สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

Ghost of Valentine กระสือวาเลนไทน์

  สารบัญหน้านี้ เครดิต เรื่องย่อ มุมมองผู้กำกับ
  LINK : แปลงร่าง กระสือ คาแรกเตอร์นักแสดง
   
 

สิบสี่กุมภาพันธ์ สองพันสี่ร้อยแปดสิบสี่ 
วันแสนดี วันที่รัก ปักใจสอง 
หวังให้เธอ เคียงอยู่ เป็นคู่ครอง 
ไม่หวังปอง สิ่งอื่นใด ในโลกา 
แต่ชะตา นั้นกลั่นแกล้ง ไม่เข้าข้าง 
จำต้องห่าง ร้างไกล ให้โหยหา 
ขอจงรอ รอพี่หน่อย นะแก้วตา 
รอพี่มา กลับใกล้ชิด นิจ...นิรันดร์
ในยุคสมัยที่ “ มนุษย์” เมินเรื่อง “ นรก-สวรรค์”
ไม่สนใจใน “ กฏแห่งกรรม”
ไม่ศรัทธา “ การทำความดี”
ไม่ใยดีในเรื่อง “ ความรัก”
และไม่ปักใจเชื่อว่า “ กระสือ” จะมีจริง
ผู้กำกับ “ ยุทธเลิศ สิปปภาค” จะยำแกนเรื่องทั้งหมด
มาให้ได้สัมผัสกันแบบ “ ดราม่า” จริงจัง
แต่ไม่เจือจางอารมณ์ “ ขันพองสยองเกล้า”
ที่จะทำให้คุณต้องกลับไปทบทวนคำตอบของ
“Do You Believe in Destiny?”
กันใหม่อีกหลายตลบ
 ผ่านการแสดงหนังใหญ่ครั้งแรกของนักแสดงหญิงรุ่นใหม่ “ พลอย จินดาโชติ” และนักแสดงชายเจ้าบทบาท “ เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” กับการถ่ายทอดความรักของพยาบาลสาวและภารโรงหนุ่ม
ท่ามกลางบรรยากาศโรงพยาบาลเก่าแก่
ที่มีเสียงร่ำลือหนาหูถึง “ กระสือสาว” นางหนึ่ง...อยู่บ่อยครั้ง  
ในภาพยนตร์ดราม่า-สยองขวัญวันแห่งความรัก

“ กระสือ วาเลนไทน์”  

9 กุมภาพันธ์ 2549

แล้วคุณจะซึ้งจนขนหัวลุก

 

แนวภาพยนตร์ ดราม่า-สยองขวัญ

กำหนดการฉาย 9 ก.พ. 2549

สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

ดำเนินงานสร้าง มหาการภาพยนตร์

อำนวยการสร้างบริหาร สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ

ควบคุมงานสร้าง เอมอร ชนะภัย

กำกับภาพยนตร์ ยุทธเลิศ สิปปภาค

บทภาพยนตร์ ยุทธเลิศ สิปปภาค

กำกับภาพ สมคิด พุกพงษ์

ลำดับภาพ ธวัช ศิริพงษ์

ออกแบบงานสร้าง ศรายุทธ์ พุ่มเพรา

กำกับศิลป์ คชา เรืองทอง

ออกแบบเสื้อผ้า รัศมิมาน สามะพุทธิ

แต่งหน้า-ทำผม ธนาวุฒิ บู่สามสาย

ภาพนิ่ง กันต์ สุสังกรกาญจน์

นำแสดงโดย ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์, พลอย จินดาโชติ, โกวิท วัฒนกุล,

วิยะดา อุมารินทร์, ด.ญ. อดิญา วัฒนชัยมงคล, ณรงค์ รตาภรณ์ (โกร่ง กางเกงแดง), อนันต์ แต่งผล (โพธิ์ทอง), สมัคร ผลประเสริฐ (ยอด นครนายก)

 

