สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

คำให้การของเด็กหอ และครูปราณีเปิดเผยความหลัง

  LINK: หน้าแรก เด็กหอ
   
 

เด็กชายชาตรี

“ผมถูกบังคับให้มาอยู่หอ มาเป็นเด็กหอ เพราะพ่อไม่รักผม
ดีที่มีเพื่อนคอยสอนผม ช่วยผม และผมก็รักเพื่อนคนนี้มาก ”

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด กรุงเทพฯ
บุคลิก เหม่อ ซึม เศร้า ชอบอยู่คนเดียว พูดคนเดียว
รูปร่าง/ลักษณะ ผอม เพรียว สันทัด ดวงตาเหมือนซ่อนอะไรไว้ภายใน
วิชาถนัด วิทยาศาสตร์
อาหารโปรด ไข่เจียว
ฮีโร่ พี่หนุ่ย ไมโคร

เด็กหอชาตรี รับบทโดย ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค)
เกิด : 19 ม.ค 2536
อายุ : 13 ปี
สูง : 148 ซม.
น้ำหนัก : 38 กก.
ผลงาน : ภาพยนตร์แฟนฉัน,ละครครูไหวใจร้าย,โฆษณาลูกอมคูก้า
ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี เพราะชอบอยู่บ้านมากกว่า

ครูใหญ่ย้งเคยบอกผมว่า คาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้นั้น เป็นคาแร็คเตอร์ที่หายาก คือต้องการเห็นเด็กที่ถ้าเราเอากล้องไปจับที่หน้าและให้ยืนนิ่งๆ แล้วถ้าสามารถเห็นความรู้สึกหรือความคิดอะไรบางอย่างได้ นั่นคือตัวละครตัวนี้ คือต้องดูแล้วเป็นเด็กที่คิดมาก เป็นเด็กที่เงียบๆ พูดไม่เยอะ แต่เด็กแบบนี้หายาก ซึ่งครูใหญ่ย้งบอกว่าผมเป็นอย่างนั้น ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นเด็กที่คิดมาก แต่ภาพของผมมันสามารถสื่อออกมาในตรงนั้นได้ และยังบอกด้วยว่า ผมเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีไว้แล้วในใจ ด้วยเพราะผมมีคาแร็คเตอร์ที่เหมือนกับบทนี้ ครูใหญ่ย้งยังบอกอีกว่า ผมใกล้เคียงบทนี้มากกว่าใกล้เคียงเจี๊ยบในแฟนฉันอีก

จะว่าไปครูใหญ่ย้งเป็นคนที่เข้าใจผมที่สุด เพราะไม่ว่าผมจะงอแง ขี้บ่นตลอดเวลาแค่ไหน ครูใหญ่ย้งก็จะไม่สนใจผม ปล่อยให้ผมบ่นของผมไป และพอจะให้ผมทำอะไรก็จะมาบอกมาพูดกับผมดีๆ ซึ่งผมก็จะเต็มใจทำอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาของผมมันดันมีอยู่ว่า ผมไม่ค่อยมีสมาธิ เมื่อไหร่ที่ผมไม่มีสมาธิ เมื่อนั้นครูใหญ่ย้งก็จะใช้ไม้แข็งกับผม คือจะเข้ามากดดัน ประชดผม ว่าผม ตบหัวผม และไม่รู้ทำไมผมไม่โกรธ แถมยังได้ผลทุกครั้งไป ถ้าพูดไปครูใหญ่ย้งก็เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผมที่สุด พอๆกับเตะ ตบผมบ่อยที่สุดเหมือนกัน แต่ยังไงผมก็ยังรัก ถึงผมเป็นเด็ก ผมก็เข้าใจว่าที่ทำไปเพราะต้องการให้ผมตั้งใจ อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุดนั่นแหละ

