บริษัทผู้สร้าง
กันตนา แอนนิเมชั่น สตูดิโอ
กันตนา แอนนิเมชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 โดยร่วมงานกับค่ายแอนนิเมชั่นยักษ์ใหญ่แห่งประเทศญี่ปุ่น ผลิตผลงานมากมายที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ต่อมา กันตนา แอนนิเมชั่น ได้นำ 3D แอนนิเมชั่นเข้าสู่วงการโฆษณาและภาพยนตร์เข้ามาใช้จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในฐานะผู้สร้างงานคอมพิวเตอร์กราฟิกชั้นนำของไทย หลังจากนั้น กันตนา แอนนิเมชั่น มีโครงการสร้างภาพยนตร์แอนนิเมชั่นของตนเอง ก้านกล้วย โดยระหว่างนั้นได้นำร่องด้วยแอนนิเมชั่นซีรีส์ชุด ซน 100% เมื่อ ก้านกล้วย เสร็จสมบูรณ์และออกฉายในปี 2549 ก็เป็นผลงานที่จุดกระแสความนิยมของแอนนิเมชั่นไทย ด้วยความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งจากรายได้และรางวัลในระดับประเทศและนานาชาติ จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ จึงได้มีการสร้างแอนนิเมชั่นซีรีส์ชุด ก้านกล้วยผจญภัย ออกมาแทนความคิดถึงตามเสียงเรียกร้อง มีนาคม 2552 นี้ ก้านกล้วย จะกลับมาสานต่อเรื่องราวของช้างผู้กล้าหาญที่เคยสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย มาคราวนี้จะยิ่งใหญ่อลังการ สนุกสนานและประทับใจยิ่งกว่า
การกลับมาที่อลังการยิ่งกว่า
จากประสบการณ์ในการสร้าง ก้านกล้วย ภาคแรก ก่อให้เกิดความฝันที่จะทำภาคสองให้ลงตัว ในทุกรายละเอียดของงานสร้างและเปี่ยมด้วยสีสันแห่งจินตนาการยิ่งขึ้น ในส่วนของการออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายทีมงานได้เดินทางไปยังสหภาพเมียนมาร์ เพื่อชมพระราชวัง โบราณสถานต่างๆ ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ นำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยจินตนาการเพิ่มเติมไปถึงสมัยเมื่อที่นี่ยังเจริญรุ่งเรือง ส่วนหนึ่งเป็นการออกแบบจากของจริง ปรุงแต่งด้วยจินตนาการ เพื่อให้ได้ภาพที่ตื่นตาตื่นใจ และดูมหัศจรรย์ที่สุด
จากประวัติศาสตร์ สู่การผจญภัย...ครั้งใหม่
ชัยชนะจากสงครามยุทธหัตถี ก้านกล้วยได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าพระยาปราบหงสาวดี เป็นช้างทรงที่พระนเรศวรทรงใช้ในการศึกสงครามทุกครั้ง รวมถึงสงครามครั้งใหม่ของกรุงหงสาวดี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า...
แต่...ก่อนที่การเริ่มทัพจะเริ่มขึ้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน.... ทหารหงสาบุกมาจับชาวบ้านอยุธยาไปเป็นเชลย และได้นำชบาแก้วและลูกแฝดของก้านกล้วยไปด้วย ก้านกล้วย ไม่มีหนทางอื่น นอกจากต้องแอบหลบหนีจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อช่วยลูกเมียกลับมาให้เร็วที่สุด ครั้งนี้เขาต้องต่อสู้เพียงลำพังบนดินแดนของศัตรู ต้องเผชิญหน้ากับช้างศึกที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง...งานิล พร้อมด้วย อองสา มหาอำมาตย์จอมเวทย์มนตร์ นี่คือ...ภารกิจที่ใหญ่หลวง ยิ่งกว่าครั้งใด
เทคโนโลยีรองรับทุกจินตนาการ
ด้วยเรื่องราวที่มีความเป็นแฟนตาซีมากขึ้น และมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นมากมาย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีเทคโนโลยีที่ถึงพร้อมเพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพ โดยใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ในภาคนี้ จึงมีการลงทุนมหาศาลกับระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยในระดับสากล กับงานสร้าง ก้านกล้วย ๒ ยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการใช้โปรแกรม Massive (ซอฟต์แวร์ระดับฮอลลีวู้ด) อย่างสมบูรณ์แบบ ในฉากซึ่งต้องการภาพตัวละครกลุ่มใหญ่ตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน จนถึงหลักหมื่น เป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยช็อต นี่เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้ามารองรับให้ทุกจินตนาการกลายเป็นความจริง
อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ ควบคุมการผลิต
ก้านกล้วยภาคแรกถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตก้านกล้วย แต่ก้านกล้วย ๒ เราต้องการให้เห็นว่าชีวิตของก้านกล้วยต่อจากนั้นเป็นอย่างไร เปรียบเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว ชีวิตของเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาต่างๆ เข้ามารุมล้อม อย่างเรื่องปัญหาของครอบครัว
ภาคแรกถือเป็นแค่บทพิสูจน์ว่าเราทำได้ แต่ภาคสองต้องบอกว่าท้าทายยิ่งกว่า เพราะไม่แค่ทำได้แล้ว แต่ต้องให้เห็นว่าเราทำได้แค่ไหนด้วย สำหรับภาคนี้เรา พาวเวอร์ อัพ ขึ้นไปอีก
ภาคแรกต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่าง เทคโนโลยีเอย ทีมงานเอย แต่ภาคนี้เรามีการวางแผนที่ดีขึ้นวางสายงานการผลิตให้เป็นระบบมากขึ้น แถมฝีมือน้องๆ ก็เก่งขึ้น อย่างเวลาทำงาน ผู้กำกับฯ แทบไม่ต้องขอ แค่มองตา ทีมงานก็รู้แล้วว่าอยากได้อะไร และก็พร้อมทำให้ทันที เพื่อให้ก้านกล้วย ๒ นี้ สมบูรณ์แบบมากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ทวีลาภ ศรีวุฒิวงศ์ ผู้กำกับภาพยนตร์
ก้านกล้วย ๒ เป็นหนังที่มีครบทุกรสชาติ ตลก แอ๊คชั่น แฟนตาซี ดราม่า เรียกได้ว่า ดูได้ทั้งครอบครัวจริงๆ ในส่วนของผู้ใหญ่ เราจะสะท้อนว่าการทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ได้นั้น ต้องมีครอบครัวคอยสนับสนุน และเมื่อเวลาทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ในส่วนของเด็กก็จะสื่อง่ายๆ ว่า แม้จะมีความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ และแนวคิดอย่างไร ทุกคนก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้
จุดเด่นอีกข้อ เป็นในแง่ของฉากที่ยิ่งใหญ่ตระการตากว่าภาคที่แล้ว อย่างฉากเมืองหงสาวดี ที่ก่อนลงมือทำเราได้นำทีมงานไปรีเสิร์ช ที่ต้นกำเนินของเรื่องราวหนึ่งสัปดาห์เต็ม เพื่อเอามาปรุงแต่งให้วิจิตรในแบบที่ไม่มีใครเคยนึกถึงมาก่อน โจทย์ก็คือต้องทำให้ดีกว่าภาคแรก ทีมงานทุกคนจึงต้องปล่อยพลังกันเต็มที่
ก้านกล้วย-ชบาแก้ว
อรรถพร ธีมากร ก้านกล้วย แอน ทองประสม ชบาแก้ว
การกลับมาของตัวละครที่ทุกคนประทับใจ โดยเฉพาะก้านกล้วย และ ชบาแก้ว ในภาคนี้ทั้งสองตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่ด้วยภาระหน้าที่ในฐานะทหาร ทำให้ก้านกล้วยไม่อาจให้เวลากับชบาแก้วได้เต็มที่ ชบาแก้วเก็บความน้อยใจไว้ จนกระทั่งรู้ว่าจะมีลูก เธอพยายามบอกข่าวดีแก่เขา แต่เขายังคงยุ่งอยู่กับงาน สุดท้าย ความอดทนก็มาถึงขีดสุด ชบาแก้วเดินทางไปคลอดลูกที่หมู่บ้านหินขาวเพียงลำพัง และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวครั้งใหม่ ที่ก้านกล้วยในฐานะช้างคู่พระบารมีต้องตัดสินใจทำบางอย่าง ซึ่งผิดต่อหน้าที่ชายชาติทหาร เพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก
ต้นอ้อ กอแก้ว ลูกช้างแฝด
ผู้เป็นแก้วตาดวงใจของก้านกล้วยกับชบาแก้ว ทั้งคู่ถูกกวาดต้อนไปหงสาวดีพร้อมกับชาวอยุธยา และถูกนำตัวเข้าพิธีบูชาสวรรค์ ซึ่งเป็นพิธีเซ่นสรวงทวยเทพ และวิญญาณบรรพบุรุษ โดยการเผาบูชาด้วยลูกช้างแฝดฝ่ายศัตรูซึ่งก็คือลูกแฝดทั้งสองของก้านกล้วยนั่นเอง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทัพหงสาวดี ก้านกล้วยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูก ในเวลาจำกัด
กลุ่มช้างเด็กสุดแสบ
