สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
Ghost Station โกยเถอะเกย์    
  สหมงคลฟิลม์
  LINK: ข่าวเปิดตัว       เรื่องย่อ  แนะนำนักแสดง        สัมภาษณ์เิปิ้ลนาคร และเสนาหอย
  สารบัญหน้านี้:     สัมภาษณ์ผู้กำกับ
   
 

 

ให้พี่ต้อมช่วยเล่าที่มาที่ไปของภาพยนตร์เรื่อง โกยเถอะเกย์ ให้ฟังหน่อยว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ส่วนตัวแล้วอยากทำหนังหลายแนว ซึ่งหนังที่เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ 3 ก็เป็นสิ่งที่เราสนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากทำให้ออกมาเหมือนคนอื่น ความคิดที่จะทำโปรเจคต์หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลังจากที่ผมทำเรื่อง กระสือวาเลนไทน์ เสร็จ ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดทั้งเรื่องของหนังและอีกหลายอย่าง ผมก็ไปเลยไปพักผ่อนเดินเล่นอยู่แถวถนนข้าวสารตอนกลางคืน บังเอิญไปเจอพี่เปิ้ล นาคร ศิลาชัย กำลังเมาอยู่ ผมก็เลยเข้าไปทักทายปกติ แล้วก็เลยชวนเขาบอกว่า มาทำหนังสนุกๆ กันสักเรื่องไหม พี่เปิ้ลก็สนใจ ทางผมก็เลยกลับไปคิดโปรเจคต์นี้ต่อว่าจะให้พี่เปิ้ลเล่นอะไรดี ประจวบเหมาะกับทางเสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ได้ติดต่อผ่านทางผู้จัดการมาว่าอยากเล่นหนังกับเรา ผมก็เลยนั่งคิดทบทวนเป็นการใหญ่เลย เพราะตอนนี้ก็มีทั้งเปิ้ล มีทั้งหอย เราจะใส่อะไรลงไปดี

ผมก็คุยกับทางพี่เปิ้ลว่า ถ้าจะให้พี่เปิ้ลกับหอยเล่นบทปกติก็จะเหมือนๆ กับหนังทั่วไป กลัวว่าพวกพี่เขาจะไม่สนุกกันแล้วก็อาจจะไม่สนใจได้ ผมก็เลยลองคิดอะไรที่มันไม่ปกติ ไม่ธรรมดาดีกว่า รับรองว่าพี่ทั้งสองไม่เคยทำแน่นอน คิดไปคิดมา ก็เลยจับให้พี่ทั้งคู่มาแสดงคู่กันเลย ให้พี่เปิ้ลเป็นพระเอก ส่วนหอยให้เป็นนางเอก พอบอกอย่างงี้พี่เปิ้ลก็อึ้งไปนิดนึง คงตกใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายโปรเจคต์นี้ก็เกิดขึ้นมาจนได้ ซึ่งตอนแรกเราใช้ชื่อหนังเป็นภาษาอังกฤษว่า Ghost Station ส่วนชื่อไทยคือ “ เกย์เถอะโยม” แต่ก็เปลี่ยนเป็น “ โกยเถอเกย์” เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร ซึ่งโกยเถอะเกย์ ก็เป็นชื่อที่เข้าใจได้ง่ายว่าเป็นหนังแบบทีเล่นทีจริง แอบกัดคนนู้นทีคนนี้ที

เรื่องย่อของเรื่องโกยเถอะเกย์ เป็นอย่างไร
เรื่องย่อของโกยเถอะเกย์ คือ มีเกย์คู่หนึ่งที่เป็นแฟนกัน แสดงโดยเปิ้ล-หอย แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เปิ้ลดันไปเมาแล้วเผลอไปนอนกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง แต่ตอนเช้ากลับพบว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นทอม เขาก็เลยพยายามจะชิ่งทอม แต่เรื่องก็เกิดอลหม่านมากขึ้นเมื่อทอมคนนั้นดันกลับใจเป็นหญิงแล้วไม่ยอมจะเลิกกับเปิ้ล เลยมีการตามล่ากัน และส่วนหอยที่เป็นแฟนของเปิ้ลก็ไม่ยอมด้วย เรื่องวุ่นวายมันก็เลยเกิดขึ้น เปิ้ลก็พยายามมาเคลียร์กับหอยที่ปั้ม อิมก็มาตื้อที่ปั้ม มาวุ่นวายกันอยู่ที่ปั้มโดยที่ทุกคนไม่รู้เลยว่า ยังมีอีกคนที่ล่องลอยวนเวียนอยู่ในปั้มนั้นด้วยอีกคน หนังมันก็จะเป็นแนวๆ พิศวาสฆาตกรรม หรือจะเรียกว่า พิศวาสฆาตเกย์

