|
โปสเตอร์อินเตอร์ ฉบับคานส์ 2008
|
|
|
โปสเตอร์ใหม่ และล่าง โปสเตอร์เก่า
|
|
|
เรื่องย่อ
ที่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ไร้ซึ่งความสลักสำคัญระดับชาติ เป็นบ้านเกิดของ ขวาน ลูกชายเจ้าของร้านผัดไท คนที่ได้ชื่อว่าเป็น เดอะ สเปเชี่ยน ของหมู่บ้าน คนที่ใครๆต้องรู้จัก ขวาน เด็กชายผู้มีแขนซ้ายสองข้าง!!
ขวานเป็นเด็กไม่ธรรมดามาตั้งแต่เกิด ด้วยแขนซ้ายทั้งสองบวกกับแขนขวาอีกหนึ่ง เขาเก่งกว่าเด็กทั่วไปสารพัด เช่น ทำการบ้านคัดไทยได้ทีละสองหน้า, กระโดดตบวอลเลย์ได้ครั้งละสองลูก, ลบกระดานดำไวสุดในชั้น, แปรงฟันไปล้างหน้าไป ขวานคิดเสมอว่าการที่เขาสามารถใช้สองมือกินขนม ส่วนอีกมือแคะขี้มูกไปด้วยโดยไม่ต้องกลัวเลอะ เป็นพรวิเศษเฉพาะตัว เขาเชื่ออย่างที่แม่เคยหอมแก้มแล้วกระซิบที่ข้างหูว่า ขวานคือคน พิเศษ
โกหกทั้งเพ คำพูดสวยหรูทั้งหมด มันเป็นแค่สิ่งที่แม่หลอกเขา แม่คงให้หมอตัดแขนเขาทิ้งไปแล้ว ถ้าไม่กลัวเขาจะเสียเลือดจนตาย เพราะแขนซ้ายเจ้ากรรมดันมีเส้นเลือดโยงเข้าสู่หัวใจ
เมื่อแม่ตาย ขวานยิ่งตระหนักว่าเขาไม่ใช่คนพิเศษ แต่เป็นตัวประหลาดในสายตาคนทั้งหมู่บ้าน...
แฟนที่คบกันมานานก็บอกเลิก เพราะทำใจเรื่อง ไอ้นั่น ไม่ได้จริงๆ แถมช่างตัดเสื้อประจำตัวก็มาด่วนตายไปซะอีก นั่นหมายความว่านับแต่วินาทีนี้ไป เขาจะไม่มีเสื้อใส่!!!
ขวานตัดสินใจแล้ว ช่างแม่, ช่างเส้นเลือดใหญ่
เขาจะไปกรุงเทพฯ ไปผ่าตัดความ พิเศษ ออก
ระหว่างการเดินทาง ขวานสวมบทฮีโร่ช่วยผู้หญิงที่กำลังจะโดนปล้ำคนหนึ่งไว้ เธอชื่อนา กำลังจะไปตามหาผัวที่กรุงเทพฯ ในเมื่อเธอกับเขามีปลายทางร่วมกัน นาจึงกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางจำเป็นของขวาน แล้วการเดินทางที่ไม่ธรรมดาของคนสองคนกับแขนห้าข้างก็เริ่มต้นขึ้น ขวานรู้สึกคล้ายเป็นคนพิเศษขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เพราะแขน
หากแต่เป็นความพิเศษที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เต้นรัวอยู่ในอกด้านซ้ายของเขาเอง
เก้ง-จิระ ชอบไอเดีย คงเดช ดึง ตุ้ย AF 3 ประกบ กระแต
เก้ง-จิระ มะลิกุล โปรดิวเซอร์หนังมือหนึ่งค่าย จีทีเอช สนใจ ไอเดียหนังของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี Handle Me With Care หรือ กอด ที่นำเรื่องความอยากมี และ ไม่อยากมีของคนมาเล่าเรื่องได้อย่างสนุก
