1. หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรียลลิตี้แคนดิดอย่าง “สาระแนห้าวเป้ง”  ตามด้วยภาพยนตร์ที่มีบทภาพยนตร์ เรื่องราว ตัวละครคาแรคเตอร์เป็นตัวเป็นตนเป็นชิ้นเป็นอันเรื่องแรกกับ “สาระแนสิบล้อ” มาจนถึงผลงานภาพยนตร์ลำดับที่3 ของการจับมือร่วมกันของ ลักษ์ฟิล์ม และสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล ถึงเวลาแล้วที่เหล่าก๊วนสาระแนจะลุกขึ้นมาทำหนังผีเสียที หนังผีในแบบสาระแน ที่แน่นอนว่าย่อมไม่ทิ้งลายมือ ในเรื่องการสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน  แต่แฝงอารมณ์สะดุ้งสยองในแบบฉบับของหนังผีน่ากลัวจนลงตัวเกิดเป็น “สาระแนเห็นผี”ภายใต้บทภาพยนตร์โดย กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ 1ในมันสมองสำคัญของทีมสาระแน ผลักดันผ่านไอเดียและมุมมองในการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์จากการกำกับภาพยนตร์ของ เป้ นฤบดี เวชกรรม ผู้กำกับ สาระแนห้าวเป้ง,สาระแนสิบล้อ และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสาระแนจอตู้ มากว่า 500 เทป ตลอด12ปีที่ผ่านมา

ถ้ายังจำอารมณ์ “ฮา-สยอง” ในฉากเล่าเรื่องผีในโรงแรมร้างที่หลายคนยกให้เป็นฉากไฮไลท์เด็ดใน “สาระแนสิบล้อ” กันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์สะดุ้ง หลอน รวมไปถึงความฮาน้ำตาเล็ดจากการแสดงของ หนุ่มมาริโอ้ เมาเร่อ  ที่ทำให้หลายเสียงชื่นชมถึงความสามารถในการเรียกอารมณ์ขันจากการแสดงในหนังตลกๆแบบเต็มๆตัวครั้งแรกที่หลายๆคนไม่เคยเห็นมาก่อน แน่นอนว่านี่คือบรรยากาศหลักที่แฟนๆจะได้สัมผัสอย่างเต็มอิ่มโดยไม่มีการตัดทอน แต่กลับพร้อมทวีคูณทั้งในส่วนของอารมณ์สยองลุ้นระทึก และฮากระจาย ในแบบที่เต็มไปด้วยอารมณ์เซอร์ไพรส์อย่างที่คนดูคาดไม่ถึงของ“สาระแนเห็นผี” อารมณ์สนุกสนานที่เหล่าสาระแนตัวดีตั้งใจให้คนดูได้สัมผัสกับปรากฎการณ์ “ขนพองสยองฮา” ที่จะเกิดขึ้นจนเกิดอาการ “นั่งไม่ติด”ในขณะที่ชมภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น อาการลุ้นระทึกกับความสยอง และ ขำจนตกเก้าอี้กับอารมณ์ขันในแบบสาระแน ที่พร้อมจะเกิดขึ้นตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องฉากแรกของ สาระแนเห็นผี เลยทีเดียวโดยความตั้งใจหลักที่จะถูกนำเสนอผ่านมุมมองวิช่วลของภาพ อารมณ์บรรยากาศของหนังที่จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหนังผีน่ากลัวแบบเต็มๆตัว จนสามารถกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า จะเป็นอย่างไรถ้าผลงานลำดับที่3 ของชาวสาระแนคือการลุกขึ้นมาทำหนังผี แต่เป็นหนังผีในแบบฉบับของสาระแน และแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นหนังผีที่ทำออกมาไม่เหมือนใคร กลับกันต้องมีลายมือของสาระแนอย่างชัดเจน จนเป็นที่มาของการการรวบรวมวัตถุดิบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์จริงของผู้กำกับ และเหล่าบรรดาทีมงานสาระแนที่เคยได้สัมผัสด้วยตนเอง รวมไปถึงเรื่องเล่าชวนสยองขนหัวลุกที่ถูกบอกเล่าผ่านรุ่นต่อรุ่นจากสมาชิกในครอบครัว ญาติสนิท พี่น้อง เพื่อนพ้องและคนรอบตัว