ได้พี่เปิ้ลพี่หอยมาเสริมรู้สึกมั่นใจกับหนังมากน้อยแค่ไหนเพราะตอนนี้กระแสหนังค่อนข้างจะแข่งกันมาก
ก็คงต้องอาศัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ เพราะว่าเดี๋ยวนี้คนที่จะตัดสินใจไปดูหนัง ก็จะพิจารณาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น นักแสดง ผู้กำกับ หรือดูจากตัวอย่างหนัง สนุกแค่ไหน หนังเป็นแนวอะไร แต่ด้วยความที่เราทำหนังตลก แล้วศักดิ์ภาพของการแสดงตลกของเปิ้ลกับหอยมีอยู่แล้ว เขาอยู่สาระแนกันมานาน ทำให้ผมเบาใจในระดับหนึ่ง และหลังจากที่ทำงานกันมาระยะหนึ่ง ก็ยังไม่มีใครหนักใจ ตอนนี้เราอยากตัดหนังให้เสร็จๆ แล้วฉายเร็วๆ ให้คนได้ดูแค่นั้นเอง

นอกจากพี่เปิ้ลพี่หอยตัวเอกที่มาเสริมทัพแล้ว เรายังจะได้เห็น ตลกคนอื่นด้วยหรือเปล่า
นอกจากเหล่าเสนา ก็ยังมีอีกบานเลย มีทั้งคนที่แปลกหน้า และหน้าแปลกเต็มไปหมด อย่างเช่นพี่หยองลูกหยี พี่จาตุรงค์ก็มาเล่น ผมก็บอกเขาไปว่า พี่ผมใช่ชื่อเรื่อง โกยเถอะเกย์นะ (หัวเราะ) คือเผื่อว่าจะได้ร้อยล้านเหมือนเขา ดำเนินรอยตามไงเห็นโยมโกยไปแล้ว

ในเรื่องจะเห็นว่าเปิ้ล-หอย จะแต่งตัวเป็นคาวบอย ทำไมต้องมีกลิ่นไอของความเป็นคาวบอยด้วย
ความเป็นกลิ่นไอคาวบอยมันเป็นเรื่องความบังเอิญมากกว่า ส่วนหนึ่งเราอ้างอิงความเป็นคาวบอยจากหนังเกย์ชื่อดัง นั่นก็คือ Brokeback Mountain ในขณะที่เราก็บังเอิญได้มาที่ปากช่อง ซึ่งปากช่องก็จะเหมือนเป็นถิ่นของคาวบอยไทยด้วย งานดังๆ ของที่นี่ก็คืองาน Cowboy Night จากไอเดียของทั้งคู่ก็เลยออกมาได้อารมณ์คาวบอยแบบไทยๆ ที่เห็นอยู่นี้ แต่ผมก็ไม่อยากเรียกว่ามันเป็นหนังเกย์ซะทีเดียว มันเป็นหนังคาวบอยตลก ส่วนพวกเรื่องของเกย์ ทอม มันเป็นเพียงแค่รายละเอียดเท่านั้น ประเด็นหลักของมันอยู่ที่เรื่องของความรักอันบริสุทธิ์ของคนคู่หนึ่ง ที่ถูกห่อล้อมไปด้วยอารมณ์ของตลก ซึ่งก็ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมให้ความสำคัญกับตลกมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโครงสร้างแบบหนังตลก การเลือกนักแสดงเพื่อทางหนังตลก ซึ่งโดยปกติแล้ว เรื่องก่อนๆ ของผม ความตลกจะเป็นแค่ส่วนผสมรองเท่านั้น แต่เรื่องนี้คอเมดี้จะเป็นตัวหลักเลย

