สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
October Sonata “รักที่รอคอย”
 

สัมภาษณ์ ดารา ผู้กำกับ  http://www.youtube.com/watch?v=wrU6kxxfVk4

   
 

ถ้าเส้นทางสุดท้ายของการ “รอคอย” อย่างยาวนาน

มันสิ้นสุดที่ความสมหวัง และนำพามาซึ่งความสุข คงจะดีมาก

และคงจะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้น

หากการเดินทางนั้น

ต้องผ่านบททดสอบ บทแล้วบทเล่า

แต่ยังคงมุ่งมั่นกับการ “รอคอย” นั้นต่อไป

เพียงเพื่อให้พบกับจุดหมาย แห่งความฝัน

อีกหนึ่งของการ “รอคอย” ที่ทำให้1 ผู้กำกับ 2 ผู้สร้าง และ 3 นักแสดงนั้น สมหวัง

เรื่องราวความรัก ความซื่อสัตย์ การยึดมั่นในคำสัญญา

ผลงานหนังรักดีดี ที่กล้าการันตีให้เป็นหนังรักของคนรุ่นใหม่ แห่งปี 2009



 

 

เรื่องย่อ

อีกหนึ่งบทนิยาม...ความรัก ที่คาดไม่ถึง

อีกหนึ่งมุมมอง...ที่จะทำให้ความรักของคุณมั่นคง

เรื่องราวชีวิตรักของสาวโรงงาน “แสงจันทร์” กับหนุ่มซึ่งกำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก “รวี”

ี่มาพบกันโดยบังเอิญ ในงานศพพระเอกดัง มิตร ชัยบัญชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2513

จากนั้น วันที่ 8 ตุลาคมของทุกปี จึงกลายเป็นวันนัดพบ ณ บังกะโล แสนมุก โฮเต็ล ที่ต่างฝ่ายต่างเฝ้ารอที่จะมาพบกัน โดยมีหนุ่มลูกครึ่งจีน “ลิ้ม” ซึ่งถูกเปรียบเสมือนมือที่สาม

เพียงเพราะเขาเห็นเธอแล้วทำความรู้จัก...

ฝ่ายหนึ่งมองเห็นเป็นเพื่อน เพราะเธอมีเขาอีกคนอยู่ในหัวใจแล้ว

ขณะที่อีกฝ่ายถือเป็นรักแรกพบ…

อีกหนึ่งเรื่องราวของความรักที่จะทำให้เกิดความซาบซึ้ง ที่จะยอมรับและเข้าใจ

กับความรักที่มั่นคงของคนทั้ง 3 เหมือนถูกโชคชะตาเล่นตลก สุดที่จะคาดเดา

ร่วมพิสูจน์และค้นพบรักแห่งทศวรรษ

 

แคแรกเตอร์ตัวละคร

ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบท แสงจันทร์


1 รางวัลการันตีคุณภาพการแสดง รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ สาขานักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “รัก 3 เศร้า” รางวัลที่นักแสดงหลายต่อหลายคนอยากได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่นั้น แต่เธอได้รับเกียรตินี้จากการแสดงนำเพียงเรื่องแรก! ถือว่าเป็นการเปิดฉากการเป็นนักแสดงได้อย่างสวยงาม และนี่คือเครื่องยืนยันถึงฝีไม้ลายมือทางการแสดงของเธอ เมื่อเธอตกปากรับคำ ตัดสินใจรับเล่นให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ กับบท “แสงจันทร์” ที่เธอกล้าพูดได้เต็มปากว่า ยากและท้าทายมากที่สุดบทหนึ่งในชีวิตการแสดงของเธอ

“แสงจันทร์...เป็นตัวละครที่ก้อยใฝ่ฝันอยากจะแสดงมาตลอด พออ่านบทแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น มันมีแต่ความรู้สึกว่าฉัน อยากจะเป็นแสงจันทร์ อยากจะเป็นให้ได้ ชอบมาก ชอบมากจริงๆ เป็นสาวที่มั่นคงในความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ รักแท้ของเธอคือการรอคอยคนที่เธอรักกลับมา ไม่ว่าจะนานแค่ไหน อายุจะล่วงเลยไปสักเท่าไหร่ ความรู้สึกใฝ่ฝัน เฝ้าฝันถึงความรักก็ยังคงมีอยู่เสมอ เสน่ห์ของ “แสงจันทร์” คือ ความเป็นมนุษย์ เป็นตัวละครที่เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง มีความรัก มีความเพ้อฝัน มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี เรียนรู้อะไรที่ถูกและผิดได้จริงๆ ทำให้เราเชื่อได้ว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อว่า “แสงจันทร์”