แต่ผมก็มีข้อดีของผมเหมือนกันนะ ครูใหญ่ย้งบอกว่าผมมีข้อดีตรงที่ ผมเกิดมาจากหนัง เริ่ม ต้นมาจากหนัง เพราะฉะนั้นทางการแสดงมันเลยเป็นทางของหนังอยู่แล้ว มันเลยไม่ต้องปรับทาง ปรับอะไรกันมาก เห็นมั้ยอย่างน้อยผมก็มีตั้งสิ่งหนึ่งที่ครูใหญ่ย้งจะเบาใจไปได้บ้างล่ะน่า

เด็กชายวิเชียร

“ผมไม่รู้ตัวหรอก ว่าผมเก๋า ผมเจ๋ง แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ
ผมอยู่ที่หอนี้มาก่อน ก็เลยอยากช่วยเหลือเพื่อนใหม่ที่เพิ่งมาถึง ก็เท่านั้น”

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด กรุงเทพฯ
บุคลิก ร่าเริง สดใส เก๋า และเท่ห์
รูปร่าง/ลักษณะ สันทัด คล่องแคล่ว แววตาดูเศร้า
วิชาถนัด สังคม
อาหารโปรด กระเพราไก่ไข่ดาว
ฮีโร่ พ่อ

เด็กหอวิเชียร รับบทโดย ศิรชัช เจียรถาวร (ไมเคิล)
เกิด : 28 พ.ค 2535
อายุ : 12
สูง : 153 ซม.
น้ำหนัก : 40 กก.
ผลงาน : ละครครูไหวใจร้าย,ละครเหมราช,โฆษณากาแฟเบอร์ดี้
ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี ไม่อยากอยู่ เพราะกลัวเผลอทำตัวไม่ด

จริงๆแล้วตอนแรกภาพของตัวละครตัวนี้ ก็ไม่ใช่อย่างที่ผมเป็นหรอกนะ ครูใหญ่ย้ง บอกว่า ตัวละครตัวนี้เป็นคาแร็คเตอร์ที่หายากมากๆ หาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอในแบบที่ต้องการซะที คือคาแร็คเตอร์ตัวนี้ต้องดูร่าเริง สดใส ต้องดูลูกทุ่งๆหน่อย และที่สำคัญต้องดูเก๋าด้วย พอมาเจอผม หลายคนบอกกันว่าผมหน้าตาดูทันสมัยไป ดูเป็นเด็กสยามเกินไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ครูใหญ่ย้งบอกว่าผมน่าสนใจคือ ผมเป็นเด็กตาเศร้า ซึ่งคนเล่นบทนี้ควรเป็นอย่างนั้น และเป็นเด็กที่ดูมีอะไรลึกๆอยู่ข้างใน ดูแล้วมีความเก๋าแต่เป็นในแบบของผมนะ ไม่ใช่แบบของตัวละครที่เคยมองภาพไว้แต่แรก

และสิ่งที่ครูใหญ่ย้งชอบผมมากคือ ตอนแคส ให้ผมเล่นกีตาร์ แล้วผมก็ร้องเพลงเป็นเพลงแปลงตลกๆ ตอนนั้นทุกคนลงความเห็นว่าผมเท่ห์มาก ดู cool มาก เพราะตั้งแต่แคสกันมายังไม่มีเด็กคนไหนที่ดู cool เลย ครูใหญ่ย้งเลยตัดสินใจเลือกผม แต่ก็ต้องปรับบทมาหาผมมากขึ้น เพราะผมไม่ได้ดูสดใส ร่าเริง ขนาดที่วางกันเอาไว้ แต่ก็จะได้ความเก๋า ความ cool ในแบบของผม