หนังของพี่ต้อมที่ผ่านมามักจะไม่ซ้ำทางเดิม สำหรับเรื่องนี้แล้วมีความโดดเด่น และพิเศษกว่าเรื่องที่ก่อนๆ อย่างไรบ้าง
หลายคนคงจะเคยเห็นว่าหนังเรื่องอื่นๆ ของผม ซึ่งก็จะเป็นหนังที่เข้าตามตรอกออกตามประตูปกติ คือจะเป็นหนังที่เข้าทางประตูหน้า แต่เรื่องนี้เป็นหนังที่เข้าประตูหลัง (หัวเราะ) คอนเซปต์หนังจะเป็นคาวบอยเกย์ๆ หน่อย แต่ความแตกต่างถ้าเทียบกับหนังประตูหลังอื่นๆ ก็คือ เรื่องนี้จะมีอารมณ์แบบตลก จะไม่ใช่หนังอาร์ทหนังแบบเกย์ที่เราเคยดูกัน

ปกติหนังที่ทำ พี่จะไปซีเรียสกับแนวอื่นแต่ว่าจะมีคอเมดี้เนี่ยเป็นตัวเสริมแซกอยู่ในเนื้องานทุกครั้ง แต่ไม่เคยที่จะลงไปทำหนังตลกแบบจริงจัง แต่เรื่องนี้ เรากำลังทำหนังตลก วางน้ำหนักไว้แบบตลก การเลือกนักแสดงก็เลือกแบบนักแสดงตลก เป็นหนังตลกเต็มตัว จะไม่เหมือนเรื่อง ‘ มือปืน/โลก/พระจันทร์’ ซึ่งจะเป็นแนวแอ๊คชั่น/ดรามา/คอเมดี้ เป็นแบบผสมกันไป ปุบผาราตรีก็เป็นแนวดรามา เป็นผีผสมตลก ซึ่งที่ผ่านมามันยังไม่มีหนังแบบตลกล้วนๆ แล้วก็ต้องมาวางหมากต่ออีกว่าเป็นหนังตลกแบบไหน เพราะตลกก็จะมีหลายแบบ ตลกค่าแฟ่ ตลกปัญญาชน ตลกปัญญาอ่อนปัญญาแข็ง ตลกตีหัว เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นเราเลยต้องพยายามจูนหาทางตลกที่คนทุกคนดูได้ ไม่ใช่หนังที่ต้องปีนบันไดดูหรือน่าเกลียดจนไม่มีใครอยากดู

การเอาเกย์มาพูดในหนัง จะมีผลต่อกระแสสังคมมากน้อยแค่ไหน
จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรมากเพราะไม่ใช่หนังที่ไปทำร้ายจิตใจใครแน่นอนอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกเดือดร้อนเท่าไร เป็นหนังล้อเล่นสนุกสนานมากกว่า เป็นสไตล์หนังสนุก เปิ้ลหอยเล่นเป็นเกย์ใครจะเชื่อ เพราะเราไม่ได้ทำหนังตีแผ่ชีวิตเกย์น่ะ เราไม่ใช่เกย์เราไม่กล้าตีแผ่ขนาดนั้น

เรียกว่าเข้าถึงกลุ่มคนดูมากขึ้น
พยายามจะทำความเข้าใจกับทุกกลุ่ม ซึ่งมุขตลกที่คิดออกมานี้ มันจะรองรับทั้งคนที่เส้นลึกและเส้นตื้น มันไม่ใช่เป็นหนังตลกเฉพาะกลุ่ม มันไม่ใช่หนังตลกค่าแฟ่ ไม่ใช้หนังตลกแบบตลกร้ายแบบหนังอาร์ท แต่มันเป็นหนังที่ถูกวางโครงไว้หลวมๆ เหมือนตลกกับเพื่อนฝูง ครอบครัวก็ดูด้วย

สำหรับนักแสดงหลักพี่เปิ้ล นาคร กับพี่หอย เกียรติศักดิ์ การทำงานร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นความสบายใจ หรือหนักใจ
สำหรับเรื่องสบายใจ ผมชอบพี่เปิ้ล กับ หอย ตรงที่ทั้งคู่เขาจะตื่นเต้นกับหนังเรื่องนี้มาก เพราะเป็นเหมือนหนังใหญ่เรื่องแรกของพวกเขาที่ได้เล่นคู่กัน เป็นพระเอกนางเอก เขาจะใส่ใจกับการทำงานมาก ใส่ใจในทุกรายละเอียด และทุกซีนของหนัง เราก็จะมีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนคติกันตลอดเวลา เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่มีแค่โครงเรื่องคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดที่เหลือ เราก็จะแลกหมัดกันสดๆ ณ ตอนถ่ายเลย เพราะฉะนั้นบทที่ได้มันก็จะได้มากกว่าบทที่เขียนขึ้นมา มันจะมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นทุกวัน และการที่นักแสดงของเรารู้สึกสนุกกับการทำงาน มันก็ยิ่งทำให้บรรยากาศและหลายๆ อย่างของการทำงานมันราบรื่นขึ้น