“ชีวิตของผู้หญิงคนนี้ เกิดมาก็ขาดความรัก ไม่เคยเจอความรักที่แท้จริง แล้วก็อยู่กับความเพ้อฝันมาตลอด จนในช่วงชีวิตหนึ่งเหมือนเธอจะได้เจอความรักที่แท้จริงนั้นแล้ว แต่ว่าความรักนั้นกลับทำให้เธอทุกข์ทรมานอยู่กับการรอคอย และเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าความรักครั้งนี้มันมีจริง และเธอก็เฝ้ารอคอยให้เกิดขึ้นจริงสักวัน คือก้อยรู้สึกชอบที่เธอศรัทธาในความรัก ในยุคสมัยนี้เราคงไม่ค่อยได้เห็นคนที่ยึดมั่นกับความรักมากเท่าไหร่ ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันเจริญก้าวหน้ามาก แล้วทุกอย่างมันไปเร็วมาก ความรักมันกลายเป็นเรื่องฉาบฉวยที่เกิดขึ้นในสังคม อยากจีบกัน เป็นแฟนกันมันก็เกิดขึ้นได้ง่าย เร็วมาก แต่ว่าสำหรับตัวแสงจันทร์ เธอมั่นคง...รอคอย มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก“

“ก้อยตื่นเต้นทุกครั้งที่ต้องพูดถึงหนังเรื่องนี้ ก้อยบอกได้เลยว่านี่เป็นหนังที่ก้อยภูมิใจ และเต็มที่ที่สุด ก้อยอยากให้คนมาดูหนังเรื่องนี้ แล้วคุณจะเข้าใจในความรักมากขึ้น ได้เห็นความรักที่มันมีอยู่จริง ได้เห็นคุณค่าและศรัทธาในความรักมากขึ้น เพราะทุกวันนี้มันง่ายที่จะรัก แต่จะทำอย่างไรให้รักนั้นมั่นคงและยืนยาว นี่สิยาก!  ก้อยมั่นใจว่าเมื่อคุณดูแล้วคุณจะรู้ว่าหนังเรื่องนี้ทำด้วยความรัก และก้อยเชื่อว่าคุณจะตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ในทันทีที่ได้ดู…”


โป๊บ ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ รับบท รวี


แม้ชื่อเสียงเรียงนามของหนุ่มคนนี้ดูจะไม่เป็นที่คุ้นหูเท่าไหร่นัก แต่ทางด้านบุคลิก หน้าตา คาแร็คเตอร์ หรือความมีเสน่ห์นั้นก็ไม่น่าเป็นสองรองใคร   และแม้แต่ความสามารถทางด้านการแสดงก็น่าจะจัดว่าอยู่ในเกณฑ์เข้าขั้น เพราะเป็นถึงลูกศิษย์ท่านมุ้ย (ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล) และกำลังจะมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง สมเด็จพระนเรศวร ภาค 3 ในอันใกล้ ก็จะมีผลงานที่ทุกคนเฝ้ารอชมอีกเรื่อง คือ “เขาชื่อกานต์” และนี่เองทำให้ “โป๊บ” เข้าตาผู้กำกับฯ เรื่องนี้เข้าอย่างจัง ถึงขั้นเอ่ยปากว่าคนนี้แหละ “รวี” ที่มองหามานานแล้ว!!

“จริงๆ แล้วกับเรื่องนี้อยากเล่นมาก พออ่านบทแล้วชอบมาก อยากเล่นเลย เพราะเป็นตัวละครที่มีบุคลิกและความคิดที่ไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่ มันน่าสนใจมาก ก็ไปขออนุญาตทางต้นสังกัดก่อน คือ ท่านมุ้ย แล้วก็ไปกราบเรียนปรึกษาหม่อมกมลา ท่านก็ขอดูบท แล้วท่านก็อนุญาตให้เรามาเล่น บอกว่าบทดี น่าสนใจ”