ที่ทุกเรื่องล้วนเป็นเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับประสบการณ์เห็นผีที่ต้องตรงกับอีกหลากหลายประสบการณ์ของผู้คนหลายๆคนซึ่งแตก ต่างจากเรื่องเล่าของผีในตำนานอย่างกระสือ หรือแม่นาคที่คุ้นเคยกัน แต่เป็นเรื่องราวชวนสยองที่เกิดขึ้นใกล้ตัว ประจวบกับมุมมองความเชื่อและประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเป้ นฤบดี เวชกรรมผู้กำกับเองที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสาระแนสิบล้อในแต่ละโลเกชั่นต่างๆที่ล้วนแล้วแต่มีเหตุการณ์เรื่องเล่าชวนขนลุกในแทบทุกพื้นที่ที่ไปถ่ายทำ จนเกิดเรื่องราวต่อเนื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้กับตนเองหลังจากปิดกล้องจนภาพยนตร์เข้าฉาย โดยในระหว่างนั้นจากเดิมที่มีความเชื่อและยึดในหลักการของเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด และไม่เคยเชื่อถือในเรื่องราวลี้ลับแต่อย่างใด จนเกิดความรู้สึกว่าไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ และเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ได้สัมผัสด้วยตนเอง จนเกิดความคิดที่ว่าขืนไม่เชื่อก็คงไม่ได้แล้ว และคงมีใครบางคนอาจต้องการจะส่งสารให้รู้ว่า ถึงเวลาที่สาระแนต้องทำหนังผีจริงๆซะที

2.จากประสบการณ์จริง กับเรื่องราวที่ถูกเล่าขานนำมาผสมผสานเรียงร้อยเป็นบทภาพยนตร์ ในลักษณะของโรดมูฟวี่ ผ่านตัวละครวัยรุ่นที่เป็นตัวแทนของคนเมืองที่แทบไม่เคยสัมผัสเรื่องลี้ลับหรือประสบการณ์มุมมองความเชื่อของการเห็นผีโดยมี ช. กฤษณะ  จิตรเนาวรัตน์ มือเขียนบทระดับหัวกะทิของสาระแน ที่รับหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับและแอ็คติ้งโค้ชในภาพยนตร์สาระแนเห็นผี รับหน้าที่เขียนบท ก่อนที่จะถูกส่งต่อเรื่องราวไปยังนักแสดงที่จะมาถ่ายทอดบทบาทและคาแรคเตอร์ที่ถูกรวบรวมขึ้น เพียงทว่าความสมบูรณ์แบบที่จะทำให้หนังผีในแบบสาระแนจะออกมาเป็นหนังผีน่ากลัวอย่างที่ผู้กำกับตั้งใจได้นั้น ทำให้สิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยในการสร้างสาระแนเห็นผีนั่นคือการนำเอาบรรยากาศความหลอนรวมไปถึงการสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่ชวนระทึกและเต็มไปด้วยความหวาดสะพรึงให้บังเกิดขึ้นในระหว่างที่เรื่อง ราวถูกเล่าและดำเนินไปเพื่อที่จะห่อหุ้มให้ความรู้สึกดังกล่าวรายล้อมอบอวลและเกิดขึ้นรอบตัวไปตลอดการถ่ายทำให้นักแสดงสัมผัสได้ รวมไปถึงสำหรับผู้ชมภาพยนตร์ที่จะต้องรู้สึกไปตั้งแต่ต้นเรื่องจนกระทั่งม่านปิด ทำให้ทุกๆฉากของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสาระแนเห็นผีมีเพียงไม่กี่คิวถ่ายเท่านั้นที่เลือกถ่ายทำในสตูดิโอ โดยที่ส่วนใหญ่เกือบ90เปอร์เซ็นต์ล้วนแล้วแต่เป็นการถ่ายทำนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นฉากกลางวันหรือแม้แต่กลางคืน ซึ่งมีตั้งแต่ในแหล่งบันเทิงกลางใจเมืองกรุงเทพ บนท้องถนน ไปจนถึงโลเกชั่นนอกชานเมือง ที่เปลี่ยว ไปจนถึงชุมชนเล็กๆ ท้องถนนในต่างจังหวัด สวนยางที่เงียบสงัด พื้นที่ในภาคกลาง