และสำหรับเรื่องที่หนักใจก็คือ เวลาเราถ่ายไป เราก็หัวเราะไป เราคิดว่ามันตลกแล้ว บางทีก็ต้องมานั่งคุยกับพี่เปิ้ล ว่าเราตลกกันเองรึเปล่า ก็แอบกังวลอยู่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจบเลยนะ แสดงว่าเรากำลังมีปัญหาแน่นอน ฉะนั้นก็อยากทำให้เสร็จเร็วๆ จะได้ลองฉายให้คนอื่นดูว่าสิ่งที่เราขำ เราหัวเราะกัน คนอื่นเขาจะหัวเราะเหมือนกับเราหรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่หนักใจครับ

ทำอยู่มีมุขตันบ้างไหม
เรื่องมุข ส่วนใหญ่มันคิดได้เรื่อยๆ เพราะว่าเราไม่ได้คิดคนเดียว นอกจากบทที่วางมาแล้ว เราก็ยังให้เปิ้ลหอยช่วยกันคิดด้วย บางทีก็ล้นไป เราก็ต้องค่อยตัดออก ซึ่งตอนนี้ช่วงที่ถ่ายทำ เราก็ถ่ายไปหัวเราะไป จนบางครั้งก็ถามเขาไปเหมือนกันว่า พี่เปิ้ล-หอย นี่เรากำลังหัวเราะกันเองหรือเปล่า คนอื่นเขาจะขำด้วยไหมเนี่ยะ คิดฟุ้งซ่านไป ตอนนี้ก็เลยอยากรีบตัดรีบฉายเพราะว่าอยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร

กับนักแสดงคนอื่นๆ น้องอิม อชิตะ สิกขมานา และแมว จารุณี บุญเสก ได้ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับแมว ในเรื่องนี้จะรับบทเป็นผีกะเหรี่ยง ที่ไม่ค่อยจะเหมือนผีเท่าไหร่ เหมือนเป็นคนโรคจิตมากกว่า ยอมรับเลยว่าด้านการแสดงเขาเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะสายตาและท่าทางถือว่าเป็นมืออาชีพไม่ต้องเทคกันหลายรอบ เรียกว่าแมวฝีมือจัดจ้านขึ้นเยอะ

ส่วนอิม ในเรื่องจะเล่นเป็นแตงโม เป็นทอม ส่วนตัวก็รู้สึกว่าอิมจะแสดงได้ดี ค่อนข้างเนียน แต่บางทีการแสดงอิมจะใส่แอ๊คติ้งเยอะ เราก็ต้องคอยกดเอาไว้ไม่ให้มันเยอะมากไป ก็ต้องมีการพูดคุยปรึกษากัน

ส่วนน้องทรายในเรื่องก็จะเล่นเป็นดี้ ที่ชื่อเจนนี่ สำหรับเรื่องการแสดงของเขาถือว่าพอดี ไม่ขาดไม่เกิน แม้ว่าจะเป็นเรื่องแรกของเขาก็ตาม แต่เขาก็เล่นได้ดีทั้งสายตาและน้ำเสียง โดยรวมนักแสดงที่เลือกมาไม่มีใครมีปัญหาเลย ทำงานได้อย่างที่ต้องการมากๆ

สำหรับคา์แรกเตอร์ผีในเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องก่อนๆ ของพี่ต้อมอย่างไรบ้าง
ส่วนใหญ่ผีที่อยู่ในหนังที่ผ่านมามักจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ มีคาร์แรกเตอร์แบบซีเรียสไม่ว่าจะเป็นผีในเรื่องบุปผาราตรี หรือกระสือวาเลนไทน์ ชีวิตของเขาจะทุกข์ทรมานมาก แต่กับเรื่องนี้แม้ว่าผี( ที่รับบทโดยแมว)จะโดนกระทำรุนแรงมากก็ตาม เขายังสามารถร่าเริง ยังสามารถเต้นได้ ยังสามารถหยอกล้อคนอื่นได้ เรียกว่าเป็นคาร์แรกเตอร์ของวิญญาณที่ทุกข์แต่ไม่ทรมาณ ค่อนข้างออกไปทางคอเมดี้ หลอกกันทั้งเช้า กลางวัน เย็น บางทีคนดูแล้วอาจจะคิดว่าเขาเหมือนคนมากกว่าผี เป็นประเภทคนมีอิทธิฤทธิ์