แต่ปัญหาของผมก็คือ ผมมาจากโฆษณา และละครมาก่อน เวลาแสดงมันจะออกมาในแบบเยอะและใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ทางของหนัง แต่ครูใหญ่ย้งบอกว่าพอดีผมมีความลึกอยู่ในตัว เลยสามารถกดๆสิ่งนั้นมันลงมาได้ และปัญหาอีกอย่างคือ พออยู่กันไปซักพัก ครูใหญ่ย้งก็มาเห็นบุคลิกบางอย่างของผมที่ไปลดความเจ๋งในตัวของผมเองซะงั้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการพูด น้ำเสียง และวิธีการเดิน ซึ่งนั่นมันเป็นบุคลิกของผมไปแล้ว แต่ผมก็พยายามปรับให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ อย่างไรก็ตามครูใหญ่ย้งก็บอกว่า แม้ในโลกนี้อาจจะมีคนเล่นบทนี้ที่เหมาะกว่าผม แต่ตอนนี้ผมก็สามารถเป็นตัวละครตัวนั้นได้อย่างที่อยากให้เป็นแล้ว เฮ้อ … ชื่นใจจริงๆ

เด็กชายเพ้ง

“ใครว่าผมเป็นหัวหน้าแก็งค์ เป็นหัวโจกของกลุ่ม
ถูกแล้ว … นั่นแหละหน้าที่หลักของผม”

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด ปราจีนบุรี
บุคลิก ก๋า วางตัวเป็นป๋า ตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก็งค์
รูปร่าง/ลักษณะ หน้าแก่ หัวโต แต่ตัวเล็ก
วิชาถนัด พละ
อาหารโปรด กระท้อน
ฮีโร่ มาราโดน่า

เด็กหอเพ้ง รับบทโดย จิรัฏฐ์ สุขเจริญ (นิค)
เกิด : 25 ก.ย 2531
อายุ : 17 ปี
สูง : 162 ซม.
น้ำหนัก : 55 กก.
ผลงาน : ละครเรื่องกษัตริยา (และแสดงบทสุดสาคร 3 ปีซ้อน ในงานสุนทรภู่ของโรงเรียน) ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี อยู่บ้านสบายกว่า

ผมมารู้ทีหลังเอาว่าที่ครูใหญ่ย้งชอบผม เลือกผม สนใจผม เพราะหนึ่ง ผมดูเป็นเด็กต่างจังหวัดดี สอง ผมดูหน้าแก่ ซึ่งอันนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ สามคือ ผมตัวเล็ก เพราะทั้งหมดนี้มันทำให้ผมดูแตกต่างจากหัวหน้าแก็งค์เด็กอย่าง แจ็ค แฟนฉัน เพราะแจ็คจะดูเป็นเด็กโข่งเด็กซ้ำชั้น แต่ผมดูเป็นเพื่อนที่อยู่ชั้นเดียวกัน แต่เผอิญหน้าแก่ไปเท่านั้น

ครูใหญ่ย้งบอกผมอีกว่า กว่าจะเลือกมาเป็นผมได้ ยากมาก เพราะว่าเราต้องการหนีคาแร็คเตอร์แบบแจ็ค แต่ตอนที่เขียนบทเสร็จก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าบทนี้ บทหัวหน้าแก็งค์จะออกมาเป็นลักษณะยังไง และจะต่างกับแจ็คตรงไหน พอมาเจอผมก็ถึงบางอ้อเลย ว่าผมนี่แหละคือตัวจริง เสียงจริง

ด้วยความที่ผมไม่เคยผ่านงานด้านนี้มาก่อน จะมีก็แต่เล่นละครไก่กา ขำๆกันไป โดย แสดงเป็นสุดสาคร ในงานสุนทรภู่ที่โรงเรียนถึง 3 ปีซ้อน ก็เท่านั้น ขอแอบคุยซะหน่อย แต่ถ้าเป็นจริงเป็นจังแบบเข้าวงการมาแสดงหนัง แสดงละครอะไรกับเค้า ผมยังไม่เคย พอมาเล่นในเรื่องนี้ ผมเลยต้องซ้อมเยอะๆ เพราะครูใหญ่ย้งบอกว่า ถ้าผมยิ่งซ้อมเยอะ ๆ ผมจะเล่นดีขึ้นๆ ซึ่งผิดกับเด็กคนอื่นๆที่ยิ่งซ้อมเยอะๆ กลับยิ่งแย่ลง เพราะมันจะไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผมคงเป็นกรณียกเว้นล่ะมั้ง