ไปจนถึงภาคตะวันออกที่พูดได้ว่าทุกพื้นที่ล้วนมีประวัติความเป็นมาที่ชวนขนลุกแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเสาปูนตกน้ำมันกลางที่จอดรถในแหล่งบันเทิงชื่อดังกลางกรุงเทพ ,ซากบ้านโบราณตั้งแต่สมัยสงครามโลกที่ว่ากันว่าถูกน้ำจากแม่น้ำซัดพังไป โดยใต้พื้นดินเป็นที่ฝังศพของผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก , ศาลาไม้100ปีที่เสาแต่ละขาของศาลาล้วนตั้งอยู่บนก้อนหินแปลกๆ ฯลฯ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ทำให้เหล่านักแสดงสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่เร้นลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมงานของภาพยนตร์ได้ประสบกับประสบการณ์จริงที่ชวนหวาดผวาด้วยตัวเองในสถานที่ถ่ายทำดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ผู้หญิงชุดขาวหายวับเข้าไปในต้นไม้หลังจากทีมงานทักทาย , หรือทีมช่างไฟที่ไม่ได้ไหว้สถานที่ในการถ่าย ขณะกำลังเก็บสายไฟกลับรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมากดไหล่และเมื่อหันกลับไปกลับไม่พบร่างใครจนกระทั่งถูกกดอีกครั้งก็ไม่เจอใคร ฯลฯ

3.และเมื่อพูดถึงอารมณ์ “สยองฮา” ที่เป็นลายเซ็นต์ในแบบ ฉบับของสาระแน แน่น๊อน ว่าไม่เพียงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะมีใครเหมือน เพราะก้านสมองของผองพวกสาระแนคิดอะไรก็ไม่เคยเหมือนใครอยู่แล้วเพราะฉะนั้นพูดได้ว่า อารมณ์ฮาแบบขำก๊าก ที่จะเกิดขึ้นจากเหล่าตัวละครที่เป็นทั้งคนซึ่งถูกบ่มเพาะคิดค้นและดีไซน์ออกมาได้อย่างโดดเด้ง ตั้งแต่ตัวคาแรคเตอร์ 2 หนุ่มสุดซ่าส์ทั้งแสบและห้าวซึ่งรับบทโดยมาริโอ้ เมาเร่อ และ สตาร์บัคส์ กับการพลิกบทบาทตีลังกา 360 องศา ชนิดที่ว่าแฟนๆจะไม่เคยสัมผัสมาก่อนจากฝีไม้ลายมือของทั้งคู่รวมไปถึงเซ็กซี่ตัวแม่อย่างสาวอั้มในบทโคโยตี้ขี้เมา ที่แฟนๆจะได้รู้เสียทีว่าซูเปอร์สตาร์สาวอย่างอั้มเองก็มีดีในบทคอมิดี้ที่มาพร้อมกับความสวยรั่วฮา มาดูกันซิว่าจะออกมาขนาดไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับ การแสดงแบบปล่อยหมดไม่มีกั๊กของสาระแน เปิ้ล-หอย ในบทคู่หูสายสืบมือปราบพิเศษที่ต้องร่วมขบวนเกาะติด2หนุ่ม1สาวไปกับคดีฮาสยองภายใต้ลีลาที่รับประกันว่า แค่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว แต่นี่มาพร้อมการแสดงยิ่งกว่าเล่นชิงถ้วยชนิดที่ว่าใครดีใครอยู่ ขอเพียงเปิ้ลอย่าเผลอหอยโซ้ยแหลกละกัน เพราะทั้งคู่ปล่อยการแสดงแบบฆ่ากันให้จมธรณีเลยทีเดียวถึงแม้จะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมคณะศิลปะกรรมจุฬาฯ สถาบันเดียวกันก็ตาม รวมไปถึงตัวคาแรคเตอร์ผ.สระอีผี ที่ทางเหล่ามันสมองสาระแน หยิบจับและอ้างอิงมาจากบรรดาเรื่องเล่าสารพัดชวนสยองที่เกิดขึ้นและมีอยู่จริงของสรรพสิ่งไร้ชีวิตที่อาจพาดพิงวนเวียนรายล้อมอยู่รอบตัวพร้อมทำให้ทุกผู้คนอกสั่นขวัญแขวน และอย่าแปลกใจถ้าอารมณ์และบรรยากาศที่ปรากฎขึ้นล้วนถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองทางด้านภาพต่างๆที่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวของใครหลายๆคนซึ่งอาจเคยสัมผัสในชีวิตจริงภายใต้รูปรสกลิ่นเสียงในรูปลักษณ์ที่พร้อมจะสะกิดต่อมผวาที่มีอยู่ในตัวของทุกผู้คน ในทุกสถานที่ที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในวัด,สถานที่ราชการ,บ้านพัก,แม้แต่บนท้องถนนที่ทุกคนเคยขับผ่าน