ช้างเด็กลุ่มใหม่ที่เข้ามาเสริมความสนุกสนานสดใสและมุกตลกแบบไม่มีลิมิต ประกอบไปด้วย ดุ๊ยดุ่ย ขาลุยสุดซ่า ท้าทายทุกที่ ส้มจี๊ด สาวน้อยหวานแหวว แก่นแก้วแสนซน ใบบอน จอมโวยวาย ว่องไวไปทุกเรื่อง ข้าวเม่า เจ้าเบิ้มสุดเฟอะ เลอะเทอะถึงใจ และ กอไผ่ ลูกช้างหงสา หัวใจอยุธยา พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในกรุงหงสาวดีซึ่งมีอันตรายรอบด้าน นี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงคุณค่าของคำว่า เพื่อน มิตรภาพ และ ความสามัคคี
กลุ่มนักแสดงเด็กมากฝีมือแห่งยุค ไม่ว่าจะเป็น น้องเก็ต รับบทเป็น ดุ๊ยดุ่ย น้องพี ม๊กจ๊ก รับบทเป็น กอไผ่ น้องจุนจุน รับบทเป็น ใบบอน น้องสปาย รับบทเป็น ส้มจี๊ด น้องซัน รับบทเป็น ข้าวเม่า เด็กๆ เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่สร้างชีวิตและใส่สีสันที่สนุกสนานให้กับบรรดาลูกช้างจนทุกคนต้องหลงรักพวกเขา
จิ๊ดริด
วรุฒ วรธรรม จิ๊ดริด นัฎฐา ลอยด์ แสงดา
นกพิราบสื่อสารแห่งกองทัพกรุงศรีอยุธยา คู่หูตัวป่วนของก้านกล้วย ในภาคนี้ยังคงเอกลักษณ์ของการเป็นนกช่างจ้อ ตลก ติงต๊อง และชอบโวยวาย เขาใกล้ชิดกับก้านกล้วยมาตั้งแต่เด็กและถึงแม้ก้านกล้วยจะโตเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัวของตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่เลิกทำตัวเป็นพี่เลี้ยง ที่คอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือก้านกล้วยในทุกๆเรื่อง
งานิล
ช้างขุนศึกแห่งกรุงหงสาวดี ผู้สืบสายเลือดมาจากงวงแดงหรือพลายพัธกอในภาคที่แล้ว มีลักษณะโดดเด่นที่ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสัน เป็นเสมือนอาวุธสงครามที่ร้ายแรงที่สุด นอกจากพละกำลังอันมหาศาลแล้ว งานิลยังมีพลังพิเศษจากอาคมและอักขระโบราณที่สักไว้ ในยามปกติ อักขระเหล่านั้นจะซ่อนอยู่ แต่เมื่อใดที่โกรธจัด มันจะแดงวาบขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
|
|
|
พระสุพรรณกัลยา ให้เสียงโดย อภิรดี ทศพร
พระพี่นางในสมเด็จพระนเรศวร ผู้ทรงสละพระองค์เป็นตัวประกันของหงสาวดีแลกเปลี่ยนให้พระนเรศวรเสด็จกลับสู่กรุงศรีอยุธยา จนสามารถกอบกู้เอกราชคืนจากหงสาวดีได้สำเร็จ หลังจากถวายตัวให้แก่พระเจ้าหงสาวดีและทรงให้กำเนิดพระโอรส พระองค์ก็ประทับอยู่ที่นั่นตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงกระทำวีรกรรมอันยิ่งใหญ่เท่าที่สตรีผู้หนึ่งจะกระทำให้แก่แผ่นดินเพราะเหตุนี้เองพระองค์จึงทรงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในวีรสตรี ที่คนไทยไม่อาจลืมเลือน |
|
|
|
พระเจ้าหงสาวดี ให้เสียงโดย นนทรีย์ นิมิบุตร
พระบิดาของพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดี ผู้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นซึ่งโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไปในสงครามยุทธหัตถี ความเกลียดชังที่มีต่อกรุงศรีอยุธยา ทำให้พระองค์รับสั่งให้จัดเตรียมทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาล ด้วยหวังที่จะยกกองทัพไปบดขยี้กรุงศรีอยุธยาให้หายแค้นในวันข้างหน้า |
อองสา ให้เสียงโดย มนตรี เจนอักษร
มหาอำมาตย์แห่งหงสาวดี ผู้มีจิตใจเต็มไปด้วยความชั่วร้าย นอกจากจะเป็นผู้กุมกำลังทางทหารของหงสาวดี และผู้สร้าง งานิล ให้เป็นอาวุธร้ายแรงที่สุดแล้ว อองสายังเป็นเจ้าแห่งคาถาอาคม มีเวทย์มนตร์ปลุกภูตผีวิญญาณและมีควันพิเศษ ี่ใช้ควบคุมทั้งคนและสัตว์เขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดใน ก้านกล้วย ๒
สามทหารเสือ
สามทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจพิเศษ ในการนำพระสุพรรณกัลยาออกจากกรุงหงสาวดีให้ทันก่อนที่ทัพอยุธยาจะเคลื่อนไปถึง ทั้งสามเป็นยอดนักรบ มีทั้งชั้นเชิงการต่อสู้ที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยพละกำลัง สติปัญญา และความกล้าหาญที่ผ่านมา ไม่เคยทำภารกิจใดผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
LINK : ภาพสวย ๆ งานเปิดตัว ดารามาพร้อมกันเพียบ |