 

เด็กชายหมอหนุ่ย

“ใครจะว่ายังไงผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆผมเชื่อเรื่องกรรมเวร
และที่สำคัญผมเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่าผีมีจริง”

ชั้ั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด ชลบุรี
บุคลิก พูดช้าและเนือย หมกมุ่นและเชื่อเรื่องลึกลับ
รูปร่าง/ลักษณะ หน้าตาดูจิตๆ ชอบทำตัวประหลาด
วิชาถนัด พุทธศาสนา
อาหารโปรด แกงจืดฟัก
ฮีโร่ ล้อต็อก

เด็กหอหมอหนุ่ย รับบทโดย ธนบดินทร์ สุขเสรีทรัพย์ (มาย)
เกิด : 20 เม.ย 2535
อายุ : 13 ปี
สูง : 153 ซม.
น้ำหนัก : 35 กก.
ผลงาน : ยังไม่เคยผ่านงานการแสดง
ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี อยากอยู่กับพ่อแม่ กลัวคิดถึงพ่อแม่

ครูใหญ่ย้งบอกว่า ถ้าจะให้เด็กซักคนมาเล่าเรื่องหรือพูดเรื่องที่ดูลึกลับๆ ดูผีๆ แล้วดูน่าเชื่อถือ มันน่าจะเป็นเด็กที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องกรรมเวร แล้วบ้านก็ขายโลงศพด้วย และที่สำคัญหน้าตาต้องดูจิตๆ ประหลาดๆหน่อย คือให้มันผิดธรรมชาติไปเลย

ครูใหญ่ย้งยังบอกอีกว่า ตอนแคสติ้ง เห็นผมเดินเข้ามา มองแต่หน้าตา ก็ยังเฉยๆ ยังไม่มีอะไร แต่พอเวลาที่ผมเล่น มันกลับดูหลอนๆยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งตอนแคส ผมก็เล่นแบบเล่นไม่ได้ด้วย เวลาพูดก็จะพูดช้าๆ เนือยๆ เหมือนคนท่องบท แต่สุดท้ายก็ได้คาแร็คเตอร์ของผมแบบนี้แหละ มาเป็นคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้นั่นเอง

แต่จริงๆแล้ว ผมเป็นคนที่สนุกสนาน ร่าเริงนะ ไม่ได้เป็นอย่างตัวละครตัวนี้ทั้งหมดหรอก แต่เผอิญเวลาผมอยู่นิ่งๆ หรือหน้านิ่งๆ ก็อาจจะดูคาแร็คเตอร์เหมือนไปบ้างเท่านั้น ส่วนในเรื่องการแสดงของผมนั้น ครูใหญ่ย้งบอกว่า เทคแรกของผมคือเทคที่ดีที่สุด เพราะถ้ายิ่งซ้อมต่อไป จะยิ่งแย่ลงๆไปเรื่อยๆ

 

 เด็กชายสาโรช

“บ้านผมรวย บ้านผมมีฐานะ แต่มาอยู่โรงเรียนประจำ
เพราะมันเป็นโรงเรียนประจำ ผมผิดตรงไหนครับ ”

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด กรุงเทพฯ
บุคลิก ดี มีมาดคนรวย เชื่อมั่นในตนเอง
รูปร่าง/ลักษณะ หน้าตาดี ผิวพรรณดี มีชาติตระกูล
วิชาถนัด อังกฤษ
อาหารโปรด หมูทอดกระเทียมพริกไทย
ฮีโร่ ซุปเปอร์แมน

เด็กหอสาโรช รับบทโดย อนุชิต ปนัดเศรณี (มอส)
เกิด : 23 พ.ย 36
อายุ : 11 ปี
สูง : 144 ซม.
น้ำหนัก : 30 กก.
ผลงาน : โฆษณาไมโล (ตอนอนุบาล3)
ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก และ กฎระเบียบเยอะ

