สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

The Melody เดอะเมโลดี้ รักทำนองนี้

  LINK แคแรกเตอร์นักแสดง
 
Share |
Print   
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กำหนดฉาย 17 พฤศจิกายน 2554
ประเภท รัก-ชีวิต (Romantic-Drama)
นำแสดงโดย แดน-วรเวช ดานุวงศ์, ฉัตร-ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร, ด.ญ. ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ, วาสนา สิทธิเวช
ดำเนินงานสร้าง บริษัทยักษ์คู่สตูดิโอจำกัด
บทภาพยนตร์ ทศพล ศรีสุคนธรัตน์,มนชยา พานิชสาส์น,วรลักษณ์ กล้าสุคนธ์
เพลงประกอบภาพยนตร์โดย แดน-วรเวช ดานุวงศ์, บอย-ตรัย ภูมิรัตน์
ดนตรีประกอบ กฤษณะศักดิ์ กันตธรรมวงศ์
ผู้กำกับภาพยนตร์ ทศพล ศรีสุคนธรัตน์
ผู้ควบคุมการผลิต จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ
ผู้อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
กำกับศิลป์ อนิรุตร์ จิตร์สมนึก
กำกับภาพ สิทธิพงษ์ กองทอง
ลำดับภาพ รัชพันธุ์ พิศุทธิ์สินธพ, ทวีลาภ เอกธรรมกิจ,มานุสส วรสิงห์
บันทึกเสียง กันตนา
ฟิล์มแล็ป กันตนา
ออกแบบเครื่องแต่งกาย กรกนก สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
แต่งหน้า-ทำผม พัชริกา บัวรุ่ง, ศุภชัย สิงห์น้อย
บริษัทจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

เรื่องย่อ

เมื่อดนตรีนำพาทั้งคู่ให้เจอกัน ...
เนื้อเพลงและความหมายที่มีอยู่ต่อจากนี้...
เต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก...ที่มีอยู่จริง

เมื่อเส้นทางชีวิตของ วิน (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) นักร้องและนักแต่งเพลงยอดนิยมผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงแบบสุดสุด ความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะยอมรับทำให้วินหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอน เมืองเล็กๆบนภูสูง ที่ที่ทำให้เขาบังเอิญพบกับ หมอก (ฉัตร-ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร) นักเปียโนฝีมือดี สาวจอมตื๊อที่มักชอบบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เกลียดอยู่เสมอ และแล้วเธอก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดและดนตรีทำให้วินได้เรียนรู้ว่า ทำนองเพลงที่บรรเลงได้ไพเราะที่เขาค้นหามาตลอดชั่วชีวิตคือเสียงหัวใจของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขานี่เอง แต่กว่าวินจะรู้ตัว โชคชะตาก็นำพาอุปสรรคสำคัญเข้ามา สิ่งที่จะทำให้วินและหมอกเรียนรู้ที่จะเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน บททดสอบที่จะทำให้คู่รักทุกคู่รู้จักไคว่คว้าความสุข แม้ว่าจะอยู่ในมุมมืดมิดของความทุกข์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา เพลงที่เธอแต่งทำนองและเขาช่วยแต่งคำร้องที่บริสุทธิ์ที่สุดที่บทเพลงทั้งหมดเคยบรรเลงมา

รวมซึ้งไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกในเมืองแห่งสายหมอก กับบทเพลงอันไพเราะด้วยฝีมือการแต่งเพลงจากนักแสดงนำ แดน วรเวช และนักร้องเสียงอบอุ่นอย่าง บอย ตรัย ที่จะมาเปลี่ยนแปลงฤดูหนาวของใครหลายคน กลายเป็นฤดูที่หัวใจเต้นเป็นทำนองใหม่ที่อบอุ่นที่สุด

 

สถานที่โรแมนติกเอาบรรยากาศ

 

 

เดอะเมโลดี้เป็นภาพยนตร์ที่ใช้เวลาในการเขียนบทอย่างเดียวยาวนานกว่า 2 ปี และหาข้อมูลจากสถานที่ถ่ายทำมากกว่า 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกบัวตอง (ดอยแม่อูคอ), โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง), วัดจองคำอันงดงามที่สร้างมากว่า 200 ปี จ.แม่ฮ่องสอน, อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ ฯลฯ