4. ลืมคาแรคเตอร์ติ๋มๆ โคตรจ๋อง สุภาพบุรุษหล่อนิ่ม แสนดีที่เราคุ้นเคยของ มาริโอ้ เมาเร่อ ไปได้เลย เพราะสาระแนเห็นผีครั้งนี้ แฟนๆจะได้พบกับการพลิกคาแรคเตอร์หมุนกลับ 360 องศา เลยทีเดียว เพราะบท “โด้”หนุ่มดวงซวยที่เพิ่งตกงาน นิสัยโคตรแสบ แถมห้าวแบบสุดๆเป็นขาโจ๋จอมลุยตัวจริงที่ยี (สตาร์บัคส์) เพื่อนซี้มักหาเรื่องมาให้อยู่บ่อยๆ (เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองนึกถึงคาแรคเตอร์ของ “เอก” สุดห้าวตอนจบของสาระแนสิบล้อ) ทำให้งานนี้หนุ่มโอ้ต้องถูกเปลี่ยนลุคส์แปลงโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้า เริ่มตั้งแต่ต้องมีรอยสักขนาดใหญ่บนแผงอกอันล่ำบึ้ก โดยต้องมานั่งให้สตาร์บัคส์ลงเพ้นท์รอยสักให้ทุกครั้งก่อนเข้าฉากอยู่ร่วมชั่วโมงสองชั่วโมงเลยทีเดียว (โดยลงรอยสักสี  เป็นรูปหน้า “โจ๊กเกอร์”)  ยังไม่หนำใจ เพราะหนุ่มโอ้ต้องมีฉากซิ่งมอเตอร์ไซด์ บู๊ชกต่อย ยิงปืนอีกต่างหาก งานนี้ทีมสาระแนที่คุ้นเคยกับหนุ่มโอ้เป็นอย่างดีดึงเอาเสน่ห์และความสามารถ ในการเล่นหนังตลก รวมทั้งบุคคลิก ขี้เล่น ขี้แกล้ง ที่หลายคนไม่เคยเห็นมาใส่ไว้ใน “สาระแนเห็นผี” ชนิดที่ว่าแฟนๆจะต้องขำก๊ากกับลีลาและการแสดงยิ่งแท็คทีมกับ สตาร์บัคส์ ได้กวนโอ้ยสุดขีด เข้าขากับสาวอั้มพัชราภาได้อย่างลงตัว แล้วยิ่งเผชิญหน้ากับเหล่าสาระแนตัวดีวิลลี่เปิ้ลหอยด้วยแล้ว ทั้งสยองทั้งฮาเลยทีเดียว และเมื่อต้องประกบเสียงฮากับนักแสดงรับเชิญที่นำโดยหม่ำ จ๊กม๊ก มาริโอ้ถึงกับขอเบรกพักการถ่ายทำทันทีหลังจากซัดไป8เทคเพราะอดขำพี่หม่ำไม่ได้ และยิ่งพอร่วมงานกับสาระแนเป็นหนที่สอง ก็เลยมีการเลื่อนฐานะจากเหยื่อฮาที่มักโดนพี่ๆสาระแนแกล้งด้วยความเอ็นดู กลับมารวมหัวแท็คทีมสาระแนวางแผนแกล้งกลับคืนสตาร์บัคส์ซะเลย แต่ผลเป็นไงต้องไปรอดูในหนัง แต่ที่อยากให้จับตามองเป็นพิเศษกับฉากเลิฟซีนกุ๊กกิ๊กกับสาวอั้มที่เบื้องหลังของการถ่ายทำเต็มไปด้วยอาการสยอง-ฮาในสถานที่ถ่ายทำชวนขนลุกตอนตี2 บอกได้คำเดียวว่าสปิริทนักแสดงล้วนๆ พูดได้ว่าเป็นความท้าทายความสามารถทางการแสดงอย่างที่หนุ่มโอ้ไม่เคยสัมผัสมาก่อนนอกจากที่ต้องอาศัยทักษะการแสดง กับการถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ตื่นเต้น กลัว หวาดผวา ที่ต้องอาศัยจินตนาการล้วนๆ การจดจ่อกับสิ่งที่ต้องปรากฎตรงหน้าที่เป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรม แล้วยังต้องมีซีนดราม่า แอ็คชั่น โรแมนติค รวมไปถึงต้องมีสมาธิจดจ่อกับการแสดงไม่ให้เหล่าอุปสรรคต่างๆอย่างการนอกบทของเพื่อนพี่นักแสดงที่มอบกระหน่ำระดมยิงมุกให้หลุดขำก๊ากตลอด ไปจนถึงการข่มจิตให้เข้มแข็งเมื่อต้องเข้าฉากในสถานที่ต่างๆที่ทีมงานสาระแนประสบกับเรื่องชวนขนหัวลุกมาสดๆร้อนๆ แม้แต่การที่ต้องโดนตำรวจจับครั้งแรกในชีวิตในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสาระแนเห็นผี!!!

