ได้ฤกษ์ดีบริษัท กรุ๊ฟโฟร์โปรดักชั่น จำกัด โดยผู้กำกับฯ สายยนต์ ศรีสวัสดิ์ (สร้างภ.บ้านผีปอบ ต้นตำรับ) นำทีมบวงสรวง
เปิดกล้องภาพยนตร์แนวสยอง "นางตะเคียน" นำแสดงโดย ยุ้ย-จีระนันท์ มะโนแจ่ม ประกบกับพระเอกโฆษณา โอ๊ค-พีระพันธุ์ อารยพันธุ์
พร้อมทั้งนักแสดงมากฝีมือหลายคน และทีมงาน ณ สถานที่ถ่ายทำจริง ข้างต้นตะเคียน วัดสระแก้วสรรเพชร จ.สุพรรณบุรี
เรื่องย่อ
ใยบัวเป็นเพียงลูกจ้างรายวันในโรงงานปั่นทอขนาดใหญ่แห่งหนึ่งแถบชานเมือง ถึงจะมีความรู้น้อย แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น จึงมีลูกจ้างชายระดับเดียวกันทั้งในและนอกโรงงานหลายคนให้ความสนใจเธอ แต่เธอไม่เคยให้ความสนใจใคร จนกระทั่งได้พบและรู้จักกับพิมาน พนักงานฝ่ายบริหารของโรงงานที่มีโอกาสก้าวหน้าต่อไปในอนาคต เธอจึงทุ่มเทความรักให้เขาหมดทั้งตัวและหัวใจ แต่หลังจากมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง พิมานกลับนำคลิปภาพที่ควรจะเป็นความลับของเธอกับเขาเพียงสองคนไปอวดเพื่อน เพื่อน ๆ ของพิมานที่เห็นคลิปต่างแสดงอาการกระหายที่จะมีความสัมพันธ์กับเธออย่างเปิดเผย ทำให้เธอรู้สึกอับอายและเสียใจในการกระทำของพิมาน แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คำอธิบายจากพิมาน พิมานก็ถูกส่งตัวไปควบคุมโรงงานที่บริษัทขยายออกไปต่างจังหวัดระยะหนึ่งอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน โรงงานก็ประกาศปลดคนงานในแผนกที่เธอทำอยู่ออกทั้งหมด โดยอ้างว่าต่างประเทศไม่สั่งผลิตสินค้า จึงจำเป็นต้องยุบฝ่ายผลิตบางแผนกลง
เพื่อน ๆ ของใยบัวที่ประสบชะตากรรมเดียวกันต่างพยายามหางานอื่นทำ บางคนยอมทำงานใหม่ที่ได้ค่าจ้างน้อยกว่า บางคนพอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็หันไปลงทุนค้าขายตามตลาดนัด แต่สำหรับใยบัวซึ่งไม่มีเงินเหลือเก็บเลย เพราะส่งเงินค่าจ้างที่ได้รับไปให้พ่อ แม่ และน้องสาวที่อยู่ต่างจังหวัดสม่ำเสมอ อีกทั้งระยะหลัง ๆ เธอไม่สามารถติดต่อกับทางบ้านได้ ใยบัวจึงเดินทางกลับบ้านห้วยน้ำหอม ซึ่งเป็นชนบทที่ห่างไกล การคมนาคมไม่สะดวก เพียงเพื่อพบว่า พ่อ แม่และน้องสาวต่างก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายและอุบัติเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสามคน ใยบัวหวังว่าพิมานจะเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายสำหรับเธอ จึงพยายามติดต่อพิมานอีกครั้งแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับเช่นเดิม ใยบัวก็ยิ่งรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต ไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกต่อไปว่าพิมานรักเธอจริง ๆ จึงตัดสินใจผูกคอตายที่ต้นตะเคียนใหญ่ใกล้ป่าช้าของวัดประจำหมู่บ้าน ก่อนที่จะใยบัวจะสิ้นใจ ภาพนิมิตที่เกิดขึ้นให้เห็นในจิตสุดท้าย เป็นภาพที่เธอเคยทำร้ายและฆ่าสัตว์หลายชนิดเมื่อตอนเด็ก ๆ และภาพการทำให้ผู้อื่นตายด้วยวิธีการต่าง ๆ ในอดีตที่ไกลออกไปหลายชาติ แต่ใยบัวไม่เข้าใจว่า นั่นคือแรงกรรมที่ทำให้ชีวิตของเธอสั้นลงด้วยการฆ่าตัวตาย เพราะผู้ที่เธอนึกถึงอยู่ลึก ๆ ตลอดเวลาก็คือ พิมาน
