สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

ชิงหมาเถิด The dog

  LINK : แคแรกเตอร์ตัวละคร
 
Share |
Print 
   
 

 

 

 

 

 

แนวภาพยนตร์                            คอมเมดี้-แอ็คชั่น          
ความยาวภาพยนตร์                    100      นาที
Website                                  www.chingmahterd.com
กำหนดฉายจริง                          28 ตุลาคม 2553
ผู้ผลิต / จัดจำหน่าย                    motif +
อำนวยการสร้างบริหาร     พิชญ์ โพธารามิก, ดร. โสรัชย์ อัศวะประภา, นวมินทร์ ประสพเนต, ซัง โด ลี
อำนวยการสร้าง             ธัญญา  วชิรบรรจง และ ปิยะลักษณ์  มหาธนทรัพย์
ดำเนินงานสร้าง              Do Entertainment  
กำกับภาพยนตร์              พงษ์พัฒน์  วชิรบรรจง       
เรื่อง                                          พงษ์พัฒน์  วชิรบรรจง                            
บทภาพยนตร์                             บริษัท วรรคทอง จำกัด                            
ที่ปรึกษาบทภาพยนตร์                 คงเดช  จาตุรันต์รัศมี
ออกแบบงานสร้าง                       ขวัญชัย  แก้วมาก          
ผู้กำกับภาพ                               สยมภู  มุกดีพร้อม
เครื่องแต่งกาย                            นพดล  เตโช     
ที่ปรึกษาการแสดง          มล. พันธุ์เทวนพ  เทวกุล
นำแสดงโดย      มาริโอ้  เมาเร่อ, ปกรณ์  ฉัตรบริรักษ์, โก๊ะตี๋ อารามบอย, โกวิทย วัฒนกุล, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์, น้องพอใจ

 

 

เรื่องย่อ

ณ ประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสันหลากหลายสีจนน่าเวียนหัว แต่ทุกสี..เอ้ย..ทุกคนในประเทศนี้กำลังตื่นเต้นและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับ งานสำคัญระดับประเทศคือ งานฉลองครบรอบวันเกิด 1 ปีของ “หมาหิมะ” หมาที่เป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ หมาพิเศษสุดแสนจะหายาก ที่ทางประเทศหิมาลัยได้มอบให้เพื่อแสดงไมตรีจิตอันดีต่อกัน
ขณะที่คนทั้งประเทศกำลังมีความสุขอยู่นั้น ชายหนุ่ม 3 คน กำลังมองสังคมอย่างไม่พอใจ ว่า ทำไม…ประเทศนี้ถึงให้ความสำคัญกับมันนัก กะอีแค่ “หมา” ตัวนึงเท่านั้น…พวกเขาจึงหาหนทางทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับคนทั้งประเทศคือ เขาจะขโมย “หมาหิมะ” ไป…

ความที่อยากเอาชนะ..อยากเด่น..อยากดังของทั้ง 3 คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ต้องมาร่วมหัวจมท้ายขโมยหมาหิมะด้วยกัน ความโกลาหล ปน ฮา จึงเกิดขึ้น โดยเขาไม่รู้ว่าเรื่องเล็กๆ นี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตและคืบคลานไปจนถึง….. การไล่ล่าอย่างอำมหิต…เพื่อ เอาชีวิตพวกเขาจากมือปืนสุดโหด !!!

สัมภาษณ์ผู้กำกับ

ทำไม อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ถึงเปลี่ยนไป…?

”ก็อยากเปลี่ยนแนวดูบ้าง”   เป็นคำตอบแรกที่ได้รับกลับมา...

“ก็ทำหนังรัก มาหลายเรื่องแล้ว ครั้งนี้ของเปลี่ยนอารมณ์ จาก หนังรัก เป็น หนังลัก  ฮา ๆ กวน ๆ บ้างสักครั้ง” เป็นคำตอบล้อเล่นของผู้กำกับอารมณ์ดี ก่อนตอบอย่างเป็นงานเป็นการ

ทางโมทีฟพลัส อยากให้ผมลองทำหนังตลกหรือ คอมเมดี้ แอ็คชั่น ดูบ้าง แต่พอมาคิดแล้วว่า ถ้าทำหนังแอ็คชั่น จะต้องใช้เงินมากมายแค่ไหนและคอมเมดี้ฮา ๆ นี่ เราก็คงไปเทียบกับพวกคอมเมดี้ของตลกตัวจริงอย่างเขาไม่ได้ ก็เลยคิดต่อไปว่า ถ้าเราทำหนังแนวคอมเมดี้แบบที่เป็นตัวเราเอง มีการเสียดสี ประชดประชัน จิกกัดกันแบบสนุกๆ มันก็มีความขำ ความฮา อยู่ในตัวเหมือนกันนะ เลยเป็นแนวคิดและเกิดโปรเจ็คนี้ขึ้นมา ซึ่งบทมันก็ถูกพัฒนาไปจนถึงจุดที่ผมเรียกว่า “แอ็คชั่นคอมมิวนิสต์” ถ้าจะอธิบายก็น่าจะเป็นแอ็คชั่นที่ไม่ได้ใช้เงินเยอะ แต่เน้นที่ไอเดีย เน้นที่คิดต่าง ส่วนมุกตลกก็เป็นตัวตนของเรา ยียวน กวน จิกกัด เสียดทุกสี 