จริงๆแล้วเค้าหาว่าผมเป็นเด็กเส้นครูใหญ่ย้งครับ เพราะครูใหญ่ย้งบอกว่า ผมโดนเรียกใช้งานเยอะมาก ให้มาแคสเยอะมาก และผมก็เล่นแบบตั้งใจทุกครั้ง แต่ไม่เคยได้อยู่ในหนังเลย เค้าเลยสงสารผม บอกว่าเรื่องนี้ยังไงก็ต้องให้ผมเล่น

แล้วอีกอย่างผมมีคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้ อยู่ในตัวผมอยู่แล้วคือ ต้องดูเป็นลูกคนมีฐานะ แล้วผมดันเกิดมามีหน้าตาในแบบนั้นซะด้วย เลยโชคดีไป รวมทั้งบทนี้ มันไม่ต้องอาศัยการแสดงที่เก่งหรือช่ำชองมาก และมันก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก ทั้งหมดนี้ทางผู้ใหญ่เลยอนุญาติให้ผมเล่นได้ ตามคำขอของครูใหญ่ย้งครับ

และถึงแม้ใครจะหาว่าผมเป็นเด็กเส้นก๋วยจั๊บขนาดไหน ผมก็เป็นที่รักของคนในกองนะครับ เพราะเค้าบอกกันว่า ผมเป็นเด็กเรียบร้อย นิสัยดี ฉลาด เรียนเก่ง และด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา น่ารักของผม ทุกคนที่นี่เลยเอ็นดูผมกันครับ

แต่รู้มั้ยครับว่า ตอนแรกผมกะจะได้เล่นเป็นตัวละครอีกตัวที่อยู่ในแก็งเด็กหอนี่แหละ คือเป็นตัวที่ไมเคิลเล่นอยู่ แต่เผอิญว่าคาแร็คเตอร์ตัวนั้นถูกเปลี่ยนจากซึมๆ เศร้าๆ มาเป็นร่าเริง สดใส ครูใหญ่ย้งเลยบอกว่า ในทางการแสดงผมไม่ได้เป็นเด็กที่ดูร่าเริงขนาดนั้น ทั้งๆที่จริงๆผมเป็นเด็กร่าเริงนะ และสดใสกว่าไมเคิลซะอีก และที่สำคัญผมไม่ดู cool แต่กลับดูเป็นเด็กเรียนซะมากกว่า ผมเลยไม่ได้เล่นบทนี้ไปตามระเบียบ

 

เด็กชายป๊อก

"ใครก็รู้ ผมเป็นเด็กใต้ ไม่ใช่เด็กเต้บ ด้วยความดำขำที่เด้งโดดความเหน่อและความกวนสุดขีดของผม”

ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
บ้านเกิด ชุมพร
บุคลิก กวน ซ่าส์ ร่าเริง คุยได้กับทุกคน
รูปร่าง/ลักษณะ ดำ แกร็น ตาโต ยิ้มฟันขาว
วิชาถนัด ภาษาไทย
อาหารโปรด แกงส้ม
ฮีโร่ กรมหลวงชุมพร

เด็กหอป๊อก รับบทโดย ปะกาสิต พันธุรัตน์ (เบียร์)
เกิด : 6 พ.ค 37
อายุ : 11 ปี
สูง : 135 ซม.
น้ำหนัก : 30 กก.
ผลงาน : ยังไม่เคยผ่านงานการแสดง (แต่ถ้าโตเป็นหนุ่มเมื่อไหร่ งานชุกแน่ เพราะมีคนบอกว่า ผมเข้มเหมือนพระเอก วินัย ไกรบุตร)
ประสบการณ์การอยู่หอ : ไม่มี เพราะไม่รู้จะอยู่ทำไม

ครูใหญ่ย้งบอกผมว่า ที่เลือกผม เพราะคาแร็คเตอร์ผมมันแรงดี ทั้งๆที่ตอนแคสก็เล่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก คือแรงขนาดว่าถ้าเอากล้องแพนไปในกลุ่มเด็กประมาณ 20 คน แล้วมีผมอยู่ในนั้นด้วย พอแพนเจอหน้าผมปุ๊บ แล้วแพนกลับไปอีกที คนจะสามารถจำผมได้แล้ว อันนี้ครูใหญ่ย้งบอกว่าคือความน่าสนใจของผม คิดดูซิครับว่าผมมันแรงขนาดไหน