วันต่อมามีผู้พบศพของใยบัว ชาวบ้านจึงช่วยกันประกอบพิธีศพตามประเพณีความเชื่อและพิธีทางศาสนา ด้วยการตราสังศพ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ใยบัว ให้ใยบัวได้ถวายผ้าบังสุกุลแก่พระที่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับศพตามลำพังในป่าช้ากลางดึก จากนั้นจึงฝังร่างของใยบัวไว้ใต้ต้นตะเคียนที่เธอใช้ผูกคอตาย พร้อมกับเชือกผูกคอตายของเธอเอง
ด้วยผลกรรมและจิตที่ยึดมั่นอยู่กับอารมณ์ก่อนตาย ใยบัวจึงเกิดเป็นอสุรกายรอคอยคนรักวนเวียนอยู่ในบริเวณที่ตนผูกพัน ประกอบกับความอดอยากเพราะเมื่อครั้งมีชีวิตไม่เคยทำบุญใส่บาตหรือถวายอาหารพระ การปรากฏตัวของใยบัวเพื่อสื่อให้ชาวบ้านช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้างจึงกลายเป็นสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน ผู้มีวิชาอาคมอยู่บ้างในหมู่บ้านห้วยน้ำหอมพยายามทำพิธีบังคับขับไล่ใยบัวไม่ให้มารบกวน แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ แม้แต่ บุญห้อง ผู้ที่ชาวบ้านนับถือว่าเป็นหมอด้านคุณไสยที่เก่งที่สุดและต้องการเชือกผูกคอตาย เศษผ้ามัดตราสัง ตาปูตอกโลงศพและอื่น ๆ ของผีตายโหงอย่างใยบัวไปทำของขลังขายยังต้องล่าถอย เมื่อเผชิญหน้ากับใยบัว
แรก ๆ พิมานอาจจะรู้สึกต่อใยบัวว่าเป็นเพียงผู้หญิงที่ควรจะผ่านไปเหมือนหญิงอื่นที่เขาเคยผ่านมาแล้ว แต่เมื่อได้สัมผัสกับความรักของใยบัวแม้ในระยะสั้น ๆ ความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนไป ครั้งที่นำคลิปภาพของตนเองกับใยบัวให้เพื่อน ๆ ดูเพื่อยืนยันความสามารถของตน พิมานก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งไม่ควรและรู้สึกหวงแหนใยบัวขึ้นมา เมื่อไปอยู่ต่างจังหวัดก็มีงานล้นมือ เข้าประชุมถี่ยิบ ต้องปิดโทรศัพท์มือถือเสมอจนไม่มีโอกาสติดต่อกับใยบัว เมื่อย้ายกลับมากรุงเทพฯอีกครั้งและรู้จากเพื่อนของใยบัวว่าใยบัวกลับไปห้วยน้ำหอมตั้งแต่ถูกปลดออกจากงาน พิมานจึงชวนเพื่อนสองคนลาพักร้อน เดินทางไปยังบ้านของใยบัวตามเส้นทางที่ใยบัวเคยบอกไว้ แม้ในระหว่างการถามหาบ้านของใยบัวจะถูกทักท้วงจากชาวบ้านที่ใยบัวเคยปรากฏตัวให้เห็นมาแล้วว่า ไม่ควรไปที่บ้านพลังนั้น พิมานก็ดั้นด้นมาจนถึงบ้านของใยบัวในเวลาพลบค่ำ และพบว่าใยบัวเตรียมต้อนรับอยู่แล้วเหมือนรู้ว่าเขาจะมา แต่ความแปลกใจก็ถูกสลัดทิ้งไปเมื่อใยบัวแสดงให้เห็นว่า เธอรักเขามากเกินกว่าจะให้สิ่งที่ผ่านมาแล้วทำลายความรักที่เธอมีต่อเขาได้
