สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
องค์บาก 2
  LINK: ภาพงานเปิดตัว องค์บาก 2        
   
 

หน้าปกโบรชัวร์ องค์บาก 2 ฉบับอินเตอร์

โปสเตอร์ฉบับไต้หวัน
โปสเตอร์ฉบับฝรั่งเศส

 

แนวภาพยนตร์                                      แอ๊คชั่น โชว์ศิลปะการต่อสู้
บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย                  สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง                           ไอยราฟิล์ม
อำนวยการสร้างบริหาร                         สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
บทภาพยนตร์                                      เอก เอี่ยมชื่น
ควบคุมงานสร้าง                                   ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร
กำกับภาพยนตร์                                  โทนี่ จา, พันนา ฤทธิไกร                                          
นักแสดงนำ                                           โทนี่ จา, สรพงษ์ ชาตรี, นิรุตต์ ศิริจรรยา,ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, ปัทมา ปานทอง, พริมตา เดชอุดม,ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ

 

 

เรื่องย่อ

“ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง  ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา ออกญาสีหเดโช (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้ แม้กระทั่งสละชีวิตตนเอง เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉล และคนทรยศ

แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบ และกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ  เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี พิม เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี ไอ้เหม็น (หม่ำ จ๊กมก) ชายบ้าเสียสติ แต่หลงใหลในนาฏศิลป์ เป็นเพื่อนเล่น

แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อพระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีเพื่อลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ

โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ เชอนัง (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาส และยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ และสัญชาติญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตา ซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรม เข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบ จากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา

ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วย มือเปล่า หมัดมวย  การใช้เวทย์มนต์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ

เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จา พนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพ และสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำ นั่นคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมานั้นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเองโดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑ ที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์

ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง  โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ ที่เขาจะต้องเผชิญหน้า และรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น“องค์รักษ์เกราะทอง” (ต๊อก ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) , “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และ จิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้


         
รายละเอียดและเกร็ดงานสร้าง

 

แก่นแท้ที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจหรือธีมสำคัญของภาพยนตร์ในเรื่อง “องค์บาก ทั้งภาค 1และภาค2” ก็คือการนำเสนอและถ่ายทอดถึงภาพการต่อสู้ และเรื่องราวของวีรบุรุษที่ต้องฝันฝ่าอุปสรรคนานัปการ เพื่อค้นหาสัจธรรมและความหมายที่แท้จริงของ “ศรัทธาแห่งการดำรงอยู่ของมนุษย์” “ความดี  ความเลว” และสิ่งที่ถูกเรียกขานว่า “จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้”

องค์บาก 2 คือ 1 ในอภิมหาโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างมหาศาลประจำปีพุทธศักราช2551ที่บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์อันดับ1ของเมืองไทยอย่าง “สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” ทุ่มทุนสร้างอย่างสูงสุดเทียบเคียงได้กับภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ที่ได้รับการจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยอย่าง “สุริโยไท” และ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1-2-3” จากผลงานการกำกับภาพยนตร์โดยมจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล  หรือแม้แต่ “ปืนใหญ่จอมสลัด” ภาพยนตร์ฉลอง1ทศวรรษแห่งความสำเร็จตลอดชีวิตในการเป็นผู้กำกับที่สร้างปรากฎการณ์ให้เกิดขึ้นในอุตสหากรรมภาพยนตร์ไทยของผู้กำกับนนทรีย์ นิมิบุตร (นางนาก,2499อันธพาลครองเมือง,จันดารา) รวมไปถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกอย่าง องค์บาก,ต้มยำกุ้ง และช็อคโกแลต ของผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว

กล่าวได้ว่า “องค์บาก2” ไม่เพียงเป็นภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ระดับโลกที่ทุ่มทุนสร้างสูงที่สุดเรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นที่คอหนังทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย หลังจากที่ชื่อของ “จา พนม ยีรัมย์ หรือโทนี่ จา” แจ้งเกิดในฐานะ “พระเอกแอ็คชั่นฮีโร่คนใหม่ของโลกภาพยนตร์ ภายใต้สโลแกน ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน” จาก “องค์บาก” ภาพยนตร์แอ็คชั่นคลาสสิคระดับมาสเตอร์พีซที่ทำให้ภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอม
รับเกิดเป็นกระแสครองความนิยมไปทั่วโลกถึงรูปแบบ เอกลักษณ์และวิถีใหม่ๆ อันนำไปสู่มาตรฐานใหม่ของภาพยนตร์แอ็คชั่นโลกซึ่งมิเพียงสร้างความแตกต่างไปจากภาพยนตร์แอ็คชั่นรูปแบบเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า แต่นำไปสู่เสียงตอบรับแห่งปรากฎการณ์ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของตลาดภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นในระดับโลกจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องนับตั้งแต่ความสำเร็จจาก “องค์บาก” ตามด้วย “เกิดมาลุย” “ต้มยำกุ้ง” และ“ช็อคโกแลต”  จึงไม่น่าแปลกใจที่ “องค์บาก 2” จะเป็นที่ฮือฮา ได้รับการตอบรับและถูกจับตามองตั้งแต่ตัวโปรเจ็คต์ยังไม่ได้เริ่มต้นเปิดกล้องถ่ายทำจากบรรดาบริษัทผู้ซื้อและจัดจำหน่ายภาพยนตร์จากทุกประเทศทั่วโลกสูงสุดอย่างเป็นประวัติการณ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ “องค์บาก2” คือโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่างเต็มรูปแบบที่ “จา พนม” ใฝ่ฝันบ่มเพาะและคิดค้นมาทั้งชีวิต นับตั้งแต่ก่อนที่จะแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง “องค์บาก” ด้วยซ้ำ ภายใต้แนวคิดและความตั้งใจร่วมกับปรมาจารย์ผู้กำกับคิวบู๊แอ็คชั่นที่สืบทอดกันมาอย่างพันนา ฤทธิไกร เพื่อให้เหล่าบรรดาแฟนๆและคอหนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกได้สัมผัสกับทุกรูปแบบแห่งศิลปะการต่อสู้ที่ล้วนแล้วแต่เป็นความสามารถเฉพาะตัวของจา พนมที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งผ่านการเรียนรู้ ฝึกฝน บ่มเพาะและสั่งสมประสบการณ์มาทั้งชีวิตโดยนำมาคิดค้นประยุกต์และผสมผสานเข้ากับศิลปะการต่อสู้ในแนวทางต่างๆทั้งการต่อสู้ด้วยหมัด เท้า เข่า ศอก และส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งไม่ได้มีเพียงศิลปะการต่อสู้ในรูปแบบแม่ไม้มวยไทยโบราณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้สรรพศาสตราวุธนานาชนิดในการต่อสู้อย่างคล่องแคล่ว ชำนาญการ ปรากฎให้เห็นเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์มไม่ว่าจะเป็น การต่อสู้ด้วยดาบ กระบี่ กระบอง ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฮไลท์ที่เป็นรูปแบบการต่อสู้ในแนวทางใหม่ที่ถูกคิดค้นและผสมผสานขึ้นภายใต้ลักษณะและรูปแบบการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เต็มไปด้วยความอ่อนช้อย สวยงาม และดุดัน สำหรับ “องค์บาก 2” โดยเฉพาะ นั่นคือ “นาฎยุทธ” รูปแบบการต่อสู้ที่ถูกคิดค้นและผสมผสานจากนาฏลีลาแห่งศิลปะชั้นสูงอย่างโขนมาผนวกรวมเข้ากับศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ จนเกิดเป็นรูปแบบการต่อสู้ที่เชื่อว่ายังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน



 นอกเหนือจากดีไซน์การต่อสู้ในรูปแบบต่างๆแล้วยังกล่าวได้ว่าการออกแบบฉากแอ็คชั่นต่างๆในภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 2 ที่เกิดจากความคิดค้นของตัวจา พนม และ พันนา ฤทธิไกร ทุกๆฉากล้วนแล้วเป็นความแปลกตาที่รับรองว่าจะสร้างความตื่นตะลึง และเป็นที่กล่าวถึงอย่างแน่นอน ด้วยวิธีการและวิช่วลทางด้านภาพที่น่าตื่นตาและเต็มไปด้วยความแปลกใหม่เพื่อเอาใจคอหนังแอ็คชั่นให้ได้ชมกันอย่างจุใจตลอดทั้งเรื่องสมกับที่ทุกคนรอคอย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้โดยนำช้างเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ รวมไปถึงการต่อสู้บนหลังช้าง , การต่อสู้บนแพไม้กลางน้ำ ,การต่อสู้ท่ามกลางหมู่บ้านกลางหุบเขา ฯลฯ