เก้ง-จิระ เผยว่า ผมยินดีมากเมื่อทราบว่าคงเดชอยากมาร่วมงานกับจีทีเอช และวันที่เค้าเอาบทเรื่องกอดมาให้อ่าน ผมชอบไอเดียของคงเดชมาก เค้าสามารถพูดเรื่องความอยากมีและไม่อยากมีของคนได้อย่างสนุก แนวเรื่องของหนังพระเอกจะมีแขนซ้ายสองข้าง และเป็นแขนที่ใช้งานได้จริง เป็นแขนที่คอยช่วยเหลือคน เป็นแขนที่โอบกอดนางเอกได้อย่างอบอุ่น บางครั้งคนเรามักจะไม่พอใจกับสิ่งเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย แต่ถ้าเราสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ เราจะรู้สึกดี แต่ทันทีที่เรารู้สึกรังเกียจมันเมื่อไหร่ มันก็จะบั่นทอนจิตใจและรู้สึกว่ามันไม่ดีขึ้นมาทันที เหมือนกับนางเอกในเรื่องที่เค้าทรงโตที่สุดในหมู่บ้าน ทุกคนในหมู่บ้านชื่นชอบมาก แต่ตัวเค้าเองกลับรู้สึกรังเกียจ พระเอกตัดสินใจออกจากหมู่บ้านเป็นครั้งแรกในชีวิตเพื่อเข้าไปตัดแขน เลยเจอนางเอกระหว่างเดินทาง มันเป็นหนังโร้ดมูฟวี่ที่โรแมนติก ที่ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ประโยคที่ว่า จะตัดหรือไม่ตัดไม่สำคัญเท่ากับที่เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แม้กระทั่งความคิดที่ฝังอยู่ในหัวว่าการที่เราจะชอบคนคนหนึ่ง หรือไม่ชอบคนคนหนึ่งเพราะคาแร็กเตอร์เค้าไม่ตรงกับใจเรา ทั้งหมดเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาเอง ผมชอบไอเดียตรงนี้ของคงเดชมาก และกระแตเหมาะกับบทนี้มาก มีความเป็นธรรมชาติ เป็นสาวเหนือ ส่วนตุ้ย เค้าฉายแววมีรัศมีความเป็นดารา มีเสน่ห์ และตุ้ยเหมาะกับบทเรื่องนี้ที่เป็นหนังผจญภัย สนุก และมีความโรแมนติกอยู่ในตัวครับ
กอด จากกระจกเงา สู่ความอยากมีและไม่อยากมีของคน
ถ้าคุณเคยตื่นเต้นกับหนังเรื่อง สยิว หรือเคยอมยิ้มไปกับหนังเรื่อง เฉิ่ม คงไม่น่าแปลกใจถ้าต้นปี 2551 นี้ ใครๆจะหลงรักหนังเรื่อง กอด เพราะ คงดช จาตุรันต์รัศมี กำลังจะบรรจงสร้างและบรรเลงเรื่องที่ว่าด้วยความอยากมีและไม่อยากมีของคนด้วยสองมือของเขา และกระจกเงาที่ทำให้เขารู้สึกว่าส่องกี่ครั้งความบกพร่องในร่างกายก็ยังคอยกระแทกตาอยู่เสมอ
ผมมีโอกาสได้คุยเรื่องบทภาพยนตร์เรื่องหนึ่งกับพี่เก้ง ช่วงเวลาที่ได้คุยกัน อยู่ๆพี่เก้งก็ถามผมว่าตอนนี้มีเขียนเรื่องอะไรไว้บ้าง พอดีผมมีเรื่องนี้อยู่ในมือ ก็เลยเอาให้พี่เขาอ่านเล่นๆปรากฏว่าพี่เก้งชอบ เลยชวนมาทำให้เป็นเรื่องเป็นราวกันดีกว่า จากนั้นก็พัฒนากันมาเรื่อยๆจนสมบูรณ์ ผมเริ่มเขียนเรื่องนี้จากอาการเกลียดหน้าตัวเองในกระจก ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยรู้สึกไม่ชอบบางส่วนของตัวเองในกระจกแน่ๆ มันเลยเป็นที่มาของเรื่อง เพราะสิ่งที่เราเห็นในกระจกมันเป็นสิ่งที่จะหลบยังไงมันก็ยังคงมีให้เห็นและคอยกระแทกสายตาอยู่ดี