เรื่องย่อ

           ณ โรงพยาบาลเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ...มีเรื่องราวความรักถือกำเนิดขึ้น

           พยาบาล “ สาว” (พลอย จินดาโชติ) แสนสวยบุคลิกดีซึ่งถึงแม้ว่าเธอเพิ่งจะย้ายมาประจำการ ณ โรงพยาบาลแห่งนั้นได้ไม่นานนัก แต่เธอก็เป็นที่รักใคร่ชอบพอของเพื่อนร่วมงานทุกคนในโรงพยาบาล ไม่เว้นแม้แต่ภารโรง “ หนุ่ม”(เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) คนซื่อที่ถูกชะตากับพยาบาลสาวตั้งแต่แรกเห็นในวันวาเลนไทน์ของปี 2549 นี้ด้วย

           “ดอกกุหลาบ” ดอกแรกที่สาวได้รับจากภารโรงหนุ่มโดยบังเอิญในวันแห่งความรักนั้น นำไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดและความผูกพันกันอย่างคาดไม่ถึง

           หรือพรหมลิขิตที่สาวเชื่อมั่นอยู่เสมอจะชักพาให้เธอพบกับความรักครั้งใหม่ หลังจากที่ถูกหักอกกับรักครั้งเก่า จนต้องพกพาความบอบช้ำย้ายเข้ามาทำงาน ณ โรงพยาบาลแห่งนี้...ที่ความรักกำลังดำเนินไป

           ก่อนหน้านี้สาวมักจะมีอาการประหลาดที่ต้องตื่นขึ้นมาอาเจียนในทุก ๆ เช้า และทุกครั้งสิ่งที่เธออาเจียนออกมานั้นดูไม่แตกต่างจากรกเด็กที่เธอเคยเห็นในห้องคลอดเลยสักนิด รวมทั้งเธอยังมีอาการเห็นภาพซ้อน แวบเข้ามาในสมองอย่างไม่มีที่มาที่ไป และภาพที่เห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพของโรงพยาบาลแห่งเดียวกันนี้ในยุคสงครามเมื่อกว่าหกสิบปีที่ผ่านมา

           เท่านั้นไม่พอ สาวยังได้พบกับ “ ภาพถ่ายเก่า ๆ ใบหนึ่ง” ในกล่องเหล็กซึ่งถูกวางอยู่ในห้องพักของเธอมาเนิ่นนาน ในภาพนั้นเป็นภาพของหนุ่มในชุดทหารสมัยสงครามถ่ายคู่กับเธอในชุดพยาบาลในยุคเดียวกัน และด้านหลังภาพถ่ายเป็นลายมือของหนุ่มที่เขียนถึงเธอ

           จากข้อความบางอย่าง มันได้บ่งบอกว่า ในชาติที่แล้วทั้งสองคนนี้คือคู่รักกัน

           แต่ยังไม่ทันที่สาวจะนำภาพถ่ายใบนั้นไปให้หนุ่มคลายความเคลือบแคลงสงสัยของเธอลง อุบัติเหตุหนึ่งกลับทำให้หนุ่มกลายเป็นอัมพาต และไม่สามารถสื่อสารใด ๆ ได้นอกจากแค่การกะพริบตา

           หรือเวรกรรมกำลังจะตามมาสนองคู่รักเมื่อชาติที่แล้วคู่นี้อย่างเท่าทัน

           ขณะเดียวกัน ในค่ำคืนแห่งความสับสน            สาวกลับค้นพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัวภายในร่างกายของเธออย่างยากที่เธอจะเชื่อได้ … มันคืออะไรกัน

           หรือเธอเองจะมีส่วนผูกโยงกับ “ กระสือสาว” ที่ถูกร่ำลือถึงบ่อย ๆ

           ณ โรงพยาบาลเก่าแก่แห่งนี้... เรื่องราวความรักกำลังจะจบลง

 

