สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

ย่องไปดูหนังไทยในเทศกาลหนังฟาร์อีสต์

 

อัญชลี ชัยวรพร / อูดิเน

  29 เมษายน 2549
   
 

 

          มาช้า แต่ชัวร์ ตามนโยบายของเราในช่วงนี้ เดินทางมายุโรปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วล่ะค่ะ แต่เพลินกับการนอนหลับกับไวน์มากไปหน่อย ถองมันทั้งมื้อเที่ยงมื้อค่ำ ต่อด้วยปาร์ตี้หลังงานอีก พอถึงตอนเช้า …. แหะ แหะ แฮงค์ค่ะ แฮงค์ อ้าว ! เขาบอกว่าไวน์อิตาลีตอนเหนือถือได้ว่ามีชื่อมากที่สุดแห่งหนึ่ง จะพลาดไปได้อย่างไรกัน

          เอาเข้าจริงแล้ว ก็ไม่มีผู้กำกับไทยสามารถมาที่นี่ได้สักคน ทางเทศกาลเขาพยายามเชิญผู้กำกับอยู่หลายคนตั้งแต่แรกนะ ไม่ว่าจะเป็นยงยุทธ ทองกองทุน หม่ำ จ๊กม๊ก ก่อนที่จะมาเป็นคมกฤช ตรีวิมล ท้ายที่สุดก็มีแต่เราเป็นศิลปินเดี่ยว

          เราเลยต้องทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา  แทนประชาชนชาวไทย เข้าไปดูปฎิกิริยาผู้คนอิตาลีที่มีต่อหนังไทยแทบทุกเรื่อง

          ทางเทศกาลหนังนั้นเขาฉายหนังตั้งแต่เก้าโมงครึ่งจนถึงตีสอง  รอบสุดท้ายก็เที่ยงคืนกันล่ะ เปิดให้คนเข้ามาดูฟรี ยกเว้นก็รอบ 2 ทุ่ม กับ 4 ทุ่ม เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากทางราชการ คนเข้ามาดูกันเยอะนะคะ ทั้งที่ดูฟรีกับขายตั๋ว เผอิญช่วงวันอังคารเป็นวันหยุดประจำปี คนส่วนใหญ่ก็ลาพักร้อน 4 วันรวด มาดูหนังกันเป็นแถว

ทวารยังหวานอยู่

          หนังไทยที่ฉายเรื่องแรกในเทศกาลก็เป็น ทวารยังหวานอยู่ ฉายรอบเที่ยงคืนเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เรายังกระตือรือร้น ตามไปเฝ้าคนดูกัน คนเต็มโรงอยู่นะคะ มีที่ว่างหน่อยก็แถวหน้า ๆ ส่วนปฎิกิริยานั้น ช่วงแรก ๆ คนก็ยังตื่นเต้นกันอยู่นะ พอดูไปสักครึ่ง คนก็เริ่มออกจากโรงกัน เหมือนที่คิดไว้เลย ทวารยังหวานอยู่ เป็นหนังที่มีปัญหาช่วงครึ่งหลัง หนังเริ่มช้าไปหน่อย คนก็เลยเริ่มเดินออกจากโรง

          ส่วนเรื่องมุขตลกนั้น ปรากฎว่าคนเขาไม่หัวเราะมากมายอย่างที่เข้าใจกันนัก เขาก็ตื่นเต้นกับการเล่นภาพในช่วงแรก ๆ ขำขันตอนสมบัติออกมา แต่ไม่มีใครเขาหัวเราะกันยังหายตรึมกัน เขาขำขันกับภาพของพระเอกกันมากกว่า

เพื่อนสนิท

          หนังไทยเรื่องที่สองที่ฉายในเทศกาลก็คือ เพื่อนสนิท เป็นเทศกาลแรกของหนังเรื่องนี้ เขาฉายรอบสองโมงครึ่งวันอังคาร แรก ๆ เราค่อนข้างเคืองใจนิด ๆ ใครจะมาดูหนังกัน พอถึงวันจริง … ตกใจมาก คนดูแน่นโรงเลย ไป ๆ มา ๆ ก็เลยนึกได้ วันนี้มันวันหยุดนี่นา

          ตอนแรกคิดว่าเขาจะตัดหนังเป็นเวอร์ชั่นใหม่  ก็เวอร์ชั่นเดียวกับบ้านเรากัน หนังก็เลยยาวมาก คิดว่าคนคงจะทนดูไม่ไหว แต่พอถึงเวลาก็ไม่มีคนดูออกกันเท่าไร คนดูเขาชอบกันพอสมควรนะ มีฝรั่งเดินออกบ้าง แต่ไม่ถึง สิบคน เขาประทับใจกันพอสมควร เขาหัวเราะกันแม้แต่ตอนที่พระเอกผมยาวของเรา ไปตัดผมสั้น

          ฮันน่าห์ ลีห์ จากเกาหลีใต้ ชอบหนังมาก เธอบอกว่ามีความประทับใจบางอย่างเหมือนหนังเกาหลี คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับจดหมาย ๆ อะไรทำนองนี้แหล่ะ ฮันน่าห์สนใจในหนังมาก ถึงขนาดจะไปบอกเพื่อนให้มาซื้อเรื่องไปทำรีเมคภาคเกาหลี เห็นแล้วปลื้มแทนน้องคมกฤช น่าเสียดายที่ไม่ยอมมางานนี้