5. จับเซ็กซี่ตัวแม่อย่างสาวอั้มพัชราภา ไชยเชื้อ มาเล่นคอมิดี้ทั้งที งานนี้เหล่าสาระแนทำอะไรไม่เคยธรรมดา ส่งคาแรคเตอร์ “ราตี้” โคโยตี้สาวขี้เมากระดกขวดเหล้าตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ งานนี้สาวอั้มแปลงโฉมเป็นโคโยตี้สาวสวยเซ็กซี่ทุกช็อตทุกซีนแถมควบคุมดูแลแต่งหน้าเติมอายไลน์เนอร์ลงลิปส์ผลัดแก้มฯลฯสวยจัดด้วยตัวเอง เอาแค่คอสตูมเสื้อผ้าที่สวมใส่สีดำซีทรูสุดเซ็กซี่ตัดกับบราสีมชมพูสะท้อนแสงสะดุดตา ว่ากันว่าสาวอั้มรั่วได้น่ารักน่าหยิกเป็นโคโยตี้สาวขี้เมาที่น่ารักโพดโพด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มๆที่รอคอยลีลาแด๊นซ์ของโคโยตี้สาวอั้มมิมีผิดหวัง แทนที่จะรูดเสาในผับ แต่เหล่าสาระแนกลับระเบิดความฮาแบบเซ็กซี่ด้วยการให้สาวอั้มมายืนเต้นบนโต๊ะริมถนนตอนดึกดื่นค่ำคื่นถึงตี2 ท่ามกลางฝนตกพรำพรำอีกต่างหาก เอากะเขาซิท่านผู้ชม สาวอั้มสปิริทแรงถึงไหนถึงกัน วาดลีลาได้ชนิดทีมงานหนุ่มๆถึงกับคอแห้งผากกับความมืออาชีพของซูเปอร์สตาร์สาว ภายใต้อุปสรรคที่ชวนให้หัวคะมำ เพราะนอกจากขาโต๊ะที่โยกเยก แล้วพื้นที่เต้นบนโต๊ะยังแคบ ลื่นและเล็กมากๆ แล้วตัวอั้มต้องเต้นใส่ส้นสูง งานนี้พอสั่งแอ็คชั่น สาวฮอตไม่มีกั๊ก ปล่อยเต็มที่ เด็ดขาดจริงๆท่านผู้ชม ยังไม่รวมกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์ถ่ายทำที่ซูเปอร์สตาร์สาวอั้มจะต้องจดจำไปชั่วชีวิตในการร่วมงานกับเหล่าชาวสาระแน ตั้งแต่การสวมบทโคโยตี้สุดรั่วที่ต้องดื่มเหล้าตลอดเวลา เพื่อให้อินกับบทบาทสาวอั้มยอมให้ทีมงานผสมเหล้าและยกซดไปตลอดการถ่ายทำ และเพื่อให้ตัวละคร “ราตี้” ออกมาตามนิยามของผู้กำกับเป้ที่ว่า เป็นสาวรั่วๆขี้เมาที่ดูเบลอๆ ขี้โวยวาย สลับกับท่าทางที่ดูวิตกจริตทำให้ในหลายๆฉากสาวอั้มต้องถ่ายทอดการแสดงที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่าเธอคือนักแสดงมืออาชีพตัวจริงเสียงจริงที่เมื่อเดินเข้าฉากและสิ้นเสียงแอ็คชั่น เธอพร้อมที่จะเป็นราตี้สุดแสบแทบทันที ในฉากเดียวกันต้องตกใจสุดขีด ไปพร้อมกับหัวเราะและโวยวายแบบไร้สติ แต่ในขณะเดียวกันต้องตบท้ายด้วยสีหน้านิ่งๆไปพร้อมกับหยดน้ำตาที่คลอ2เบ้าตา และแน่นอนอย่าคิดว่าจะเห็นการแสดงของสาวอั้มในสตูดิโอที่เซ็ทเป็นสถานที่ต่างๆ เพราะหนังเรื่องนี้กว่า 90เปอร์เซ็นต์เป็นการถ่ายทำนอกสถานที่และแน่นอนว่าเป็นหนังผี จึงเป็นเรื่องปกติที่สาวอั้มต้องถ่ายทำในสถานที่ที่ไม่ธรรมดา บางครั้งริมถนน ทางเปลี่ยว บ้านกลางสวนยาง ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดตอนเที่ยงคืนตี2 หรือแม้แต่เลิฟซีนที่หนุ่มโอ้ยืดอกให้สาวอั้มซบเพื่อปลอยใจก็ยังถ่ายทำในสถานที่ที่มีเรื่องเล่าชวนขนลุกตอนตี 2 รวมไปถึงที่ต้องเกาะท้ายมอเตอร์ไซด์ซูเปอร์ไบค์ที่ซิ่งโดยมีคนขับอย่างมาริโอ้ รวมไปถึงเข้าฉากกับใครก็เข้าได้ แต่ถ้าให้ดีหลีกเลี่ยงพี่เปิ้ลพี่หอยจะดีที่สุดโดยเฉพาะสาระแนหอยที่มาในชุดคาแรคเตอร์ซึ่งทำให้สาวอั้มต้องกลั้นหัวเราะอย่างสุดชีวิต ถ่ายหนังผีดึกๆอย่างนี้ใครๆก็ง่วง แต่สาวอั้มมีของดีเป็นมะดัน,มะม่วง,มะขามอะไรก็ได้ขอให้เปรี้ยวจี๊ดก็พอ

