สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
“สถานี 4 ภาค” (Four Stations)
  LINK: บทวิจารณ์ สถานี 4 ภาค
 
Share |
Print   
       
 

 

 

อำนวยการสร้าง ปิยะฉัตร มาลีถาวรกุล /
ดำเนินงานสร้าง ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ
บท / กำกับ / ควบคุมงานสร้าง บุญส่ง นาคภู่
ดำเนินงานสร้าง / ช่วยกำกับ พงศกร เจริญรัตน์
กำกับภาพ ประกิจ โชติจรัสอาภรณ์
กำกับศิลป์ ธวัชชัย เติมสุข
ออกแบบเสื้อผ้า พราวเพลิน ตั้งมิตรเจริญ
บันทึกเสียง ชาย คงศีลวัตร Sound Hut
ตัดต่อ เอกลักษณ์ อนันตสมบูรณ์
ออกแบบเสียง / ผสมเสียง ไพสิฐ พันธ์พฤกษชาติ
โฟลีย์ ฑีฆะเดช วัชรธานินทร์
ดนตรีประกอบ ไกวัลย์ กุลวัฒโนทัย
แก้สี ดนุวัฒน์ เจตนา Lifeboat
แนวภาพยนตร์ ชีวิต (Drama)
ความยาว 115 นาที
ถ่ายทำด้วยระบบดิจิตอลความละเอียดสูง ระบบเสียงสเตอริโอ สีคมชัด

14-20 มิถุนายน 2555 ทุกวัน รอบเวลา รอบ 18.00 น. ลิโด 1

การเดินทางในต่างแดน

สถานี 4 ภาค เปิดประเดิมที่เทศกาลหนังพูซาน โดยได้รับการคัดเลือกเข้าฉายในสาย Window on Asian Cinema

หลังจากนั้น หนังเดินทางไปอินเดียเป็นว่าเล่น ได้แก่ เทศกาลหนังมุมไบ, เทศกาลหนังเชนไน (14-20 December, 2012) และเบนกาลอร์ อินเดีย (20-27 December, 2012)

เดือนมีนาคม 2556 หนังเข้าประกวดที่เทศกาลหนังเอเชียที่เมืองโดวิลล์ ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 6-11 มีนาคม ซึ่งเป็นการประกวดเช่นเดียวกับ วันเดอร์ฟูลทาวน์ ที่รัก

 


 

แรงบันดาลใจ
ภาพยนตร์เรื่อง “สถานี 4 ภาค” หรือ “Four Stations” ดัดแปลงจากเรื่องสั้นชั้นครูของ 3 นักเขียนรางวัลซีไรท์ และ 1 นักเขียนรางวัลศรีบูรพา จากพื้นถิ่น 4 ภาคของประเทศไทย คือ

“ตุ๊ปู่” โดย มาลา คำจันทร์ (เหนือ)
“สงครามชีวิตส่วนตัวของทู-ทา” โดย วัฒน์ วรรลยางกูร (กลาง)
“ลมแล้ง” โดย ลาว คำหอม (อีสาน)
“บ้านใกล้เรือนเคียง” โดย ไพฑูรย์ ธัญญา (ใต้)

จุดเด่น

เป็นภาพยนตร์อิสระเรื่องยาวเรื่องที่ 2 ของกลุ่ม “ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ” ดัดแปลงจากเรื่องสั้น 4 เรื่อง ของนักเขียนซีไรท์ 4 คน จาก 4 ภาค 4 ภาษา 4 ปัญหา 4 วัฒนธรรม หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อบอกเล่าปัญหาและวัฒนธรรมของประเทศไทย โดยมีรถไฟเป็นตัวเชื่อมแบบหลวม ๆ เป็นภาพยนตร์อิสระแนวใหม่ที่ดูง่ายและสนุก แต่ท้าทายการตีความ

เรื่องย่อ

คนตัวเล็ก ๆ 4 คน ที่อาศัยอยู่ตามหลืบเร้นริมทางรถไฟใน 4 ภาคของประเทศไทย กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อแก้ไขปัญหาของตัวเองอย่างสุดกำลัง ท่ามกลางอุปสรรคมากมายจากรอบด้าน ภาคเหนือ ตุ๊ปู่-พระนักปฏิบัติแก่หง่อม พยายามทำให้พระเณรและเด็กวัดสงบสำรวม ก่อนศรัทธาของญาติโยมจะเสื่อมลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ภาคกลาง ทู-แรงงานพม่าหนุ่มต้องทิ้งไร่มะเขือ เพื่อหาเงินมาไถ่ตัวเมียรักคืนให้ได้ก่อนจะถูกส่งกลับพม่า ภาคอีสาน คำกอง-เด็กกำพร้าพ่อแม่พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวยากจนของป้ากับลุง ภาคใต้ ซ้วนกับแคล้ว-เพื่อนรักสองคนต้องกลายมาเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ต้องห้ำหั่นกันให้ด่าวดิ้นลงไปข้าง เรื่องราวที่ไม่สำคัญของคนตัวเล็ก ๆ ทั้ง 4 คน และอีกหลายชีวิตที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพวกเขา ได้เกี่ยวประหวัดรัดร้อยกันอย่างแช่มช้า ขณะที่โลกหมุนไปไม่สิ้นสุด และรถไฟสายหลักของประเทศไทยก็แล่นผ่านเลยไปทุกวี่วัน ในห้วงเวลามหัศจรรย์ที่เราได้นั่งพินิจพิจารณาดูชีวิตของพวกเขา เราจะค่อย ๆ ปะติดปะต่อวัฒนธรรมความคิดอันหลากหลายที่หล่อหลอมตัวตนของเราขึ้นมา