แจ๋ว

          ส่วนหนังที่คนชอบมากที่สุด กลายเป็น แจ๋ว ของยงยุทธ ทองกองทุนค่ะ เป็นหนังไทยที่ฉายในรอบที่ดีที่สุด คือ สองทุ่ม รอบที่ขายตั๋วกันนั่นล่ะ คนดูแน่น จนไม่มีตั๋วเหลือ มีคนเดินออกแค่ 1-2 คน

          คนหัวเราะกับหนังตลอด แรก ๆ เราคิดว่าคนดูเขาจะไม่เข้าใจเรื่องเท่าไรนัก เพราะฝรั่งเขาไม่มีแจ๋วติดบ้านกัน แต่เขาขำขันกับการแสดงกันเสียมากกว่า หัวเราะกันตลอด มีอยู่ตอนหนึ่ง ขำมาก ในเรื่องเป็นฉากที่เบนซ์ไปขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของนายจ้าง เธอแอบปีนช่องใต้หลังคา เธอจิ้งจกร้อง เสียงจิ้งจกร้องนี่แหล่ะทำให้มีเสียงคน ๆ หนึ่งหัวเราะดังมาก พี่แกไม่ยอมหยุด ทุกคนหันไปดูกัน เขาก็ไม่ยอมหยุด  ทุกคนขำ ก็เลยหัวเราะอีตาคนนั้นแหล่ะ

          คนดูคงจะชอบ แจ๋ว มากที่สุด เพราะเมื่อหนังจบแล้ว เขาก็ไม่ยอมเดินออกกัน ดูภาพเบื้องหลังกับภาพคุณแจ๋วมาร้องเพลงตอนเครดิตหนังขึ้น พอภาพทุกอย่างจบลงจริง ๆ เขาปรบมือโห่ร้องเชียร์กันใหญ่

          งานนี้ต้องบอกว่า คุณแจ๋วแกเชิดหน้าชูตาประเทศไทยกันจริง ๆ แต่ตอนหลังไปรู้มาว่าในจำนวนคนสองสามคนที่เดินออกนั้น ก็เป็นแม๊ก เทสสิเออร์ นักวิจารณ์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสนั่นเอง

หนังผีจากไทย

          วันหนังผี เขาเบิกอรุณกันด้วย กระสือวาเลนไทน์ ของยุทธเลิศ สิปปภาค ขวัญใจของเทศกาลที่หนังมาฉายที่นี่ทุกปี ต่อด้วย ลองของ รอบเที่ยงคืน แต่วันนั้นขอเบี้ยว ไม่ตามไปดูหนังไทยสักเรื่อง อันที่จริงก็ไม่ดูหนังสักเรื่องล่ะคะ ก็เขาฉายหนังผีกันทั้งวันนี่นา แหะ แหะ เวลาเดินทาง เราจะไม่ยอมดูหนังผีสักเรื่อง เพราะว่าถ้ากลับไปนอนโรงแรมคนเดียวทีไร ก็จินตนาการคิดพล็อตหนังผีได้อีกเรื่อง ก็เลยไม่เอาดีกว่า

เงิน เงิน เงิน

          วันสุดท้ายเป็นวันเสาร์ เขาฉายหนังไทย 2 เรื่อง คือ เงิน เงิน เงิน ภาคมิตร – เพชรา ฉายเป็นเรื่องสุดท้ายของหนัง Musical Retrospectives คนดูมาประมาณจำนวนหนึ่ง เพราะทางเทศกาลไปโฆษณาว่า The Prince’s Work คือ ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ว่า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เขาจะเขียนรวมว่า Prince ค่ะ คนก็เลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ แต่หนังยาวมาก เราดูเพียงครึ่งหนึ่ง ก็รีบออกมารายงานข่าวให้ท่าน ๆ ได้รู้กัน

          แม๊กซ์ เทสสิเออร์ บอกว่า หนังมันยาวมาก   แล้วก็มีเพลงน้อยไปหน่อย  แถมมุขตลกจะเป็นมุขไทยเสียมากกว่า  ก็เลยทำให้หนังน่าเบื่อไปสักนิด

ระหว่างทางไปโรงหนัง

 

มุมขายดีวีดี

 

มิเกะ ทาคาชิ ผู้กำกับญี่ปุ่นชื่อดัง
เทอรี่ ควาน ดาราไต้หวัน จาก The Heirloom

แหยม ยโสธร

          แหยม ยโสธร เป็นหนังเกือบเรื่องสุดท้าย  คนดูเยอะพอสมควร  คนดูเขาก็เข้าใจมุขตลกนะ  แต่ไม่ได้หัวเราะมากมายอย่างตอนที่คนดู แจ๋ว กัน  ส่วนฉากที่เขาหัวเราะกัน  ก็ส่วนใหญ่จะเป็นพระเอกนางเอกของเรื่อง  อย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก กับเจเน็ต เขียว  แต่นักแสดงอื่น ๆ เขาไม่ค่อยหัวเราะกันเท่าไร   เพราะคนอื่น ๆ เขาเล่นมุขตลกกับสำเนียงบ้าง  ไม่ใช่กิริยาท่าทางอย่างที่พระเอกนางเอกเขาทำกัน

          เพราะหนังมันเล่นแต่สีอย่างเดียว   บทมันอยู่กับที่  ความจริงแล้ว  แหยม ยโสธร มันก็เป็น มนต์รักลูกทุ่ง ภาคเล่นสี  หนังมันก็เลยมีปัญหานิดหน่อยในสายตาฝรั่ง

          จบข่าวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ

 

 

  * All rights reserved.

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.