย์แรกของการแคสต์ติ้งคือต้องการนักแสดงที่มีบุคลิกในชีวิตจริงตรงตามคาแรกเตอร์ของตัวละครในหนังมากที่สุด ภาระจึงตกเป็นของฝ่ายแคสติ้งที่จะต้องดึงบุคลิกของทั้งสองออกมาให้เข้าตาผู้กำกับให้ได้

“ผมเจอฟลุ๊ค-พงศธร ก่อนเป็นคนแรก จริง ๆ แล้วเราเห็นอะไรบางอย่างในตัวของน้องตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว  แต่่ตอนนั้นก็ยังไม่สามารถเลือกน้องเค้าให้มารับบทพระเอกได้ เพราะน้องยังเด็กมาก รูปร่าง หน้าตา โครงสร้างร่างกายยังโตไม่เต็มที่   แต่เราดูแววแล้วว่าถ้าโตมาจะต้องหล่อและน่ารักกว่านี้แน่นอน เลยเก็บตัวน้องเค้าไว้สักระยะ รอให้เค้าโตขึ้นอีกสักหน่อย

ช่วงที่รอการเจริญเติบโตของน้อง เราก็ให้ข้อมูลตัวละครกับน้องทุก ๆ วัน   กรอกหูเข้าไปให้ตัวละครตัวนี้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของน้อง แล้วก็เรียกมาแคสต์ติ้งซ้ำแล้วซ้ำอีกทุก ๆ อาทิตย์เพื่อดูพัฒนาการ จนวันนึงเราเริ่มเชื่อว่าเค้าคือตัวละครที่เราตามหา และน้องเค้าก็แสดงให้เราเห็นว่าเค้าเชื่อในตัวละครตัวนี้จริง ๆ หลายเดือนผ่านไป ไม่ใช่แค่ร่างกายของน้องที่โตขึ้นตามความต้องการของเรา แต่ความคิด วิธีคิด มุมมองต่าง ๆ ของน้องก็โตขึ้นตามไปด้วยอย่างพอเหมาะพอดี   เราเลยตัดสินใจให้น้องรับบทพระเอกคนแรกของหนังทันที ”

ผลงานก่อนหน้านี้ นักแสดงหน้าใหม่แต่ไม่ธรรมดาที่เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง “เกรียนฟิคชั่น”
จากค่ายสหมงคลฟิล์ม และล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง “ตี 3 คืน 3” จากค่ายไฟว์สตาร์โปรดักชั่น

“ เมื่อเราได้ฟลุ๊ค-พงศธรแล้ว ความยากที่ตามมาคือเราต้องหาพระเอกคนที่สองที่เหมาะสมในการมารับบทเป็นพี่ของฟลุ๊ค-พงศธร ในหนัง ที่จะต้องหล่อกว่า ตัวสูงใหญ่กว่า หน้าตาต้องคล้ายกัน และที่สำคัญ บุคลิกต้องเป็นคนละขั้วกับฟลุ๊ค-พงศธร อาจเป็นเพราะจังหวะหรือดวง หรือฟ้าลิขิตอะไรซักอย่าง ผมเห็นน้องฟลุค-ธีรภัทร  ไปกดไลค์เพจค่ายหนังของผมและไลค์สเตตัสที่เราประกาศแคสติ้งที่กรุงเทพฯ พอดี เลยชวนให้น้องมาแคสต์ที่กรุงเทพฯ

จากโจทย์ทั้งหมดที่มอบให้ฝ่ายแคสติ้งไปทำการบ้านมาในการหา “พี่ชาย” ให้ฟลุ๊ค-พงศธร สุดท้ายแล้ว  เราก็ได้ฟลุค-ธีรภัทร มาเป็นพี่ชายในฝันคนนั้น วันที่ผมเห็นวิดีโอแคสติ้งของฟลุค-ธีรภัทร ผมชี้หน้าจอเลยว่านี่คือคนเดียวที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นพระเอกคนที่สองในหนังของผม   ด้วยหน้าตาที่คล้ายกันเวลายิ้มและนิสัยที่ต่างกันสุดขั้ว ฟลุค-ธีรภัทร มีทักษะที่ดีในการแสดงสีหน้า น้องเค้าเป็นคนที่เท่ห์โดยธรรมชาติ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลยก็เท่ห์ ”

วันที่น้องสองคนมาเจอกันเป็นครั้งแรก และในอีกหลายเดือนถัดมาที่เราให้เค้าได้ใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ  ทั้งสองทำให้ผมเชื่อว่าพวกเค้าสามารถรักกันได้มากอย่างที่เราจินตนาการไว้ และเมื่อเวลาเข้าฉากร่วมกัน ทั้งสองแสดงความสามารถทางการแสดงออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ ฟลุ๊ค-พงศธร และฟลุค-ธีรภัทร  จะเป็นสองนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองในวงการหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้แน่นอนครับ ”

ผลงานก่อนหน้านี้ พระเอกเอ็มวีเพลง “ดีดี” ของ “คัทโตะ-ลิปตา”

ยังมีทีมนักแสดงหน้าใหม่อย่าง คิม-วรกมล, มาร์ค-วิทวัส ท้าวคำลือ, ปรินส์-นราดล,ปรินซ์-วรัชญา, ข้าวฟ่าง-วชิราภรณ์,
โจ้-จักริน และบาส-ธนาเวศม์ มาร่วมสร้างสีสันในภาพยนตร์ด้วย ซึ่งแต่ละคนผู้กำกับการันตีคุณภาพและความสามารถในเรื่องการถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกของวัยรุ่น