6. สตาร์บัคส์ หนุ่มอาร์ทติสท์จากรั้วศิลปกรที่มีชื่อประจำตัวในคณะระหว่างที่เรียนว่า “สตาร์บัคส์” แต่ชีวิตต้องพลิกผันโดยสิ้นเชิง ทันทีที่เดินเข้ามาสมัครงานในตำแหน่ง “ครีเอทีฟ”ประจำรายการวาไรตี้ขี้แกล้ง “สาระแน” กลับกลายเป็นว่าชีวิตตลอด3เดือนในระหว่างทดลองงาน ถูกนำมาขึ้นจอใหญ่และกลายมาเป็นภาพยนตร์เรียลลิตี้คอมิดี้  “สาระแนห้าวเป้ง” ที่คนรู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง ในระหว่างที่ออกกองถ่ายในฐานะมือตีเสลทและทีมงาน “สาระแนสิบล้อ”ผกก.เป้นฤบดี มองเห็นความเข้าขาและ “คลิ๊ก” กันของ สตาร์บัคส์ กับ มาริโอ้ในกองถ่าย เป็นเหตุให้บท “ยี” หนุ่มเจ้าชู้ตัวแสบ เพื่อนซี้ของโด้(รับบทโดยโอ้)ที่เพิ่งอกหักมาหมาดๆเพราะถูกแฟน(รับบทโดยน้องอรสิบล้อ)จับได้ว่าไปมีกิ๊ก ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อให้ สตาร์บัคส์ที่ขึ้นกล้องสุดๆ แจ้งเกิดโดยเฉพาะ แถมตัวบทเปิดโอกาสให้หนุ่มติสต์ได้บริหารเสน่ห์ในคาแรคเตอร์ ไอ้หนุ่มจอมกรุ้มกริ่ม ขี้หลี ยียวนกวนสุดฤทธิ์ ยิ่งได้แรงดันจากทีมสาระแน ก็อย่าแปลกใจถ้าหนุ่มบัคส์จะขโมยซีนหนุ่มฮอตมาริโอ้ ขนาดหนุ่มโอ้ยังเอ่ยปากว่า พี่สตาร์บัคส์ เนียนโคตรๆ และตลกหน้าตายมากๆ เชื่อว่าแฟนๆจะต้องกรี๊ดกับสตาร์บัคส์อย่างแน่นอน จับตาดูฉากเปิดตัวของสตาร์บัคส์กับน้องอรสิบล้อและหนุ่มโอ้ที่รับรองขำกลิ้ง และสารพัดฉากฮาสยองของสตาร์บัคส์ที่แท็คทีมกับหนุ่มโอ้และสาวอั้มเดินหน้าเห็นผีทั้งเรื่อง คือสุดยอดความบันเทิงรับปีใหม่ที่จะทำให้คนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้อย่างแน่นอน จากพนักงานลักษ์ ที่เป็นทั้งครีเอทีฟ และจีเอ็ม(เจเนรัลเบ้) คือทำทุกอย่าง ทั้งในสาระแน ฮาจะเกร็ง  และก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงมีผลงานอย่างฮูอาร์ยูใครในห้อง,สาระแนเห็นผี ล่าสุดมีผลงานละครเวที เคนลี่กะก๊วนขี้เล่น แถมอยู่ในกองหนังสาระแนเห็นผี รับหน้าที่ทำการแสดง,ตีสเลท,เป็นเมคอัพอาร์ทติสต์เพ้นท์รอยสักให้มาริโอ้ รวมไปถึงเสื้อยืดลายสุนัขจิ้งจอกน้ำลายหกที่บ่งบอกคาแรคเตอร์ขี้หลีของยี ก็ล้วนมาจากฝีมือของเขา....สตาร์บัคส์