ฉากที่อยากแนะนำให้จับตาดูคือฉากไหน
ฉากที่อยากจะให้จับตาดูคือฉากเลิฟซีนของเปิ้ลกับหอย แต่ว่าไม่ขอแนะนำให้ดู แต่อยากจะให้จับตาดู เพราะมันพลาดไม่ได้ ขนลุก ทำไปได้ไงไม่รู้

โลเคชั่นในการถ่ายทำของเรื่องนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่ปากช่อง เจอปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า
ปัญหาส่วนใหญ่ คงเป็นเรื่องอากาศ ที่มันเริ่มหนาว ทำให้ทีมงานเราไม่สบายนิดหน่อย อากาศหนาวช่วงนี้มันมาหนัก แต่ว่าปัญหาจริง ๆ คงเป็นเรื่องของคิวถ่ายทำของเปิ้ล-หอย มากกว่า เพราะสองคนนี้จะมีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องเตรียม คือต้องเตรียมงานให้ดีพร้อมที่จะถ่ายทำ

บรรยากาศแถวนี้มันแปลกเหมือนอยู่ในหุบเขา แล้วมันทำให้นึกถึงหนัง Brokeback Mountain แล้วคนแถวนี้ก็เป็นคาวบอยกันหมดเลย คือ มันมีคาวบอยไนท์มันมีอะไรแบบนี้มันเหมือนบังเอิญก็เลยเช็ต และสร้างทุกอย่างขึ้นมากลางเขาแบบนี้ มันเรียกว่าเวลาเราทำงานอยู่ที่หนึ่งแล้วอากาศมันดี ทีมงานมาเนี่ยก็รู้สึกว่ามาพักผ่อน

ทำหนังที่เกี่ยวกับเกย์แบบนี้ หลายคนแอบสงสัยว่าพี่ต้อมมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนหรือเปล่า
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า กรุงโรมไม่ได้เข้าทางเดียว (หัวเราะ) เราก็เลยอยากลองดูทางใหม่ๆ บ้าง ก็ ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายในการทำหนังแบบนี้ แต่ต้องบอกให้เข้าใจอย่างหนึ่งเลยคือ เราไม่ได้พูดเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเพศ หรือพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศเป็นประเด็นหลัก เรากำลังทำหนังตลก เราเลยไม่ค่อยได้ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปเที่ยวซอย 2 หรือไปตรวจสอบพฤติกรรมของเกย์ แต่เราคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะปอกเปลือกของเกย์ออกจากมนุษย์ได้ ปอกเปลือกความเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ทอมดื้ เกย์คิงเกย์ควีน ให้เหลือแต่ความรู้สึกต่อกันจริงๆ ตรงนั้นเป็นงานที่น่าตื่นเต้นมากกว่า และถ้าเข้ามาดูจะรู้สึกว่า มันไม่ได้แบ่งเพศ มันไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ใครดูก็ได้ แล้วคุณจะรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเปลือกนอกไม่ได้สำคัญเลย แต่ความรู้สึกข้างในสำคัญยิ่งกว่า พูดไปแล้วเหมือนจะเป็นดราม่าแต่ไม่ใช่ จริงๆ แล้วมันเป็นหนังตลก

กังวลไหมว่าอาจจะโดนสมาคมเพศที่ 3 มาประท้วง
ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าเขาจะมาประท้วงเรื่องอะไร มันอาจอยู่ที่ประเด็นที่เขาจะมาประท้วงมากกว่า ถ้าเขาห้ามทำหนังล้อเลียน ก็บอกได้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจจะล้อเลียน เพียงแต่เราแค่เลียนแบบพฤติกรรมเท่านั้น คิดว่าเรื่องนี้เราคุยกันได้ ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะฉะนั้นอย่าไปซีเรียสเลย เราตั้งใจจะทำให้เป็นหนังตลกเลียนแบบเท่านั้น ขำๆ