 

เจตนารมณ์ผู้กำกับ

ข้าพเจ้ารักวรรณกรรมไทย เติบโตมากับเรื่องสั้นและนิยายเพื่อชีวิต ผูกพันกับนักเขียนระดับครูทั้ง 4 ท่านในฐานะแฟนวรรณกรรม นั่นเรื่องหนึ่ง อีกเรื่องหนึ่ง ข้าพเจ้าพบว่า ประเทศเรามีเรื่องดี ๆ มากมาย แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเป็นภาพยนตร์ เพราะในวงการภาพยนตร์กระแสหลัก มีข้อจำกัดเรื่องการขาย ภาพยนตร์เป็นสินค้าชนิดหนึ่ง มันต้องขายได้ และสินค้าที่ขายได้ มักจะต้องเบา ๆ ตามกระแสนิยม ไม่จริงจัง ตลก รัก ผี ทำให้เราศิลปินเสียโอกาสในการสร้างสรรค์ และคนดูก็เสียโอกาสในการเสพสิ่งที่ดี เพราะเป็นเช่นนี้ สติปัญญาและศิลปวัฒนธรรมประเทศเราจึงคับแคบ จะโทษผู้ลงทุนก็ไม่ถูก เพราะเขาก็มีกติกาของเขา ลงไปเท่าไหร่ ต้องได้กำไร เราไปตกลงปลงใจกับเขาเอง จะโทษคนดูหรือก็กระไรอยู่ เราต้องเชื่อว่า คนดูบริสุทธิ์ สิ่งที่พวกเขาต้องการมีอยู่อย่างเดียว คือ สิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มที่สุด เราต้องสร้างทางเลือกให้คนดู และคนทำก็ต้องมีทางเลือกด้วยเช่นกัน การรอคอยให้นายทุนมาลงทุนสร้างภาพยนตร์ดี ๆ สักเรื่อง ที่ไม่รู้ว่าจะขายหรือเปล่า? เป็นความฝันที่ไม่มีทางเป็นความจริง ทางออกในปัจจุบันมีทางเดียว คือ การทำภาพยนตร์อิสระทุนต่ำ แต่ทุนต่ำมิได้หมายถึงคุณภาพจะต่ำไปด้วย โดยเฉพาะคุณภาพทางเนื้อหา ที่ต้องขับเน้น หนักแน่น และทุ่มเทอย่างเต็มที่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ “สถานี 4 ภาค” หรือ “Four Stations” เป็นอีกเรื่องในบรรดาอีกหลายเรื่อง ที่ข้าพเจ้าอยากเล่ามาก มิใช่เพื่ออื่นใด แต่เป็นกระแสเสียงหนึ่ง ที่ป่าวประกาศแทนคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคมไกลปืนเที่ยง ในฐานะที่พวกเขาก็เป็นคนไทย ที่มีความหมายในทุกมิติเช่นเดียวกับเรา ที่แน่ ๆ พวกเขาก็ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาตามฝรั่งตะวันตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเช่นเดียวกับเรา อันที่จริง เราควรจะต้องดูชีวิตคนอื่นบ้าง เพื่อจะได้เห็นและเข้าใจชีวิตตัวเราเอง และนี่เป็นการตอกย้ำว่า ข้าพเจ้าจะทำภาพยนตร์ที่ยืนอยู่เคียงข้างประชาชน เพราะข้าพเจ้าเป็นลูกชาวนามาจากดิน ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ศิลปะภาพยนตร์ ซึ่งเป็นโอกาสแสนวิเศษ และนี่คือ อีกหนึ่งผลงานที่ข้าพเจ้าทุ่มเทสร้างสรรค์ แม้มันยังไม่สมบูรณ์ดีเด่นอะไรมากนัก แต่อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของคนตัวเล็ก ๆ อย่างข้าพเจ้า ส่วนเรื่อง ความสมบูรณ์แบบนั้น เป็นเรื่องของวัยวุฒิ และเหตุปัจจัยของความพร้อม ซึ่งข้าพเจ้าต้องรับผิดชอบให้มีขึ้นต่อไปในอนาคต

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.