7. หลังจากปล่อยให้สาระแนเปิ้ลตีคู่มาริโอ้ใน “สาระแนสิบล้อ” มาถึง “สาระแนเห็นผี”  ถึงเวลา “สาระแนหอย” ขอปล่อยของใส่การแสดงและขอโชว์แบบใส่มาเต็มๆสตรีมทุกๆซีน อะไรที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ ผู้บริหารลักษ์อย่างหอยไม่มียั้ง พี่แกใส่หมด ประมาณว่าไม่มีลุคส์ให้ห่วง อย่างในสาระแนสิบล้อ สาระแนหอยมาในบทแฝดอู๊ดแอ๊ดกับโก๊ะตี่ใส่ชุดเดียวเปรี้ยวทั้งเรื่อง แต่สำหรับสาระแนเห็นผี มีกี่ฉาก พี่แกเล่นดีไซน์เสื้อผ้าหน้าผมแบบใหม่หมดไม่ซ้ำกันสักฉาก พร้อมออกแบบการแสดงทั้งแอ็คติ้ง แอ็คเซ็นท์ในการออกเสียงไปตามเสื้อผ้าในแต่ละคาแรคเตอร์เลยทีเดียว คิดไกลถึงขนาดที่ว่าในแต่ละซีนจะต้องเข้าฉากกับใคร ยิ่งรับบทเป็นสก็อต (เหมือนสก็อตแลนยาร์ด)สายสืบพิเศษที่โดดเด่นในการแปลงโฉมด้วยแล้ว งานนี้มีหรือที่สาระแนหอยจะมาแบบธรรมดา ทั้งบังคับแกมขู่เข็ญให้ฝ่ายเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม อย่างเปิดตัวฉากแรก มาในสไตล์ พริตตี้มอเตอร์โชว์ เคยเห็นกันใช่ม๊ะว่างานมอเตอร์โชว์ สาวๆเขาจะต้องผ่าเว้า ให้เห็นเรือนร่างเน้นรูปทรงที่สุดเซ็กซี่ชนิดถึงไหนต่อไหน งานนี้พี่หอยที่เพิ่งมาจากการสืบคดีเกี่ยวกับมอเตอร์โชว์ ก็เลยมาในคราบของ พริตตี้ ไฮบูท สวมบูทสูงยาวเหนือเข่า ยิ่งกว่าส้นตึกแถมชุดหนังแก้ว กางเกงฮอตแพนท์โชว์เรียวขาอวบอิ่ม ทรงผมม้าเต่อ ตาโตแอ๊บแบ๊วเพราะใส่คอนแท็คเลนส์แบบบิ๊กอายส์ กว่าจะเข้าฉากได้ยอมนั่งทนแปลงร่างกันเป็นชั่วโมงๆ  ยังไม่หนำใจ เมื่อต้องแปลงโฉมปลอมตัวเป็นยากูซ่า(หรือบ้ากันแน่) (ทำไปด้าย...ย) อาศัยแต่งตัวน้อยชิ้นมั๊กมั๊ก ผ้าขนหนูผืนเดียว ก็ทำเอาฮาได้ แต่นั้นยังไม่พอเพราะยังมีอีกสารพัดลุคส์ ให้คนดูใจหายใจคว่ำ   เรื่องการแสดงไม่ต้องพูดถึงทำการแสดงใส่กันมาเต็มที่ ยิ่งประกบคู่กับสาระแนเปิ้ลด้วยแล้วแค่ซีนแรกของเปิ้ลหอย ทำเอา เซ็กซี่ตัวแม่อย่างอั้ม ที่นั่งดูทั้งคู่ทำการแสดงหน้ามอนิเตอร์ถึงกับหลุดขำก๊ากออกมาเลยทีเดียว

8.สาระแนเปิ้ลเรื่องที่แล้วรวมหัวมือเขียนบท (เพราะเป็นลูกน้องตัวเอง) แถมผกก.ที่เป็นเพื่อนศิลปกรรมจุฬาฯมาด้วยกันจนเกิดข้อครหามีนอกมีในให้ที่ตัวเองคว้าบทน้าเชเป็นพระเอกคู่มาริโอ้ พอมาสาระแนเห็นผีทุกคนรู้ทัน  แต่จริงๆแล้วเปิ้ลก็เป็นสุภาพบุรุษ(นะตัวเอง)และเป็นรุ่นพี่ คณะศิลปกรรมจุฬาของหอย (ศิลปกรรมเอกดนตรีสากล ส่วนเปิ้ลเอกการแสดง) งานนี้เลยเปิดทางให้หอยได้โชว์เด๊ะโดดเด้งเด่นเต็มที่ ส่วนตัวเองทำตัวเรียบง่าย ใส่ชุดเดียวทั้งเรื่อง รับบทนักสืบมือ1  (มือหนึ่งจริงๆ คือใช้ได้มือเดียวแขนเดียวอีกแขนใช้การไม่ได้)  แต่ถึงกระนั้นเมื่อถึงเวลาเข้าฉากประกบคู่กับหอยตลอดทั้งเรื่อง เปิ้ลก็ออกตัวว่าจะพยายามไม่ขโมยซีน(ถ้าไม่จำเป็น) แต่พอสั่งแอ็คชั่นเลือดศิลปินในตัวแพร่ซ่านไปทุกอวัยวะ  รุ่นน้องก็รุ่นน้องเหอะ อย่าเผลอนะเข้าฉากด้วยกัน ฆ่ากันเห็นๆ นึกว่าทำการแข่งขันการแสดงชิงถ้วยรางวัล  และทุกครั้งที่เปิ้ลหอยแท็คทีมปะทะเหล่านักแสดงรับเชิญที่ขนกันมาเป็นโขยง