“ ยุทธเลิศ สิปปภาค วิพากษ์มุมมองความรักครั้งใหม่ใน “ กระสือวาเลนไทน์”
 

 

          "ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค” ผู้กำกับมาฝีมือคนหนึ่งของวงการหนังไทย มีความสนใจทางด้านศิลปะมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ หลังจากจบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เขาได้ก่อตั้งบริษัทรับออกแบบขึ้นด้วยตัวเอง ก่อนที่จะค้นพบว่า งานออกแบบภายในไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการที่จะทำจริง ๆ

          เขาจึงตัดสินใจมุ่งสู่เมืองนิวยอร์คเพื่อที่จะเรียนทางด้านภาพยนตร์โดยตรง แต่ด้วยปัจจัยด้านการเงินไม่เอื้ออำนวย ทำให้เขาเลือกลงเรียนทางด้านศิลปะแทน เพื่อที่จะหาประสบการณ์ชีวิตที่นิวยอร์คต่อได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาจะได้ใช้เวลาอยู่ที่ร้านหนังสือใหญ่อย่างบาร์นส์แอนด์โนเบิล ( Barnes and Noble) เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์จากการอ่านด้วยตัวเอง

          หลังจากจบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เขาตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อตามล่าความฝันของตน ความฝันที่จะเป็น “ ผู้กำกับภาพยนตร์”

          ไม่ต้องบอกก็คงรู้กันว่า เขาสามารถคว้าความฝันของเขามาครองได้สำเร็จหรือไม่

           “ พี่ไม่ค่อยมีเทคนิคในการกำกับการแสดงมากเท่าไหร่นัก พี่จะวางตนเองในลักษณะกำกับภาพยนตร์มากกว่า เพราะฉะนั้นนักแสดงส่วนใหญ่จะมีความสามารถมาเองโดยที่พี่ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องช่วยอะไร ส่วนใหญ่พี่จะบอกเค้าว่า พี่อยากได้อะไร นักแสดงควรจะพูดตอนไหนถึงตอนไหน การแสดงเป็นเรื่องของนักแสดงล้วน ๆ แต่เมื่อแสดงออกมาแล้ว พี่ถึงจะบอกหรือปรับเปลี่ยนการแสดง เช่น ถ้าเห็นว่ามากไปก็จะให้ปรับลงมานิดนึง ถ้าน้อยไปก็จะให้เพิ่มขึ้นหน่อย คือเทคนิคการทำงานของพี่ ส่วนใหญ่พี่จะทำงานกับคนที่อยากจะทำงานกับเรามากกว่า คือแฮปปี้ที่จะทำงานกับเรา สนุกที่จะทำงานร่วมกันเป็นอันดับแรก เพราะว่าระหว่างถ่ายทำ มันจะมีองค์ประกอบอะไรให้ปวดหัวให้วุ่นวาย เพราะงั้น “ ใจ ” ต้องมาก่อน ก็คือ พี่ถึงได้แบบว่าให้ใจกับนักแสดง และพี่ก็ได้ใจจากนักแสดงกลับมาโดยเต็มที่ ซึ่งไม่มีเทคนิคอะไรซับซ้อน เพียงแต่ว่าคุยกันดูว่าถูกโฉลกกันหรือเปล่าเท่านั้นเอง ”

          จากผลงานของเขาอย่าง มือปืน / โลก / พระ / จัน (2544), กุมภาพันธ์ (2546), บุปผาราตรี (2546), สายล่อฟ้า (2547) และ บุปผาราตรี เฟส 2 ( 2548 ) ล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทั้งทางด้านคำวิจารณ์และรายได้ รวมถึงเป็นการทำงานที่ค่อนข้างหลากเรื่องหลายแนวไม่ซ้ำแบบใคร