และแน่นอนมันยังมันมีความเป็นตัวของตัว (ผม) เอง มันมีเรื่องราว มีมุมมองสะท้อนสังคมได้น่าสนใจ  เพราะผมเชื่อว่าผู้ชมที่อยู่ในสังคมเดียวกันกับเรา จะเข้าใจความหมายแน่นอนเมื่อได้ชมหนังเรื่องนี้

สำหรับนักแสดงนำ เราได้ มาริโอ้ ที่มารับบท “อาร์ท” เด็กอัจฉริยะที่เป็นเสมือนตัวแทนเด็กวัยรุ่นยุคปัจจุบัน บอย-ปกรณ์ ที่มารับบท “แบงค์” หนุ่มหล่อพ่อรวยที่ไม่เคยได้รับความสนใจ  และ โก๊ะตี๋ ในบท “เด่น” ที่เป็นตัวแทนของคนชั้นกลาง คู่กัดของมาริโอ้ ซึ่งในเรื่องนี้เราจะเห็นโก๊ะตี๋ที่ต้องเล่นบทหนัก ๆ ที่เขาไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อนเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของเขาด้วย ซึ่งทั้ง 3 คนจะมาร่วมปฎิบัติการลับสุดยอด

และในเรื่องนี้ผมขอนำเสนอนักแสดงหน้าใหม่ 1 คนคือ “น้องหยก” ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์  ที่มารับบทเป็น “เมย์” และที่สำคัญที่สุดอีก 1 ตัวเอกของเรื่องคือ “น้องพอใจ” สุนัขที่จะมาสวมบทบาท “หมาหิมะ” สัตว์หายากที่สุดชนิดหนึ่งบนโลกใบนี้ ซึ่งเธอแสดงได้อย่างแนบเนียน แบบที่เรียกว่า “สุนัข” เทค น้อยกว่า “คน” อีก  

ทำไมถึงต้องเป็น “หมาหิมะ”

หนังเรื่องนี้มันตอบโจทย์นะ ใน dialog ของหนังก็จะมีว่า “หมาตัวนี้ ถึงแม้มันจะเป็นหมามีอภินิหารยังไงก็ตาม  แต่ความสุขที่คนได้รับมันเป็นความจริงนะ ปล่อยให้มันทำหน้าที่ของมันเถอะ” มันก็เหมือนกับหมีแพนด้า ถึงแม้ว่ามันจะอยู่กับเราชั่วครั้งชั่วคราว แต่ระยะเวลาที่มันอยู่มันสร้างความสุขให้คนไทยได้จริงๆ

บางครั้งสังคมไทยมันให้ความสำคัญมันเห่ออะไรบางอย่างมากเกินไปจนลืมเรื่องสำคัญ ในหนังเรื่องนี้ก็จะมีเสียดสีอะไรบางอย่างในเรื่องของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผมเคยอ่านข่าว หมีแพนด้าลืมตาแล้ว ตัวใหญ่มาก ในขณะที่ทหารภาคใต้เสียชีวิต ตัวเล็กนิดเดียว นี่มันอะไรกันนี่เป็นความรู้สึกผมจริง ๆ ที่ผมก็ใส่ลงไปในหนังพอสมควร

แล้วคัด หมา พิเศษนี้มาได้ยังไง

จริง ๆ ไม่ต้องคัดเลย ทีมงานเขาไปดูกัน แล้วเขาบอกต้องตัวนี้เลย !!! ไม่เอาตัวอื่น เราก็เฮ้ย..ไม่ถามเราหน่อยเหรอ เราผู้กำกับนะ พอได้เห็นก็ เออ น่ารัก เก่ง ฉลาด ถือว่าเป็นดารานำอีกหนึ่งคน (ตัว) เลย     ซึ่งหมาต้นแบบจริง ๆ คือหมาพันธุ์พูริ แต่พูริ จริง ๆ ตัวมันใหญ่มาก เวลาไปไหนมันลำบาก แต่พอเรามาทำเป็นหมาหิมะ เราไม่ได้บอกพันธุ์เนี่ย เราก็เลยเอาหมาพูริ    แต่เป็นไซส์น้องพอใจ แล้วก็มีหางสีดำ เพราะพูริจริง ๆ ถ้าขาวมันจะขาวหมดหรือดำก็จะดำหมด แต่เราทำเป็นตัวขาว หางดำ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถ เวลาถ่าย คนเทคมากกว่าหมาอีก