รับประกันได้เลยว่างานนี้ยำอำกันเละเทะให้เข้ากับอารมณ์ขนพองสยองฮาสมกับสาระแนลุกขึ้นมาทำหนังผีทั้งที นี่ยังไม่รวมกับทุกครั้งที่เปิ้ลหอยปะทะอั้มโอ้บัคส์ อุปสรรคเดียวของการถ่ายทำของทั้ง3คือทำอย่างไรก็ได้เพื่ออั้นขำให้นานที่สุด และถึงแม้จะมีบทบาทหน้าที่เป็นกรรมการบริหารบริษัทลักษ์ฟิล์ม ดูแลรับผิดชอบในการผลิตงานภาพยนตร์โดยเฉพาะ แต่ถึงบางวันยังไม่ถึงคิวถ่าย สาระแนเปิ้ลก็มาช่วยออกไอเดียกับเป้ผกก. รวมทั้งช่วยเป็นแอ็คติ้งโค้ช ในการดึงเสน่ห์ความซ่าส์แสบกวนในตัว2หนุ่ม โอ้-บัคส์ โดยเฉพาะซีน โอ้-บัคส์คั่วสาวในผับ แว่วมาว่าอาจใช้ประสบการณ์จริงสมัยหนุ่มๆของเปิ้ลมาใช้ให้เป็นประโยชน์ของสาระแนเห็นผีเลยทีเดียว

9. ระดับดีกรีความสนุกสนานของ สาระแนเห็นผี ยังมีอีกเป็นกระตั๊ก เพื่อให้หนังผีฮาสยองของสาระแน ออกมาให้สมกับเป็นโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แห่งความบันเทิงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ งานนี้ไม่วายระดมเหล่าขบวนก๊วนซูเปอร์สตาร์เพื่อนซี้ปึ้กส์ของเหล่าสาระแนมาร่วมเนรมิตบรรยากาศขนพองสยองฮากันอย่างถ้วนหน้า ลองนึกภาพ อั้ม-โอ้-บัคส์ ประกบเปิ้ลหอย แล้วยังต้องปะทะเสียงฮาโดยต้องแขม่วรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไม่ให้หลุดออกมาสักแอะ ในขณะที่เบื้องหน้าที่ต้องเข้าฉากร่วมกันคือเหล่านักแสดงซูเปอร์สตาร์รับเชิญระดับแม่เหล็กของเมืองไทยอย่างหม่ำ จ๊กม๊ก,เกียรติ กิจเจริญ,เด๋อ ดอกสะเดา,จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก,บอลเชิญ , เฮียหมู(บางรักซอย9) , เป้ย ปานวาด , กระแตศุภักษร,สุเชาว์ พงษ์วิไล,น้องอรสิบล้อ,หลังเลนส์,ปลาคาร์ฟเชิญยิ้ม,สายเชียร์(จนเครียดกินเหล้า),แม็กซ์ชวนชื่นฯลฯ แถมทุกคนพร้อมระดมขนความสนุกสนานมันส์ฮามาใส่กันแบบไม่ยั้งและไม่เกี่ยงรุ่นให้สมกับที่สาระแนทะลึ่งลุกขึ้นมาทำหนังผี ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่างเกียรติ กิจเจริญที่มาถ่ายทอดความฮาในบทหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าต้องยอมมานอนให้เหล่าเมคอัพอาร์ทติสต์เพนท์รอยสักยากูซ่าทั้งตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังเต็มแผ่นเนื้ออวบอ้วนนานถึง5ชั่วโมง เช่นเดียวกับเด๋อ ดอกสะเดา ที่ต้องมานั่งแต่งเมคอัพ เพราะรับบทสัปเหร่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และด้วยน้ำมิตรของเหล่าสาระแน แขกรับเชิญผู้ส่งเกียรติที่แสนน่ารักทุกคนมาพร้อมกับคำแนะนำและอัดล้นด้วยสารพัดมุกที่ตั้งใจขนมาฝากแฟนๆสาระแนเห็นผีโดยไม่ได้นัดหมายและปล่อยกันเต็มที่ชนิดไม่มีกั๊กบอกได้คำเดียวว่า ห้ามพลาด แถมแค่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว.......แต่จริงๆ “สาระแนเห็นผี” เป็นหนังผีน่ากลัวนะตัวเอง แต่ทำไปทำมา....ทำไมขำซะงั้น