ส่วนคาแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนี้ที่ผมต้องเล่นนั้น ก็จะเป็นเด็กสดใส ร่าเริง ชอบกวนคนอื่น แต่ตัวจริงของผมนะ กวนกว่าในเรื่องเยอะ และก็จะคอยทำหน้าที่เป็นตัวประสาน คอยเชื่อม คอยคุยกับคนอื่นๆทั้งในและนอกกลุ่มเสมอ โดยเฉพาะกับเพื่อนใหม่ๆ เรียกง่ายๆว่าชอบเจ๊าะแจ๊ะ ว่างั้น จะว่าไปตามที่ครูใหญ่ย้งบอก ตัวละครตัวนี้เป็นเด็กที่ธรรมดาที่สุด คือจริงๆที่มีบทนี้ เพราะแค่อยากจะบอกว่าโรงเรียนประจำเป็นที่รวบรวมของคนหลากหลาย มีเด็กจากหลายๆที่มารวมกัน ต่างพ่อพันธุ์แม่กันเท่านั้น แล้วที่เลือกภาษาใต้ เพราะภาษาถิ่นมันชัดมาก ทำให้ภาพมันชัดว่ามาจากคนละถิ่นกัน

ตอนนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครูใหญ่ย้ง คิดผิดหรือถูกที่เลือกผม เพราะใครต่อใคร ก็ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมซน และเวรที่สุด ครูใหญ่ย้งบอกว่า ผมเป็นเด็กดื้อ ดื้อลึก ดื้อแบบว่าไม่พยายามจะทำ ชอบบอกว่าทำไม่ได้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลอง จนบางครั้งเพื่อนต้องเอาเกมส์มาล่อ เอามาขู่กันว่าถ้าไม่ทำจะไม่ให้เล่น จนมีอยู่วันนึงผมทำเสียแผน จนเพื่อนๆจับได้ คือพอต้องถ่ายตอนดึกๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากเล่น ผมก็จะแกล้งทำเป็นเสียงแหบ ไม่มีเสียง พอครูใหญ่ย้งบอกให้พักไม่ต้องเล่นแล้ว ผมดันกลับมาพูดเสียงใสได้เหมือนเดิมซะงั้น แผนเลยแตกเลย

แต่ผมพอจะมีข้อดีอยู่บ้างนะครับ เพราะครูใหญ่ย้งบอกว่า ผมเป็นเด็กที่เล่นเป็นธรรมชาติมากที่สุดคนนึง แต่เฉพาะเวลาซ้อมเท่านั้นนะครับ ถ้าเมื่อไหร่ผมรู้ว่ากล้องจะถ่ายจริง จะเล่นแข็งและไม่เป็นธรรมชาติทันที และผมก็มารู้ตอนหลังเอาว่า ถ้าเมื่อไหร่จะถ่ายจริง ครูใหญ่ย้ง จะบอกคนอื่นว่าถ่ายจริง แต่มาบอกกับผมคนเดียวว่าเป็นการซ้อม ฮือ... หลอกเด็กอย่างผมได้ลงคอ แต่ผมยอมรับว่ามันก็ได้ผลนะครับ

 

ครูปราณี

“ความรู้สึกผิดเมื่อสิบกว่าปีก่อน มันทำให้ชั้นจำฝังใจ
รู้สึกผิดมาตลอด และกลัวจะเกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำรอยขึ้นอีก”