ส่วนหมาอีกตัวในเรื่องเป็นของนักฆ่า ชื่อ ลีโอ พันธุ์ลาบาดอร์ อันนั้นก็ได้ดังใจเหมือนกัน แต่ว่าก็ยังมีเทคบ้าง เพราะความขี้เล่นของมัน มันจะห่วงมองพี่เลี้ยง เราก็ต้องหาจุดให้พี่เลี้ยงเขายืน แต่มันก็จะมีปัญหาตอนที่ถ่ายเฟรมกว้างๆ อยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็ออกมาได้น่าพอใจ

 

 

โปรดิวเซอร์ พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์  มองว่างานที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้กำกับคนนี้จริงๆ น่าจะเป็นงานที่มีกลิ่นความห้าวๆ บู๊ๆ ปนอารมณ์ขัน คล้ายๆ กับที่ได้เห็นในละครทีวียุคแรกของผู้กำกับท่านนี้อย่าง ‘12 ราศี’ และ ‘เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว’  เขาเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่พงษ์พัฒน์น่าจะทำหนังในทางที่ถนัด “สำหรับหลายคนถ้าพูดถึงชื่อพงษ์พัฒน์  ก็จะสงสัยว่าทำไมเขาถึงทำหนังอย่าง Me Myself   ทำไมเขาทำ Happy Birthday  ทำไมเขาไม่ทำหนังที่เป็นแบบพงษ์พัฒน์จริงๆ  พงษ์พัฒน์แบบที่หลายๆ คนรู้จัก  ผู้ชายที่เป็นนักแสดง มีความสามารถ นักร้องเซอร์ๆ จิ๊กโก้ ใจนักเลง ตอนนี้พี่รู้สึกว่า the dog มีความเป็นตัวตนของพี่อ็อฟมากที่สุด แล้วผมเชื่อว่าในความเป็นตัวตนของพี่อ็อฟ เขามีศักยภาพทั้งในเรื่องของแฟนคนดู  และการผลิตงาน ถ้าเป็นงานที่ตรงใจเขา  น่าจะมีอะไรที่แปลกๆ น่าจะมีอะไรที่ใหม่ๆ และน่าสนใจ”

ส่วนตัวพงษ์พัฒน์ก็พูดถึงแนวทางที่แตกต่างไปในงานชิ้นใหม่ของเขาเมื่อเทียบกับงานชิ้นนี้ไว้ว่า “สองเรื่องก่อนหน้านี้มันจะมีความโรแมนติกเป็นตัวชูรสนะครับ แล้วก็มีความเป็นดราม่าเป็นเครื่องปรุง เรื่องนี้ก็เป็นหนังชีวิตเหมือนกัน แต่ก็มีความเป็นคอเมอดี้และก็แอ็คชั่นเป็นเหมือนเครื่องปรุง เพียงแต่ว่า แนวหนังหลักๆ ก็จะเป็นหนังชีวิตนั่นแหละ”

นอกจากความแตกต่างในแนวทางของหนัง  และไม่มีอนันดามาร่วมแสดง เพราะติดงานหนังเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘อินทรีแดง’   คนเขียนบทหลักก็ไม่ได้เป็นคงเดช จาตุรันต์รัศมี  “จริงๆ แล้วคนเขียนบทเป็นอีกคน เขาขอสงวนนาม ส่วนคงเดชเขามาช่วยในฐานะที่สนิทกัน บ้านอยู่ใกล้กัน แบบมีซีนนี้ บอกเขาไปว่าคิดไม่ออก  ก็ลองมาปรับกัน เขาก็มาช่วยๆ” 

สำหรับความคาดหวังต่อความสำเร็จของหนัง ในส่วนของพงษ์พัฒน์ ผู้กำกับหนุ่มใหญ่ได้กล่าวว่า ก็ไม่ได้หวังถึงขั้นร้อยล้าน “คาดหวังอยากให้หนังมีคนดูหรือเปล่า?  ก็เป็นเรื่องปรกติ แต่จะได้มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่คนดู อยากให้มีคนดูชอบหนังแนวนี้มากพอที่จะทำให้หนังทำเงิน  ถึงจะระดับหนึ่งก็เรียกว่าประสบความสำเร็จได้แล้วล่ะครับ ผมขอยืนยันว่าหนังเป็นแนวคอเมอดี้ น่ารักๆ ยิ้มๆ ขำๆ อยากให้หัวเราะกันทั้งโรง อยากให้คนดูได้รับความสนุกสนานเป็นหลัก”

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.