“กับบท “รวี” เป็นเด็กหนุ่มที่มีอุดมการณ์ชอบช่วยเหลือสังคมและร่วมกิจกรรมทางการเมือง เป็นเหมือนพวกนักศึกษาที่เรียกตัวเองว่าพวก Activist เป็นตัวละครที่มีอุดมการณ์ทั้งเรื่องของความรักและสังคม อยากทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น เพื่อที่จะเอาความรู้ความสามารถของตนไปช่วยสังคม ไปช่วยเด็กที่ยากจน เพื่อที่เขาจะได้เติบโตเป็นคนที่ดีในอนาคต รวีเป็นคนที่มีความรักที่มั่นคง มีความรักแท้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ เขาและเธอพบกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนเป็นพรหมลิขิต มาเพื่อพบแล้วพลัดพราก กว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกที ก็ต้องลุ้นกันด้วยน้ำตาในความพยายามของเขาทั้งสอง”

ในชีวิตจริง รวีคงจะไม่เหมือนผมซะเท่าไหร่ ตัวผมเองเป็นคนที่ออกจะมีนิสัยและบุคลิกที่ยังดูเด็กๆอยู่สักหน่อย แต่สำหรับ “รวี” นี่เค้าเป็นผู้ใหญ่เลยทีเดียว เป็นนักคิด นักเขียน ซึ่งก็ต่างจากผม ฉะนั้นผมก็จะต้องพยายามเปลี่ยนบุคลิกบางอย่างของผม คือต้องพยายามเป็นผู้ใหญ่ให้ได้มากขึ้น และมากกว่าแสงจันทร์ โดยปรับวิธีคิดต้องมีความเชื่อมั่น เชื่อมั่นว่าเรามีความรู้ และเชื่อมั่นในอุดมการณ์ แสดงออกไปให้เธอเห็นว่า เราเป็นผู้ใหญ่ เราสามารถดูแลเธอได้ และรักเธอได้อย่างมั่นคงจริงใจ ผมต้องทำการบ้านเยอะมาก ต้องอ่านหนังสือ หาความรู้ว่าคนในสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา ว่าเขาใช้ชีวิตยังไง ทำตัวแบบไหน มีความคิดอะไรกันบ้าง”

“ที่สำคัญคือ มันยากตรงที่หนังเรื่องนี้ทีมงานทุกคน ทุกฝ่ายตั้งใจกันแบบสุดๆ เก็บรายละเอียดครบทุกเม็ด ตั้งแต่บท, Production Design, เสื้อผ้าหน้าผม, Location ทุกคนทำงานละเอียดมาก ทำให้เรารู้สึกต้องตั้งใจ และเต็มที่ไปด้วยมากๆ

...และการที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า รักแท้มันยังมีอยู่จริง เราเฝ้ารอคอยมันได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหาและอยากได้ ผมจึงเชื่อว่าถ้าคุณได้มาเห็น ความรักในหนังเรื่องนี้จะทำคุณซาบซึ้ง เป็นความทรงจำที่ไม่รู้ลืมก็ได้!!”


บอย พิษณุ นิ่มสกุล รับบท ลิ้ม

บอย AF2 น่าจะเป็นชื่อเรียกที่ติดปากคนทั่วไป โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาก็ไม่น้อย เห็นได้จากผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักร้องนักแสดง พิธีกร และเดินแบบ ฯลฯ แต่กับผลงานด้านภาพยนตร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่เขาตัดสินใจรับเล่นทันทีที่อ่านบท! และจากการตั้งใจ ทุ่มเทจนหลายคนเอ่ยปากชมและแอบลุ้นว่า “บอย” มีสิทธิ์กวาดรางวัลไม่แพ้ “ก้อย” กับ “โป๊บ” เรียกว่ามีลุ้นทั้ง 3 คน กินกันไม่ลงเลยก็ว่าได้ !

เรา เรายังมีความรู้สึกว่าส่วนหนึ่งมันเป็นตัวละคร แต่อีกส่วนหนึ่งมันยังมีความเป็นตัวตนของเรา แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ ต้องลืมแบบนั้นไปให้หมดเลย มันไม่ใช่ตัวเราเลย มันเป็นตัว “ลิ้ม” ทั้งหมด ผมว่าตรงนี้นี่แหละที่ท้าทาย แล้วก็สนุกด้วย เลยอยากให้มาเห็นอีกมุมหนึ่งของบอย เป็นสิ่งที่บอยรอมาตลอดจริงๆ ”

“เรื่องนี้บทสุดยอดครับ เป็นบทที่ดีมากเลย ผมคิดว่าหนังที่ดี ต้องเริ่มจากบทที่ดีก่อน แล้วตามมาด้วยทีมงาน แล้วทุกอย่างก็จะตามมาเอง เรื่องนี้เดินเรื่องด้วยตัวแสดงน้อยมาก แต่มันมีความแข็งแรงในตัวเอง ตรงนี้มันมีเสน่ห์มาก”