เพื่อนของพิมานกลับคิดว่าพิมานแค่ติดใจในรสรักของใยบัวเท่านั้น และที่พิมานอุตส่าห์มาหาใยบัวถึงต่างจังหวัดก็เพื่อความสนุกชั่วครั้งคราวกับบรรยากาศแปลก ๆ ไม่ได้คิดจริงจัง เมื่อมีโอกาส เพื่อนทั้งสองจึงพยายามขอมีความสัมพันธ์กับใยบัวบ้าง แม้ใยบัวจะปฏิเสธแต่เพื่อนของพิมานทั้งสองคนก็หาว่าใยบัวเล่นตัวและหันมาใช้กำลัง ใยบัวจึงเปิดเผยตัวเองให้เพื่อนของพิมานเห็นในสภาพซากศพ เพื่อนของพิมานตกใจและเกิดความหวาดกลัว จึงหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ก็เสียชีวิตลงก่อนที่จะอ้าปากร้องให้ใครช่วยทั้งสองคน
ชาวบ้านเชื่อว่าการตายของเพื่อนของพิมานทั้งสองคนเป็นฝีมือของใยบัว จึงพยายามบอกพิมานว่าใยบัวตายไปแล้วด้วยการนำหลักฐานพยานต่าง ๆ มาให้พิมานดู แม้กระทั่งขอให้เจ้าอาวาสมายืนยัน แต่พิมานก็ไม่เชื่อ เพราะเขาสามารถใช้ชีวิตร่วมกับใยบัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป กระทั่งผู้ที่บอกเขาว่าใยบัวตายไปแล้วต่างสิ้นชีวิตลงด้วยอาการต่าง ๆ กัน พิมานจึงยอมพิสูจน์จนเห็นกับตาตนเองว่าใยบัวตายไปแล้วจริง ๆ และคิดหลบหนีกลับกรุงเทพฯ แต่ใยบัวไม่ยอมให้พิมานจากเธอไปง่าย ๆ เธอใช้อำนาจของอสุรกายบังคับให้พิมานต้องอยู่กับเธอต่อไปโดยพิมานไม่มีทางขัดขืน ชาวบ้านพยายามช่วยเหลือพิมานแต่กลับถูกใยบัวอาละวาดจนต้องหนีไปพึ่งเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสขอให้ใยบัวหยุดสร้างบาปเพิ่มขึ้น ใยบัวกำลังโกรธจึงตะคอกใส่เจ้าอาวาสแล้วประกาศห้ามใครไปยุ่งเกี่ยวกับตนอีก ไม่เช่นนั้นจะอาละวาดให้หนักกว่านี้
บุญห้องไม่ละความพยายามที่จะนำเศษผ้ามัดตราสัง เชือกผูกคอตาย และตาปูตอกโลงศพของใยบัวไปทำของขลังให้ได้ จึงแอบไปทำพิธีสะกดต้นตะเคียนเหนือหลุมศพของใยบัวแล้วบุกขึ้นไปบนบ้านหมายกำจัดวิญญาณของใยบัว ท่ามกลางการเอาใจช่วยของชาวบ้านที่ติดตามมาดูพิธีของบุญห้อง แต่ในขณะที่ใยบัวจะพ่ายแพ้แก่บุญห้อง พิมานซึ่งอยู่ในอาการซีดเซียวใกล้เป็นซากศพก็ลุกขึ้นมาช่วยเหลือใยบัว ทำให้บุญห้องถูกใยบัวเหวี่ยงกระเด็นตกหน้าต่างบ้านและถูกเศษไม้ที่หักหล่นลงมาปักคอตาย ใยบัวถลันออกมาหน้าบ้านและอาละวาดกับชาวบ้านที่มุงดูอยู่จนชาวบ้านแตกฮือ เจ้าอาวาสเห็นใยบัวจะสร้างกรรมชั่วมากขึ้น จึงเทศนาให้ใยบัวฟังว่า หากสร้างบาปมากขึ้นก็จะไปสู่ภพที่ต่ำลง ไม่มีโอกาสเกิดภพเดียวกับคนที่ตนรักอีก แต่ถ้าสร้างบุญกุศล ชาติหน้าจะได้เกิดในภพเดียวกับคนที่ตนเองรักและได้ครองคู่กันแน่นอน ทำให้ใยบัวสงบลง
หลังจากนั้น ชาวบ้านก็เห็นพิมานเดินทางออกจากบ้านของใยบัวไป ส่วนใยบัวก็ไม่มาปรากฏร่างให้ใครเห็นอีก คืนหนึ่ง ขณะเจ้าอาวาสกำลังจะเข้านอนหลังทำสมาธิ ได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเปิดประตูออกไปดู แต่ไม่พบใคร เห็นเพียงดอกบัววางอยู่เชิงบันไดเท่านั้น วันต่อมาเจ้าอาวาสจึงให้ชาวบ้านช่วยกันรื้อบ้านของใยบัวเพื่อมาสร้างเป็นกุฏิพระ ในระหว่างการรื้อถอนนั้นเองชาวบ้านก็พบซากศพแห้งกรังของพิมานซุกซ่อนอยู่มุมหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านเกิดคำถามขึ้นมาว่า พิมานตายด้วยน้ำมือใคร ตายตั้งแต่เมื่อใด ถ้าตายมานานแล้ว พิมานที่เห็นในระยะหลัง ๆ เป็นผีหรือคน