ผู้กำกับ : ผมชอบจังหวัดแม่ฮ่องสอน กว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์เราถ่ายทำที่นี่ ฤดูหนาวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมันสวยจริงๆ มันสวยจนหลงไหลมันมีเอกลักษณ์ของมัน ใครอยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ทำตัวแบบไหนก็ได้ มันไม่เหมือนปายหรือเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอนมันค่อนข้างจะมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมเก่าๆ ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า ก็เลยเลือกจังหวัดนี้ ผมเดินทางขึ้นไปจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาทั้งหมด 13 ครั้ง ไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 51 ครั้งสุดท้ายก่อนถ่ายก็คือเดือนตุลาคมปี 53 ประมาณ 2 ปีกว่า

จริงๆ พล๊อตเรื่องทั้งหมดเสร็จหมดแล้ว แต่ไปเพื่อซึมซับกับบรรยากาศ ในหัวเรามันมีทุกอย่าง เรารู้เรื่องของเราเราเขียนเรื่องไว้หมดแล้ว แต่เราต้องไปหาโพซิชั่นของการที่จะวางเรื่องราว ต้องหาโลเกชั่น ในหัวมีอยู่แล้วว่าเราจะเลือกอะไร เรามีทุ่งบัวตองนะ วัดจองคำ เราเลือกไว้แล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่เรายังไม่รู้ ก็ต้องไปตระเวนเลือกที่ไปเรื่อยมีรุ่นพี่พาไป ก็ไปเจอที่ๆ เราชอบเพิ่มขึ้น ไปทุกครั้งก็จะไปซึมซับ ไปครั้งละ 5-7 วัน ขึ้นรถทัวร์ไปเองเลยประเมินดูว่าถ้าเราพยายามที่จะไปร่วมกับคนอื่นด้วย เดินทางประมาณ 15 ชม. ทรมานเหมือนกันนะ ไปแล้วก็ลองไปนอนที่ต่างๆ ไปลองนอนที่ดอยแม่อูคอ(ทุ่ดอกบัวตอง) ดูสิจะนอนได้ไหม ประทับใจมากเห็นดาวทุกดวงบนท้องฟ้าเราก็แบบต้องที่นี่แหละ เพีงแต่จะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เราก็ตะเวนหาไปทุกที่จนได้โลเกชั่นครบ แล้วทิ้งให้ตกผลึกกับเรื่องราวของมัน เรียกว่าเราคัดสรรสุดๆ สำหรับทุกโลเกชั่นไม่ใช่แค่สวยตามสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เราอยากได้ที่ที่โรแมนติกที่สุด ที่ๆ เหมาะกับเนื้อเรื่องของเรา ที่ๆ คนเห็นแล้วต้องเกิดความประทับใจ อยากไป อยากสัมผัส อยากจูงมือใครสักคนไปยังสถานที่แห่งนั้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกแม่ฮ่องสอน

ล้วในแต่ละที่ๆ เราไปไม่ใช่ว่าทุกอย่างราบรื่น มันเมืองหมอก หมอกก็เป็นอุปสรรค ความหนาวเย็นก็เป็นอุปสรรค เราไปในที่ๆ บางครั้งหมอกลงหนามากมองอะไรไม่เห็นเลย เดินทางไปไม่ได้ รถวิ่งไม่ได้ต้องจอดรอจนกว่าพายุหมอกจะหายไป บางแห่งสวยสุดตอนหมอกลงแต่ไปแล้วหมอกกลับไม่มีก็มี บางแห่งฟ้าต้องโปร่งต้องเห็นทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา แต่ไปแล้วเจอทั้งฝนทั้งหมอกก็มี ที่กองถ่ายก็อดทนกันมากต้องรอจังหวะ รอเวลาวันนี้ไม่ได้พรุ่งนี้มาใหม่ พระเอกนางเอกเราหนาวปากม่วงปากสั่นก็มี แต่ก็สนุกสนานและเพลินไปกับบรรยากาศตลอดการทำงานบนโลเกชั่นเหล่านี้ครับ”

แดนและเพลงประกอบ

 

 