“ลิ้ม” เป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งจีน ที่เพียรพยายามจะทำความดีเพื่อชนะใจหญิงสาวที่เขารัก ในขณะที่เธอมอบหัวใจให้ชายอื่นไปแล้ว แต่ลิ้มก็ยังคงมั่นคงในรักกับเธอชนิดที่ผมเองยังคาดไม่ถึง เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า คนเรามีสิทธิ์ที่จะฝันกับรักในอุดมคติ ผมว่าทุกคนวาดฝันไว้ว่า คนที่จะเป็นคู่ชีวิตของเราจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ดีหรือไม่! ผมอยากให้ทุกคนมองถึงความเป็นจริง มองถึงชีวิตของเราว่า เราเป็นใคร แล้วเราจะต้องทำอะไร ผมอยากให้คนที่มีความฝัน แต่อย่าเพ้อฝัน กลับมาอยู่กลับตัวเองบ้าง แล้วก็ดำเนินชีวิตไปให้อยู่ในความเป็นจริง มันจะทำให้ชีวิตเรามีความสุข อันที่จริงความรักมันไม่เคยทำร้ายใคร ถ้าเราไม่ทำร้ายมัน มันอยู่ที่เราจะเลือกรักแบบไหนมากกว่ากันต่างหาก”


ณภัทร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้อำนวยการสร้าง

จากผู้สร้างละครน้ำดีทางจอแก้ว สู่จอเงินครั้งแรกด้วยภาพยนตร์ขวัญผวา “Ghost Game ล่า-ท้า-ผี” ต่อด้วยภาพยนตร์ที่ดูได้ทั้งครอบครัวอย่าง “มะหมา 4 ขาครับ” ที่ไปกวาดรางวัลจากต่างประเทศมาแล้วมากมาย ตามมาด้วยเรื่อง “คริตกะจ๋า บ้าสุดสุด” และภาพยนตร์ร่วมทุนกับต่างประเทศ ของผู้กำกับ เอกชัย เอื้อครองธรรม กับเรื่อง“โลงต่อตาย” และล่าสุด อีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจมาก กับภาพยนตร์เรื่อง “October Sonata รักที่รอคอย” ที่ยกให้เป็นหนังรักแห่งทศวรรษ เป็นหนังรักที่มั่นใจเหลือเกินว่าจะทำให้คุณจดจำ และประทับใจไปอีกนาน…

“การมาทำหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นโชคชะตา ทุกคนที่รู้จักอยากทำหนังเรื่องนี้กันหมด เลยรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรดี ที่คนเหล่านี้ยอมเอาชื่อเสียงมาการันตี แต่พอได้อ่านบท...ถึงได้เข้าใจ ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าต้องทำ ไม่ทำไม่ได้แล้ว! มันเกิดแรงบันดาลใจอยากทำขึ้นมาทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า

...อยากทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของคนดู

...อยากทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยดีๆ อีกเรื่องในยุค พ.ศ. นี้

...อยากเห็นหนังเรื่องนี้ผงาดบนเวทีตลาดโลกภาพยนตร์

แล้วก็ไม่น่าผิดหวังเพราะทีมงานทั้งหมดที่คัดสรรมานั้น เป็นระดับกระบี่มือหนึ่งทั้งสิ้น เรียกว่าเป็น Dream Team ก็ว่าได้ เปรียบเสมือนเอานักเตะซุปเปอร์สตาร์ของแต่ละทีมมาซ้อมและลงเตะด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับภาพ, Production Design, ฝ่าย Art Direction, เสื้อผ้า หน้า ผม, Location ทุกๆ ฝ่าย และที่ขาดไม่ได้กับ 3 นักแสดงของเรื่อง ที่นับว่าโชคดีมากๆ เพราะทั้ง 3 คนแสดงได้ดูกลมกลืน เป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ พวกเขาไม่ได้มาแสดง แต่พวกเขาทำให้เราเชื่อว่าพวกเขาเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ”

