 |
ก็เกริ่นกันไปแล้ว สำหรับผู้กำกับหน้าใหม่และหนังอินดี้ใหม่ที่น่าจับตามอง ตามที่ บก. แนะนำไปแล้ว คราวนี้ผมขอแนะนำตัวให้รู้จักผู้กำกับกับหนัง A Moment In June กันมากขึ้นนะครับ
ุ้เริ่มแรกคงจะต้องขอพูดถึงชื่อของเขาก่อนนะครับ เพราะหลายๆ สื่อที่ลงข่าวของ A Moment In June เขียนไม่เหมือนกันเลย ณัฐภรณ์บ้าง ณัฐพลบ้าง แต่จริงๆ แล้วคือ นัฐพล วงศ์ตรีเนตรกุล หรือสำหรับภาษาอังกฤษก็คือ โอ นัฐพล
การศึกษา
นัฐพลหรือโอ เกิดที่เมืองไทย เมื่ออายุได้ 14 ปีก็ไปเติบโตที่อังกฤษ ระหว่างเรียนมไฮสคูล โอสนใจและเรียนด้านอาร์ตหรือศิลปะมาโดยตลอด ความที่ต้องอยู่โรงเรียนประจำทำให้เวลาว่างช่วงเสาร์อาทิตย์ของโอหมดไปกับการดูหนัง แถมโอยังเป็นคนชอบการถ่ายภาพ ขนาดเคยหาลำไพ่พิเศษจากการถ่ายภาพเองด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเมื่อเรียนจบไฮสคูลโอก็ไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์ที่ แคลิฟอร์เนียอาร์ตเซ็นเตอร์ สหรัฐฯ จากจุดตรงนี้ล่ะครับ ที่เขาได้เริ่มถ่ายทำหนังสั้นวิทยานิพนธ์ Bicycle and Radio |
Bicycle and Radio ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับโอ และยังได้รับกระแสตอบรับที่ดี หนังได้รับการคัดเลือกไปฉายตามเทศกาลหนังต่าง ๆ ทั่วโลก หนังสั้นของเขาเป็นเหมือนเครื่องพิสูจน์ต่อครอบครัวถึงหนทางที่เขาเลือก ตอนแรกที่ไปเรียนเกี่ยวกับที่ภาพยนตร์ ทางบ้านของโอก็ถามเขาว่า จะเรียนจริงหรือ ถ้าไปเรียนแล้วไม่ใช่ก็กลับมาทำกิจการธุรกิจของที่บ้านได้ โอไม่อยากทำงานนั่งออฟฟิต เพราะไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ที่สำคัญคือเขารักหนัง และเมื่อผลตอบรับดี ที่บ้านก็ไม่เคยถามเขาว่าจะเขาจะกลับมาทำงานที่บ้านไหมอีกเลย
จุดเริ่มต้น
จบภาพยนตร์ โอก็ไปเรียนการละครที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และจากนั้นเขาก็ผลักดัน A Moment In June ผลงานหนังยาวเรื่องแรกของเขา ที่เขาพัฒนาบทระหว่างเรียนละคร เมื่อบทเสร็จ โอก็พาบทของเขาเป็นหนึ่งในสิบเรื่องที่เข้าร่วมในโครงการโอซุคเมื่อปี 2548 ซึ่งตอนนั้นทางโปรเจ็คได้ร่วมกับเทศกาลหนังเวิร์ด์ฟิลม์แห่งกรุงเทพ (จัดโดยเดอะเนชั่น)
หลายๆ คนอาจจะทราบแล้วว่าโอซุคเป็นเหมือนช่องทางให้โปรดิวเซอร์และผู้กำกับหาทุนในการทำหนัง แต่โอก็ยอมรับว่าโครงการโอซุคช่วยในขั้นแรกๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความกระตือรือร้นของคนทำหนังแต่ล่ะเรื่อง บางคนอาจจะต้องรอถึงสองสามปีกว่าจะหาทุนได้ ซึ่งไม่เวิร์คสำหรับเขา
ผลจากโครงการโอซุค โอได้ไปนำเสนอโปรเจ็คท์ที่เทศกาลหนังเมืองน็องค์ โอหาทุนไปได้สักพักก็รู้ว่าต้องมีทุนจากประเทศไทย เพื่อไม่ให้หนังแพงเกินจำเป็น ต่อมาก็มีคนรู้จักมาช่วยออกทุนให้ รวมถึงเงินของเขาเองด้วยเล็กน้อย โอเลือกที่จะไม่ให้มีการ co-production ระหว่างหลายประเทศเพราะเขาเห็นว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้ทุนสูงและเกิดความยุ่งยากเกินจำเป็น