          ล่าสุด เขากลับมาอีกครั้งกับ “ กระสือวาเลนไทน์” หนังดราม่า-สยองขวัญที่ว่าด้วยความรักของกระสือสาวในรูปแบบที่จริงจังมากขึ้น และไม่มีทางที่ผู้ชมจะได้ยินเสียงหลอนของกระสือลอยละล่องมาให้ได้ยินว่า “Do You Believe in Destiny?” กันอย่างแน่นอน

          “ กระสือของพี่จะเป็นหนังกระสือเรื่องแรกที่จับต้องได้ จับต้องในความเป็นมนุษย์ได้มากกว่าการเป็นผี มันเหมือนคนที่ผิดแผกแตกต่างจากคนอื่นเท่านั้นเอง ระหว่างดูเนี่ย แทนที่จะดูผีกระสือ อาจจะต้องเห็นใจ คือปรกติคนจะต้องกลัวผีโผล่มาหลอก แต่กระสือเรื่องนี้คือ แบบเมื่อไหร่ผีกระสือจะออกมาเจอพระเอกซักทีอะไรประมาณนี้ ”

          “ คือความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นอารมณ์หนังมากกว่า มันไม่ใช่หนังที่ชวนติดตามในลักษณะว่า อยากจะเห็นนางเอกประสบความสมหวังในความรัก หรืออยากจะให้พระเอกกลับมารักกัน แต่อารมณ์ของหนังมันจะโดดเด่นดึงคนดูอยู่ด้วยความสงสัย ติดตามว่าเบื้องหลังมันจะจบลงยังไง มันจะเป็นยังไงต่อ คือการติดตามด้วยความอยากรู้มากกว่าการติดตามหนังรัก ที่แบบว่าเอาใจช่วยพระเอก หรือหนังเศร้าที่แบบว่า อย่านะ อย่างเป็นอย่างนั้น อย่าเป็นอย่างนี้นะ มันจะเป็นอารมณ์ชวนติดตามไปเรื่อย ๆ พอหนังจบก็จะเดินออกจากโรงแบบโล่ง รับรู้แล้วว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นแบบนี้ ”

          และหากสังเกตกันจากผลงานที่ผ่านมาของเขาแต่ละเรื่องแล้ว เขามักจะถ่ายทอดเรื่องราวในมุมมองของตัวละครหญิงที่เป็นฝ่ายถูกกระทำเป็นส่วนใหญ่

          “ ตัวละครผู้ชายเป็นตัวละครที่ไม่น่าสนใจ ผู้ชายนุ่มลึกเนี่ย พี่มองว่าเป็นสิ่งที่มันไม่ใช่ธรรทชาติของผู้ชาย ผู้ชายส่วนใหญ่ในความรู้สึกของพี่มันเป็นพวกหยาบกระด้างผิวเผิน แต่ผู้หญิงเนี่ยจะมีปฏิกิริยากับทุกอย่าง จะมีอารมณ์ร่วมกับทุกอย่างมากกว่าผู้ชาย ซึ่งอารมณ์ร่วมตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่น่าศึกษา หรือว่าเป็นสิ่งที่น่าจะขยาย หรือเป็นสิ่งที่น่าพูดถึงมากกว่า อารมณ์ของผู้ชายมันไม่มีอะไร พอพูดถึงความเป็นหนังชีวิตหนังดราม่า ความรู้สึกของผู้หญิงมันจะแรงมากกว่าของผู้ชาย อารมณ์ของผู้หญิงจะต่อเนื่องตั้งแต่เด็กจนโตจนแก่ จะคล้าย ๆ กันก็คือไม่เปลี่ยน ซึ่งเวลาขยายความรู้สึกของผู้หญิงมันจะขยายได้เยอะกว่าในแง่ของดราม่า ในแง่ของเรื่องราว หรือในแง่ของอารมณ์ ”

          ด้วยมุมมองที่แปลกและต่างจากผู้กำกับคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผลงานของยุทธเลิศมักจะชวนติดตามไปตั้งแต่ต้นจนจบในความมีเสน่ห์ที่คาดไม่ถึงที่หลอมอยู่ในผลงานของเขาทุกเรื่อง