และแน่นอนว่าในส่วนของบทภาพยนตร์ได้รับความพิถีพิถันและให้ความสำคัญมากที่สุด เพื่อให้องค์บาก2เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ได้รับการยอมรับทั้งในส่วนของงานแอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยม งานสร้างที่ยิ่งใหญ่ภายใต้บทภาพยนตร์ที่ดีที่สุด พร้อมกับระดมบรรดานักแสดงระดับคุณภาพที่ล้วนแล้วได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือในระดับแถวหน้ามาร่วมถ่ายทอดมิติความเข้มข้นและให้ชีวิตกับตัวละครต่างๆโลดแล่นอย่างสมจริง อาทิ สรพงษ์ ชาตรี,นิรุตต์ ศิริจรรยา,ศรัณยู วงศ์กระจ่าง,สันติสุข พรหมศิริ,หม่ำ จ๊กม๊ก,ปัทมา ปานทอง ฯลฯ

ในด้านรายละเอียดงานสร้างของภาพยนตร์ได้ เอก เอี่ยมชื่น โปรดักชั่นดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบงานสร้างมือ1ของเมืองไทยที่มีผลงานสร้างระดับมาสเตอร์พีซมาแล้วอย่างมากมาย อาทิ ภาพยนตร์ทุกเรื่องของผู้กำกับนนทรีย์ นิมิบุตร (2499 อันธพาลครองเมือง ,นางนาก,จันดารา,โอเคเบตง,ปืนใหญ่จอมสลัด) ภาพยนตร์เรื่องเหมืองแร่ ฯลฯ มารับผิดชอบในการเนรมิตโปรดักชั่นงานสร้างที่อ้างอิงจากสถาปัตยกรรมของเขมรในอดีตที่เต็มไปด้วยดีไซน์ที่แปลกตาน่าตื่นตะลึง อย่างที่ไม่เคยปรากฎในหนังแอ็คชั่นเรื่องใดมาก่อน อาทิแหล่งชุมโจรผาปีกครุฑศูนย์รวมนักสู้ฝีมือฉกาจหลากเชื้อชาติที่บ่มเพาะการต่อสู้ทุกชนิดให้กับตัวละครที่จาพนมรับบทบาท โดยใช้โลเกชั่นเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา น้ำตกศิริพบ จังหวัดสระบุรี , ฉากการต่อสู้ไฮไลท์ที่ลานช้างพระราชวังหลวง ณ โลเกชั่นจังหวัดระยอง, ฉากการผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่างจา พนมกับฝูงโขลงช้างป่ากว่า30-40เชือกที่โลเกชั่นจังหวัดสุรินทร์ รวมไปถึงการเลือกใช้โลเกชั่นในจังหวัดต่างๆที่อยู่ในโครงการ UNSEEN THAILAND ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นจังหวัดกระบี่,จังหวัดเลย ฯลฯ  มาถ่ายทอดลงบนจอภาพยนตร์โดยได้ ณัฐวุฒิ กิตติคุณ ผู้อยู่เบื้องหลังงานกำกับภาพของ ตำนานสมเด็จพระนรเศวรมหาราช,องค์บาก,ต้มยำกุ้ง,โหมโรง,ฟ้าทะลายโจร,นางนาก ฯลฯ มารับหน้าที่ในการออกแบบและกำกับภาพให้กับภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 2

ตัวละคร

 

เทียน : (จา พนม ยีรัมย์) บุรุษที่ถูกฝึกฝนการต่อสู้จากครูหลากเชื้อชาติในกองโจร ผู้รู้แจ้งในการผสมผสานการฝึกสมาธิจากวิชาโขนและการต่อสู้ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
เชอนัง : (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑ พ่อบุญธรรมของเทียน
ครูบัว : (นิรุตต์ ศิริจรรยา) ครูสอนโขนที่ทำให้เทียนได้รู้จักกับทางออกแห่งสมาธิ
ออกญาสีหเดโช : (สันติสุข พรหมสิริ) บิดาของเทียนผู้อันเป็นที่รักของทุกคน และผู้จงรักภักดีต่อเหนือหัวและแผ่นดิน
นางไปล่ : (ปัทมา ปานทอง) มารดาของเทียน
พระยาราชเสนา : (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ผู้อยู่เบื้องหลังการปลิดชีวิตของพ่อและแม่เทียน ผู้ทรยศต่อแผ่นดิน
กลุ่มอาจารย์จากชุมโจรผาปีกครุฑ


   
  

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.