พอได้เริ่มเขียน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเราได้พูดในสิ่งที่เรามีคำถามกับชีวิตเยอะดีเหมือนกัน โดยโครงเรื่องผมใช้เวลาไม่นานแต่รายละเอียดของมันผมใช้เวลาคุยใช้เวลาปรับและพัฒนากับพี่เก้งอยู่หลายเดือนจนได้สิ่งที่ตรงใจที่สุด พี่เก้งเป็นคนมีไอเดียมาเสนอตลอดเวลาโดยไม่ได้บีบบังคับให้เราต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เรียกว่าป้อนแรงบันดาลใจให้มากกว่า
ก่อนหน้านี้ผมคิดอยู่หลายเรื่อง แต่พอคิดถึงเรื่องแขนมันก็มีคำว่าชายหนุ่มที่มีแขนซ้ายสองข้างผุดขึ้นมา ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจ คำมันชวนให้คิดภาพ พอเราคิดภาพแล้วรู้สึกว่าอยากเห็นจัง ในขณะที่ถ้าเป็นสามขาเราคงไม่อยากเห็นไม่อยากดู สามหูก็รู้สึกไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เราทำกิจวัตรประจำวันด้วยมือด้วยแขนก็เลยรู้สึกว่าถ้าพระเอกของเรามีแขนซ้ายสองข้างจะเป็นอย่างไร ต้องมันส์แน่ๆ
ในส่วนของการเฟ้นหานักแสดง เราได้ตุ้ย AF3 และ น้องกระแต มารับบทนำ ตอนแรกผมนึกไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรถ้าให้ตุ้ยมารับบทขวาน พอได้มาเจอตัวจริงก็ชอบเลย เขามีเสน่ห์แบบพระเอกลิเกแฟนคลับถึงได้เยอะขนาดนี้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือตุ้ยมีแววตาแอบเศร้าอยู่ ผมรู้สึกตั้งแต่ต้นว่าอยากได้คนที่มีแววตาเศร้าสามารถสื่อให้รู้สึกได้ว่ามีปัญหากับชีวิต ไม่พอใจกับชีวิต เพราะขวานเขาเป็นคนรู้สึกแบบนั้น หน้าตาไม่ได้แฮปปี้ ซึ่งตุ้ยก็มีคุณสมบัติแบบนั้นครบ พอตุ้ยได้อ่านเรื่องแล้วเขาก็โดนมาก อินสุดๆถึงกับออกปากว่าผมพร้อมมากครับพี่ จะโขกสับผมยังไงก็ยอม
หนังเรื่องนี้ผมอยากให้มองในมุมที่เกี่ยวกับความมีหรือไม่มีของคน บางทีเรามัวกังวลว่าเรามีสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้ มันเป็นเรื่องของการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองมีหรือไม่มี แล้วมีความสุขกับชีวิตได้ ไม่ว่าเราจะมีหรือไม่มีอะไรก็ตามสุดท้ายแล้วสิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือคนที่แคร์เรา มันทำให้เราหยุดดิ้นรน ผมชอบที่เราวางไว้ว่าให้ กอด เป็น โร้ดมูฟวี่ ผมอยากให้เห็นว่าพระเอกดิ้นรนไปตลอดเส้นทาง บางอย่างเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แต่เราก็ดิ้นรนโดยที่ลืมถามตัวเองว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร ผมว่าดีนะถ้าคนที่ได้ดูมีโอกาสได้คิดต่อ
|