แดน วรเวช : ตอนที่แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ อ่านบทจบไปแล้วครับ เริ่มถ่ายทำกันไปแล้ว วันนึงพี่โอ๊คบอกว่าอยากให้ผมแต่งเพลงประกอบขึ้นมาเพลงหนึ่งขอเป็นเพลงที่ไม่มีคำว่ารักอยู่ในเนื้อเพลงเลย แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผู้ชายคนหนึ่งหลงรักผู้หญิงคนนึงไปแล้ว แต่ไม่รู้จะบอกยังไง ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงกับเขา ซึ่งถามว่ายากไหมก็ค่อนข้างยากครับต้องใช้เวลาเหมือนกัน แต่ทางผู้กำกับก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรเขาอยากให้เราซึมซับกับหนังไปเรื่อยๆ ระหว่างทางที่เราเล่น ความรู้สึกแต่ละอย่างแต่ละทำนองแต่ละประโยคที่มันออกมาเป็นเพลงมันค่อยๆ ถูกเติมให้เต็มระหว่างเล่นหนังเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ

ผู้กำกับ: คือด้วยชื่อของภาพยนตร์และเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ มันบอกเลยว่าขาดบทเพลงดีๆ ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเอาเพลงรักอะไรมาประกอบหนังก็ได้ แต่เนื้อหาของเพลงต้องมีที่มาที่ไป มีความหมายตามบทภาพยนตร์ เพราะเส้นเรื่องทั้งหมดมันคือเพื่อเพลงๆ หนึ่งของพระเอกกับนางเอก เพลงนั้นจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราเอาความรู้สึกแบบอื่นมาใส่ เพลงๆ นี้ต้องเป็นเพลงที่คนฟังจะต้องรู้ว่านี่คือเพลงของวินและหมอก ผมรู้สึกว่าต้องเป็นแบบนั้น ทางทีมงานก็เคาะกันแล้วว่าต้องเป็นพี่บอยตรัย และอีกเพลงต้องเป็นแดน ทั้งสองคนเป็นคนเพลงที่มีคุณภาพอยู่แล้ว แดนจะต้องลึกซึ้งอยู่แล้วเพราะแดนสวมบทตัวละครตัวนี้อยู่ เขาเข้าใจฟิลลิ่งมันแน่นอน ส่วนพี่บอยเรื่องเพลงรักคงไม่มีอะไรต้องบรรยาย ทุกเพลงที่เขาแต่งออกมามันการันตีความสามารถของเขาอยู่แล้ว

จริงๆ เรามีเพลงประกอบภาพยนตร์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 เพลง เพลงธีมของหนังชื่อเพลง “เดอะเมโลดี้” พี่บอย ตรัยแต่งแล้วแดนร้อง ผมเขียนคอนเซ็ปต์ให้พี่บอยในความหมายมันบอกเรื่องราวของหนังได้ครบ เพลงนี้คือในเรื่องพระเอกเป็นคนแต่งคำร้อง ส่วนทำนองนางเอกเป็นคนแต่ง ฉะนั้นฟิลลิ่งมันจะมีความรู้สึกของคนสองคนอยู่ในเพลงเดียวกัน เพลงมันจะบอกความรู้สึกของพระเอกทั้งหมด ถ้าดูหนังจบแล้วเพลงมันจะยิ่งมีความหมายมากขึ้นไปอีก ท่อนที่นางเอกแต่งเอาไว้ให้ “เราอาจไม่เจอกันไม่ได้คุยกัน” แล้วมันก็ให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งดี

อีกเพลงหนึ่งชื่อเพลง “เพลงรักที่ไม่มีคำว่ารัก” แดนเป็นคนแต่งและร้องเพลงนี้เองเลยเป็นเพลงที่สะอาดฟังสบาย ก็เล่าความรู้สึกให้แดนฟังในตอนแรก ตัวเรื่องราวนี้พระเอกไม่เคยรักใครมาก่อนอยู่ดีๆ ก็มามีความรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้ มันก็เลยแต่งออกมาตามความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ค่อนข้างชัดเจนแล้วเพลงมันก็เพราะมาก อีกเพลงเป็นเพลงคู่ “ความรักไม่มีวันสุดท้าย” เป็นเพลงที่ร้องคู่กับระหว่างพระเอกกับนางเอก ทั้งหมดเป็นเพลงที่ฟังง่ายสบายๆ มันลึกซึ้งทั้งเนื้อหาและทำนอง เพราะทุกอย่างคือมันทำไปตามเนื้อเรื่องมันเป็นเนื้อเรื่องที่ทุกคนอินกับมัน อย่างเพลงที่พี่บอยตรัยแต่งเป็นเพลงที่มีความหมายดีมาก ฟังแล้วมันเพราะขึ้นเรื่อยๆ พวกเราก็ภูมิใจมากกับบทเพลงที่จะมาประกอบภาพยนตร์ในเรื่องนี้ครับ”

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.