การถ่ายทำ
A Moment In June ได้งบรวมกันทั้งสิ้น 9 ล้าน ถึงจะใช้งบเพียงแค่นั้น แต่ก็เป็นหนังที่ชุมนุมดาราชื่อดังของไทยมากมาย อาทิเช่น น้อย วงพรูและชาคริต แย้มนาม โอเล่าถึงเหตุผลที่เลือกดาราดังๆ เหล่านี้มาแสดงว่า สำหรับโอ พวกเขาคือนักแสดงไม่ใช่ดารา โอชอบทำงานกับนักแสดง ส่วนหนึ่งเพราะเขาเคยทำงานกับบางคนในตอนทำ Bicycle and Radio (ซึ่งได้แก่ชาคริต แย้มนาม) อีกอย่างคือเขาเห็นความต่างกันมากระหว่างหน้าใหม่กับคนที่มีฝีมืออยู่แล้ว ยิ่งหนังเป็นดราม่าด้วย การแสดงที่ดียิ่งเป็นสิ่งจำเป็น ที่สำคัญนักแสดงเหล่านี้ไม่ได้แคร์เรื่องค่าตัวที่ไม่ได้มากนัก แต่พวกเขาอยากร่วมในงานนี้มากกว่า ถ้าจ้างนักแสดงหน้าใหม่แต่ฝีมือไม่ถึงอาจจะไม่คุ้มกันกับเงินที่ต้องเสียไป
ระหว่างถ่ายทำ โอพบปัญหาน้อยมาก เพราะเขาเตรียมงานนานถึงหนึ่งปี ทีมงานรู้ดีว่าแต่ละซีนต้องการอะไรและจะทำงานอย่างไร ยกเว้นก็แต่เรื่องคิวของนักแสดงที่แต่ล่ะคนต่างก็งานยุ่งด้วยกันทั้งสิ้น แต่ท้ายสุดทุกอย่างก็ราบรื่น โอใช้เวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 30 วันในระยะเวลา 3 เดือน

สิ่งที่อยู่ในใจ
โออยากทำหนังดราม่าและอยากทำหนังย้อนยุค นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหนังเรื่องนี้จึงมีทั้งสองส่วน โอเห็นว่าหนังดราม่าดีๆ มีน้อยมาก แทนที่จะรอให้เป็นเอกหรืออภิชาติพงษ์ใช้เวลาสองสามปีเพื่อสร้างหนังเหล่านี้สักเรื่อง แล้วปล่อยให้มีหนังผีหนังตลกเยอะไปหมด
เขาคิดว่าน่าจะมีอะไรที่หลากหลายเพื่อให้คนดูได้มีทางเลือกมากขึ้น
ส่วนเรื่องที่บางคนคิดว่าหนังของเขาเป็นหนังเกย์ ชายหนุ่มวัย 27 ผู้นี้ยืนยันว่าหนังของเขาไม่ใช่หนังเกย์ ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตหรือมีประเด็นหลักๆ อยู่ที่เรื่องราวของเกย์ เพียงแต่มีตัวละคร 2 ตัวเท่านั้นที่เป็นเกย์ เรื่องราวส่วนใหญ่จะเน้นความสัมพันธ์ของคน และสิ่งที่พวกเขาซึมซับผ่านเหตุการณ์ต่างๆ และตัวละครก็ค่อยๆ เติบโตผ่านสิ่งเหล่านั้น
A Moment In June อยู่ในขั้นตอนของการมิกซ์เสียง เดือนหน้าน่าจะเสร็จเรียบร้อย โอบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีผู้จัดจำหน่ายทั้งในและนอกประเทศ เขาคิดถึงเรื่องการเดินหาค่ายให้หนังของเขาเหมือนกัน แต่ก็อยากให้หนังได้ไปเติบโตตามเทศกาลต่างๆ ก่อน แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มที่เทศกาลไหนก่อน ตอนแรกว่าจะไปคานส์แต่ก็เสร็จไม่ทัน เพราะโออยากให้หนังเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริงก่อน
ถึงหนังยาวเรื่องแรกจะยังไม่ได้ออกฉาย แต่โอก็เริ่มคิดบทสำหรับหนังเรื่องต่อๆ ไปของเขาแล้ว มีนักแสดงชั้นนำของไทยอีก 5 คนที่เขาอยากร่วมงานด้วย อย่างเช่น ฉัตรชัย เปล่งพานิช และเขาเขียนบทเพราะอยากให้คนเหล่านั้นเล่น แต่ตอนนี้บริษัท the story of o ที่เขาตั้งขึ้นเพื่อสร้างหนังเรื่องแรก จะเริ่มต้นที่ A Moment In June ก่อน โออยากเดินไปทีล่ะก้าวอย่างมั่นคง
่อ่านข้อมูลหนังและโปสเตอร์




|