          แน่นอน กับ “ กระสือวาเลนไทน์ ” ก็เช่นกัน เขายังคงถ่ายทอดมุมมองผ่านตัวละครหญิงที่เป็นพยาบาลสาวผู้ผิดหวังในความรัก และเดินทางมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะลบเลือนความผิดหวังในอดีต และเชื่อว่าพรหมลิขิตจะทำให้เธอค้นพบรักครั้งใหม่ แต่แล้วขณะเดียวกัน เธอกลับค้นพบความลับอันน่าสยองว่า แท้จริงแล้วเธอเป็น “ กระสือ ” แถมยังเป็นกระสือที่กำลังมีความรักอีกต่างหาก

          “ เสน่ห์ของมันก็คือ...เอ่อ...ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าเสน่ห์รึเปล่า มันน่าจะเรียกว่าลักษณะพิเศษของมัน มันเป็นหนังผีที่ดึงดูดความสนใจของคน คือเค้าเรียกเป็นหนังผีที่ทำให้คนอินกับมัน ไม่ได้ด้วยการเอาผีมาหลอก หรือทำให้ตกใจ แต่เป็นการทำให้คนอินกับตัวละครที่เป็นผี เข้าใจในความรู้สึกของผี ซึ่งเป็นผีที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคน มันคงแตกต่างจากหนังผีทั่วไปที่ออกมา หนังผีทั่วไปคือชั้นจะมาบีบคอ หรือทำให้ตกใจ หรือทำให้ใครตาย แต่หนังผีเรื่องนี้จะออกมาเพื่อทำให้คนเข้าใจคำว่ามนุษย์ ชีวิตมนุษย์ควรทำยังไง ปฏิบัติยังไง มันเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของคนเนี่ยแหละผ่านมุมมองของผี ซึ่งผีตัวนี้พี่บอกแล้ว มันไม่ใช่ผี มันคือคนนั่นแหละ แต่มันมีร่างกายเป็นผี จริง ๆ มันก็เป็นเรื่องของคนนั่นแหละ เผอิญคนมันไม่มีร่างกายเท่านั้นเอง ”

          ผ่านประสบการณ์การทำหนังมามากมายจนถึงเรื่องที่ 6 แล้วอย่างนี้ ผู้กำกับหนังฮิตที่ชอบหนังผีจำพวก “ ผีกัดอย่ากัดตอบ ” และหลงใหลได้ปลื้มไปกับหนังผีญี่ปุ่นสมัยเด็ก ๆ ที่เทคนิคน้อย แต่ได้อารมณ์ของหนังผีมากคนนี้ วางแนวทางการกำกับหนังของเขาเองไปในทิศทางใดกันแน่

          “ ทำหนังรักพี่ก็ชอบในอารมณ์ของมัน อารมณ์โรแมนติก อารมณ์ดราม่า พี่ก็ชอบความจริงจัง ชอบพลังของมัน ทำหนังตลกพี่ก็สนุก เวลาถ่ายหนังสนุก ทำอะไรก็สนุก มันจะคนละมู้ดอ่ะ แต่ถามว่าพี่ชอบแบบไหน คือพี่เป็นคนสนุก แต่ไม่เคยทำแบบตั้งใจสนุกซักที ตอนนี้อยู่ในช่วงทำงานที่ตนเองสนใจ คิดว่ามันน่าสนใจ ถ้าถามความถนัด ก็ทำมาเกือบหมดแล้วก็ถือว่าทำได้ทุกทาง แต่ถ้าถามความชอบแล้วเนี่ย อยากลองทำหนังไซไฟ แต่มันอาจจะไม่สนุก แต่ปีหน้าจะมีหนังเรื่องนึง ซึ่งตัวเองสนุกมากที่จะทำ คือคิดแล้วสนุก มันเป็นหนังสนุก เป็นหนังตลก ”

 

   
 

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.