ฉายที่ SF World Cinema วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นไป

ผู้กำกับ: ชิระ วิชัยสุทธิกุล (ชาช วัชรนวิน)
ผู้อำนวยการผลิต: บรรพต วุฑฒิปรีชา
ความยาว: 95 นาที
รูปแบบ: HD, color, stereo
ประเภท: สารคดี
ภาษา: ไทย (subtitle ภาษาอังกฤษ)

"ลุมพินี" หนึ่งใน 24 โปรเจ็คที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเทศกาลหนังสารคดีที่เนเธอร์แลนด (์เมื่อสองปีก่อน เป็นหนึ่งใน 67 สารคดีที่ผ่านการคัดเลือกจากโปรเจคหนังทั้งสิ้น 220 เรื่อง "ลุมพินี" ได้รับทุนสนับสนุนด้าน Production & Postproduction   

การเดินทางในต่างแดน

- เทศกาลหนังสารคดีอัมสเตอดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 17 - 28 พฤศจิกายน 2553 เป็นเทศกาลที่ให้ทุนมา ฉายโชว์ถึง4 รอบ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน
-- เข้าประกวดในสายสารคดี Humanitarian Awards for Documentaries ที่เทศกาลหนังฮ่องกง 2554
-- เข้าประกวดที่เทศกาลหนังซินดี้ เกาหลีใต้ 2554
-- ฉายที่เทศกาลหนัง DMZ เกาหลีใต้ 2554
- ได้รับรางวัลจูรี ไพรซ์ ประเภทสารคดีจากเทศกาลหนังเอเชียที่โรม อิตาลี (รายชื่อหนังเข้าประกวด

Gino Battaglia, Bruno Roberti, Italy
Oi Nymfes Tou Hindu Kush, Anneta Papathanassiou, Greece
ZAI YIQI , Zhao Liang, China
Lao Tangtou, Xu Tong, China
Khusel Shunal, Byamba Sakhya, China
Inshallah, Football, Ashvin Kumar, India
Summer Pasture, Lynn True, USA, China, Tibet
Prison and Paradise, Daniel Rudi Haryanto, Indonesia
Qu Dahai De Lushang, Tao Gu, China
Lumpini, Chira Wichaisuthikul, Thailand

เรื่องย่อ

มวยไทยเหมือนเหรีญสองด้าน คือความรุนแรงในสังคมมืดหรือความงดงามทางศิลปะ ชีวิตเด็ก
กลุ่มหนึ่งได้เข้ามาสัมผัสมวยไทยด้วยความลุ่มหลง ทะเยอทะยาน และจินตนาการบริสุทธิ์
ภายในจิตวิญญาณที่เงียบสงัดของพวกเขา

เรื่องราวยอดมวยไทยได้เริ่มต้นขึ้น ณ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ถิ่นกำเนิดของพุฒ ล้อเหล็ก ยอดมวยไทย ผู้เป็นตำนานตลอดกาลของคนไทย สูศักดิ์อดีตนักมวยเพื่อนร่วมรุ่นกับพุฒ ล้อเหล็ก ภายหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการชกมวย เขาจึงหาสิ่งทดแทนให้กับตนเองโดยตั้งค่ายมวยชื่อ “ศักดิ์นิรันดิ์รัตน์” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ช.ณ.พัทลุง” ซึ่งเป็นชื่อสกุลของภรรยาเขา

ค่ายมวยเล็กๆซึ่งอยู่ท่ามกลางสวนยางพารา ณ บ้านเกิดของเขาสูศักดิ์ตั้งความหวังที่จะสร้างยอดมวยไทยจากบ้านนอก เพื่อวันหนึ่งนักมวยของเขาจะได้มีโอกาสไต่อันดับขึ้นชกกับนักมวยจากค่ายใหญ่ๆในกรุงเทพฯ และความฝันอันยิ่งใหญ่คือเข็มขัดแชมป์เปี้ยนมวยไทย ณ เวทีลุมพินี ซึ่งนักมวยบ้านนอกของสูศักดิ์จะมีใครสักเกี่คนที่จะไปถึงจุดหมายนั้น

สูศักดิ์ต้องแบกภาระอย่างหนักกับการต้องเลี้ยงดูเด็กๆที่ทยอยเข้าสู่ค่ายศักดิ์นิรันดิ์รัตน์ เด็กบางคนถูกพ่อแม่นำมาฝากให้เรียนมวย เพราะสุดจะทนกับความเกเรของลูกชาย เด็กบางคนมาเพราะใจรัก บางคนเป็นเด็กเร่ร่อนฐานยากจน ติดยา ต้องคดีลักเล็กโขมยน้อย ชีวิตไร้จุดหมาย เขามาหาสูศักดิ์เพียงเพื่อหาที่พักพิง หรือบางคนมองมวยไทยเพียงแค่ทางเลือกสุดท้าย

พวกเขาถูกโชคชะตาพัดพาให้มาใช้ชีวิตร่วมกัน เกิดเป็นสังคมเล็กๆที่มีทั้งมิตรภาพและความขัดแย้ง โดยมีสูศักดิ์เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ ที่ค่ายมวยแห่งนี้จึงไม่ต่างอะไรกับโรงเรียนดัดสันดาน หรือสถานบำบัดทางจิต โดยมีความเข้มงวดและความเมตตาที่มีต่อเด็กๆของสูศักดิ์ เขาจึงเป็นเสมือนพ่อบุญธรรมของเด็กๆทุกคน

การเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักมวยของเด็กๆไม่เป็นเพียงชีวิตที่เกิดใหม่ แต่พวกเขาได้มองเห็นความหวัง การชกมวยได้นำพวกเขาสู่ความฝัน ในความฝันของแต่ละคนแม้จะดูเล็กน้อยและไร้เดียงสาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันยิ่งใหญ่เกินพอสำหรับชีวิตเล็กๆที่เริ่มต้นมาจากความว่างเปล่า

เส้นทางเทศกาล

DIRECTOR?S STATEMENT

"มวยไทยไม่เป็นเพียงกีฬาประจำชาติไทยเท่านั้น แม่มวยไทยคือชีวิตของคนไทย ไม่ว่าโลกก้าวเข้าสู่ทศวรรษใดก็ตามมวยไทยยังคงรักษาไว้ซึ่งแนวคิด แนวปฏิบัติแบบไทยแท้ดั้งเดิม
มวยไทยสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมอันดีงามเป็นเสมือนรากเหง้าของชาติกำเนิดและภูมิปัญญาแห่งความเป็นไทย

"บนเส้นทางการเป็นนักมวยของแต่ละคน รวมไปถึงจุดหมายปลายทางของชีวิต มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว เรื่องราวชีวิตเล็กๆของพวกเขาเป็นภาพสะท้อนแง่มุมความขัดแย้งต่างๆของสังคมและอาจจะเป็นภาพขยายให้เห็นคุณค่าและการตีความหมายสำหรับคำว่า “ยอดมวยไทย” ซึ่งมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ถูกละเลยโดยคนไทยเอง เป็นการตั้งคำถามให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่กับวงการมวยไทยก็ตาม

"สารคดีเรื่องนี้ทำขึ้นเพื่อคนไทยทุกคนและต้องการเพียงให้เด็กไทยที่กำลังเติบโตขึ้นมาได้มองเห็นคุณค่าและมีความภาคภูมิใจกับสมบัติอันล้ำค่าที่พวกเขาทุกคนเป็นเจ้าของ

ประวัติผู้กำกับ

ปริญญาตรี คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
2527 รางวัลพิเศษ ประกวดการ์ตูน จากประเทศ เชค
2528 รางวัลที่ 2 International Biennial Print Exhibit: 1985 R.O.C.ทุนกรมพระขานริศรานุวัติวงศ์
2529 เหรียญเงิน งานสิ่งพิมพ ์ นิทรรศการ ศิลป์ พีระศรี

ชิระเริ่มต้นทำงานด้วยอาชีพช่างภาพแฟชั่น รวมถึงงานกำกับมิวสิควีดีโอ จากประสปการณ์ในการทำงานกว่า 10 ปี ในปี 2543 เขาได้จัดทำ
นิทรรศการภาถ่ายชื่อ Photography ขึ้น โดยนำเสนอภาพ Portrait วัยรุ่นหลากหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้ให้เห็นชีวิต และความเป็นไปของพวกเจาที่กำลังเติบโตอยู่ในสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ปี2545 ชิระจัดฝึกอบรม (workshop) การถ่ายภาพ Portrait แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจการถ่ายภาพ

ปี2549 ชิระสนใจวิถีชิวิตวัยรุ่นในชนบทของประเทศไทยที่ต้องเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยภารกิจสำคัญของพวกเขาคือการชกมวย ชิระถ่ายภาพ Portrait การางานแบบวัยรุ่น นักดนตรี และกลุ่มคนซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนแห่งวัฒนธรรมป๊อป (pop culture) ผู้มีอิทธิพลต่อค่านิยมของวัยรุ่น แสดงสลับกับภาพ Portrait นักมวยเพื่อเปรียบเทียบความขัดแย้งทางวัฒนธรรมในสังคมไทย และทิ้งคำถามต่อสาธารณะว่าใครคือ Idol ตัวจริง ภายในนิทรรศการชื่อ Private Mix

ปี2550 ชิระต้องการต่อยอดความคิดจากโครงงาน Private Mix โดยเจาะลึกเรื่องราวชิวิตนักมวบเด็กในชนบท เพื่อค้นหาเหตุผลที่แท้จริงของพวกเขาบนเส้นทางของกีฬา ที่ต้องใช้ความรุนแรงและอันตราย ชิระจึงเริ่มโครงงานภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "ลุมพินี" ขึ้น เพื่อเปิดเผยเรื่องราวในอีกด้านที่น้อยคนจะได้รับรู้ความจริง รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทย ถึงความถูกต้องในด้านสิทธิมนุษยชน

บรรพต วุฑฒิปรีชา
การศึกษา: ปริญญาโท M.Ed. Visual Communication Technology, Bowline Green State University, Ohio, USA.
การทำงาน:
2545 ถึงปัจจุบัน อาจารย์พิเศษคณะนิเทศศาสตร์
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2546 อำนวยการผลิต รายการโทรทัศน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทในเครือนอร์ธสตาร์จำกัด

2548 Studio Director กล่องศิลปะใจเขา บริษัท ใจเขา จำกัด อำนวยการผลิต ภาพยนตร์อิสระ