พี่เปิ้ลกับพี่หอยเขาเมาส์ว่าพี่แอ๊บแมน
แต่สองคนนั้นก็มีนะแอบ  พอผมถามว่า พี่รับบทเกย์ได้มั้ย  เขาก็บอก ได้พี่ไม่มีปัญหา  ทำเหมือนคนมีประสบการณ์   แล้วเราก็บอกต่ออีกว่า เล่นเป็นเกย์ต้องจูบกันนะ   เขาก็บอกว่าได้ เราก็บอก เฮ้อ ! ไม่คิดเลยเหรอ   ผมก็เลยคิดว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรแปลกๆ   เป็นผู้ชาย 2 คน อยู่ด้วยกันทำงานด้วยกัน นอนด้วยกัน มันต้องมีหลุด มีผีผลักบ้างแหละ (หัวเราะ)

เขายังบอกอีกว่าพี่แต่งงานบังหน้าด้วย
เปิ้ลหอยก็ทำตัวเจ้าชู้บังหน้าเหมือนกัน  คือ  เขาทำเป็นไปมีข่าวกับคนนั้นคนนี้มากมาย   เพื่อปกปิดบางอย่าง   เป็นเกย์สร้างลุค สร้างแมนเพื่อให้อยู่ในวงการได้   พี่เข้าใจเปิ้ลหอยพี่ก็เลยโอเค   เรียกเขามาเล่นหนัง ซึ่งเขาก็ไม่ปฎิเสธ   ก็อย่างนี้แหละนิสัยเกย์ก็เที่ยวไปปรับปรำคนอื่นไม่ได้ดูตัวเองเลย

ทราบมาว่าหนังเรื่องนี้พี่ต้อมตั้งใจให้เป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว คิดว่าเรื่องเกย์จะมีผลต่อเด็กหรือไม่
ส่วนตัวแล้วคิดว่า   เรื่องเกย์ไม่น่าจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับครอบครัว   มันกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมทั่วไป  เพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องความผิดปกติอะไร  เป็นเรื่องธรรมดา   หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังตลกปกติซึ่งทุกคนในครอบครัว  สามารถดูได้   ไม่ใช่ว่าพอเข้าไปดูหนังเรื่องนี้แล้ว ออกมาทุกคนจะต้องแต่งตัวเป็นตุ๊ดหรือเป็นเกย์ไปหมด

 

ถ้าสมมุติว่าไม่ใช้คำว่า “ เกย์” พี่ต้อมอยากจะให้ใช้คำไหนแทน
คาวบอย

คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากการดูหนังเรื่องนี้
แค่ได้หัวเราะแค่นี้ผมว่าคุ้มแล้ว เพราะว่าการที่ทำให้คนหัวเราะเนี่ยเป็นสิ่งที่ยาก พอได้มาทำ เราถึงได้รู้ว่าการทำหนังตลกนั้นยากที่สุด ยากกว่าการทำให้คนร้องไห้หรือทำคนเศร้าอีก เพราะมันจะมีจังหวะที่ค่อนข้างตายตัว แต่หนังตลกมันมีหลายทิศทางมาก รสนิยมคนดูกับรสนิยมคนทำต้องจูนเข้าหากัน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม แบ็คกราว และความรู้ด้วยว่าคนดูรู้เรื่องอะไรบ้าง

สุดท้ายแล้วมีอะไรจะฝากเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้บ้าง
อย่างที่หลายคนก็รับรู้อยู่ว่า สังคมในปัจจุบันนี้ของเราก็ค่อนข้างเครียดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากสื่อต่างๆ ที่ทำให้เราเครียด หรือข่าวหนักๆ ที่เราเจอตามหน้าหนังสือพิมพ์ ยิ่งระยะหลัง เหตุการณ์ต่างๆ ในสังคมก็เริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นภาพยนตร์ “ โกยเถอะเกย์” ก็อาจจะมีอะไรเบาๆ ที่ช่วยมาลดความรุนแรงของความเป็นจริงจากโลกภายนอก หรืออย่างน้อยที่สุดก็จะช่วยทุเลาความรู้สึกที่เคร่งเครียดของสังคมปัจจุบันลงได้ สรุปก็คือ เราไม่อยากให้ซีเรียสกันมาก ลองมาดูอะไรขำๆ กันบ้าง แค่นั้นเอง

ก็สบายๆ คือถ้าเห็นหนังตัวอย่างก็ไม่ต้องคิดมากเลย ตีตั๋วหนังเข้าไปดูเลย ถ้าไม่สนุกก็ค่อยออกมาด่ากันทีหลัง แต่อย่าเพิ่งด่ากันก่อนแค่นั้นพอ

   
 

 

 

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.