ชื่อ ครูหอ ปราณี

ประสบการณ์ ครูประจำหอพักนาน 18 ปี

บุคลิก เครียด เฮี้ยบ ดุ น่ากลัว

รูปร่าง/ลักษณะ ท้วม เสียงดัง ตาโต โกรธรุนแรง

ฮีโร่ สวลี ผกาพันธุ์

ดิฉันเพิ่งจะมารู้ว่า ตอนแรกไม่มีคาแร็คเตอร์ครูปราณีนี้อยู่ในหนังเลย แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นงานกำกับเดี่ยวครั้งแรก และครูใหญ่ย้งบอกว่ามันอาจจะกลายเป็นหนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตก็ได้ ไม่มีใครรู้ เลยอยากทำงานกับดาราในดวงใจ เพราะอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว เลยต้องหาเหตุผลที่จะทำงานด้วยให้ได้ ก็เลยต้องเขียนบทให้ดิฉันเล่นเป็นครู เพราะตัวละครผู้หญิงที่จะมีบทบาท มีส่วนสำคัญกับหนังเรื่องนี้คงต้องเป็นครู เพราะเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นที่โรงเรียน และที่สำคัญอยากให้เป็นบทที่ใหม่และแปลกไปจากที่คนดูเคยเห็นมาด้วย

ครูใหญ่ย้งยังบอกอีกว่า เหตุที่ชื่นชอบในตัวดิฉันมาก เพราะโตมาในยุคของนักแสดงอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ , สันติสุข , อำพล ลำพูน คือช่วงนั้นเป็นช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงที่ได้ดูหนังมาก เวลาดูหนังเรื่องหนึ่ง จินตหรา ก็ทำให้หัวเราะ ดูอีกเรื่องจินตหราก็ทำให้ร้องไห้ คือจินตหรา สามารถทำให้เกิดความรู้สึกร่วมกับหนังทุกเรื่องที่ดูได้ เลยรู้สึกผูกพัน คือเป็นดาราที่ทำให้รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูหนัง นี่คือสิ่งที่ครูย้งบอกกับดิฉันค่ะ

คาแร็คเตอร์ของครูปราณีที่ดิฉันได้รับนั้น เป็นครูที่เฮี้ยบ ดุ ค่อนข้างเก็บความรู้สึก  ออกเครียดๆ ดูเป็นครูที่น่ากลัว เวลาโกรธมักออกมาในรูปแบบที่รุนแรง และดูเหมือนไม่มีเหตุผลในสายตาของเด็ก ซึ่งครูแบบนี้ก็ไม่เคยเล่นมาก่อน คือการแสดงออกของครูจะทำให้คนสับสนว่าครูคนนี้ เป็นอะไร เพี้ยนๆหรือเปล่า แต่จริงๆแล้วมันมีที่มา มีเหตุผลของการกระทำนั้นๆ เพราะครูปราณีฝังใจกับเรื่องในอดีต รู้สึกว่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง เลยมีความห่วง ความกังวลต่างๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีก เลยทำให้ครูกลาย เป็นคนแบบนี้ ซึ่งทำให้เด็กไม่เข้าใจ

จริงๆแล้วบทนี้เป็นบทที่เล่นยาก เพราะกะไม่ถูกว่าต้องเล่นอารมณ์ออกมาประมาณไหน จะให้ดูเป็นแบบจิตๆเลยหรือเปล่า ก็เลยใช้วิธีให้ครูใหญ่ย้งบอกมาเลยว่า อยากได้อะไรประมาณไหน หรือดูว่าถ้าเล่นน้อยไปก็บอก จะเพิ่มให้ หรือถ้าเล่นมากไปก็จะลดให้ จะมาปรับให้อีกที และสิ่งที่ชอบในการทำงานของครูใหญ่ย้งอยู่อย่างคือ จะให้ความสำคัญทั้งภาพ และเรื่องของการแสดง จะคอยเน้นอารมณ์ต่างๆของนักแสดง คือถ้าดูทั้งสองอย่างควบคู่กันไป จะทำให้มันสมบูรณ์ เพราะโดยมากคนที่มาจากโฆษณาส่วนใหญ่จะดูแต่ภาพ ไม่ค่อยดูในเรื่องของการแสดงเท่าไหร่

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.