“อย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่คนในวงการภาพยนตร์เชียร์ให้ทำ เป็นหนังที่ผู้กำกับฯ รอคอยที่จะทำหน้าที่กำกับอย่างใจจดใจจ่อ เป็นหนังที่นักแสดงอยากเล่น เป็นหนังที่ Production Design ระดับมือหนึ่งของประเทศอยากทำ แล้วเราก็กล้าทำ อยากขอให้คุณลองไปพิสูจน์ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีอะไรบางอย่างที่คุณต้องไปค้นหาคำตอบเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมคุณต้องดูหนังเรื่องนี้ เชื่อเหลือเกินว่า October Sonata “รักที่รอคอย” จะเติมเต็ม “ความเข้าใจในรัก” มากขึ้น”



สมเกียรติ์ วิทุรานิช ผู้เขียนบท / ผู้กำกับฯ


จากผลงานภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้ฟัก”, “มะหมา 4 ขาครับ” ที่ประสบความสำเร็จ จากประสบการณ์การทำงานเบื้องหลังของภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศมากมาย และจากรางวัลการันตีสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้วหลายสถาบัน สู่งานภาพยนตร์เรื่องที่รอคอย และอยากทำมากที่สุดในชีวิต October Sonata “รักที่รอคอย” ถึงขนาดสัญญากับตัวเองว่า จะทำให้ผู้ชมซาบซึ้ง เต็มอิ่มในเรื่องราวของความรักที่แท้จริง !

“ผมรอคอยมานานมาก นานถึง 10 ปีที่จะทำหนังเรื่องนี้ ตอนที่รู้ว่าได้ทำยังนึกว่าฝันไปเลย คือตอนผมเขียนบทเรื่องนี้ผมเขียนมันด้วยความรัก มีความสุขมาก พอได้มาทำ ก็ยิ่งรักหนังเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก เพราะนักแสดงทั้ง 3 คนทำให้ตัวละครมันมีชีวิตเหมือนจริงมาก มันลงตัว ทุกคนเชื่อในเรื่องของความรัก ผมอยากทำหนังที่ทำให้ทุกคนเชื่อในรักแท้ อย่าหมดศรัทธา ถ้าเราเชื่อเราจะได้พบ แต่ถ้าเราไม่เชื่อเราก็จะไม่มีทางได้พบ”

“จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ผมเขียนขึ้นมา ส่วนหนึ่งเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือที่ผมรักมากที่สุดเล่มหนึ่ง และมันเป็นหนังสือเล่มที่สองที่ผมอ่านในชีวิตต่อจาก “สี่แผ่นดิน” คือเรื่อง “สงครามชีวิต” ของศรีบูรพา เป็นหนังสือที่มีความงดงามมากจนเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากเขียนบทหนังรักดีๆ สักเรื่อง เพื่อส่งผ่านความงดงามนี้ให้ทุกคนได้สัมผัส ว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม มันมีอะไรมากกว่านั้น ในความรักมันมีความเอื้ออาทรต่อผู้คนในสังคม ไม่ใช่แค่การเพ้อฝันเพียงอย่างเดียว สำหรับผมมันเป็นหนังรักที่ยิ่งใหญ่มาก”

“แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะต้องการบรรยากาศที่โรแมนติก ไม่เร่งรีบอย่างปัจจุบัน และผมเชื่อว่ามันไม่ล้าสมัย แต่กลับยิ่งเชื่อเหลือเกินว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าถึงความรัก ความประทับใจ และมีความสุขไปกับมันอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะยุคไหน สมัยไหน ความศรัทธาในความรักยังคงมีอยู่ อยากให้เชื่อในรักแท้ และยิ่งยุคนี้ความรักของคนดูจะเปลี่ยนแปลงง่ายดายมากเหลือเกิน คำสัญญาดูจะไม่มีความหมาย และไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเก่า การผิดสัญญาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมดนี้มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่า ผมยิ่งต้องทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา”

"พอได้ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็ยิ่งรู้สึกโชคดี เหมือนได้พรเพิ่มขึ้นมาอีกหลายข้อ เพราะผมได้ผู้อำนวยการผลิต คือพี่ณภัทร ที่ให้ทั้งคำปรึกษาและกำลังใจมาตลอด ผมได้ทีมงานที่ทำงานอย่างทุ่มเทเหลือเกิน และผมได้นักแสดงที่ตั้งใจกับหนังเรื่องนี้มาก ทุกคนทำการบ้านมาอย่างดี เต็มที่กันจริงๆ ยิ่งเล่นยิ่งใช่ นี่แหละ “แสงจันทร์” “รวี” และ “ลิ้ม” ตัวจริงเสียงจริงของผม”

 

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.