ชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ตอบคำถามผู้ชม
เทศกาลหนังพูชอนอาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาบ้านเรานัก เนื่องจากเทศกาลนี้เป็นงานที่รวบรวมหนังประเภทแฟนตาซีหรือจินตนาการเป็นหลัก และเท่าที่ผ่านมา ก็จะฉายหนังผีหรือหนังทริลเลอร์ไทยเป็นหลัก แต่เทศกาลหนังแห่งนี้ก็มีหนังไทยเข้าร่วมฉายทุกปี และเคยไปคว้ารางวัลอยู่หลายเรื่อง อาทิ ฟ้าทะลายโจร และ13 เกมสยอง เคยไปคว้ารางวัลภาพยนตร์จากที่นั่น คณะตลกเด่น เด๋อ ดู๋ ไปคว้ารางวัลนักแสดงจากบุปผาราตรี 2
แต่เดิมนั้นทางโปรแกรมเมอร์เตรียมแผนจะจัดเซ็คชั่นพิเศษเกี่ยวกับหนังผีไทย โดยมาขอคำปรึกษาและติดต่อสถานทูตไทยในเกาหลีใต้แล้วด้วยซ้ำ แต่อย่างไรไม่ทราบ เมื่อถึงงานแล้ว กลับไม่มีงานพิเศษเกี่ยวกับหนังไทย เพียงแค่เลือกหนังไทยไปฉาย 5 เรื่อง โดยได้ประกาศไปแล้วอย่างเป็นทางการ 4 เรื่อง ได้แก่ มือปืนดาวพระเสาร์ หมาแก่อันตราย หลุด 4 หลุด และซัคซี๊ด ห่วยขั้นเทพ ส่วนหนังเรื่องสุดท้ายยังไม่ได้ประกาศจนถึงขณะนี้ ได้แก่ ศพเด็ก 2002 เพราะเขาจัดให้เป็นหนังเซอร์ไพรส์ที่จะฉายในคืนวันที่ 23 กรกฏาคม เพื่อปิดเทศกาลโดยเฉพาะ
หนังไทย 3 เรื่องแรก คือ มือปืนดาวพระเสาร์ หมาแก่อันตราย หลุด 4 หลุด ได้ฉายถึง 3 ครั้ง คือ รอบแรกในช่วงเริ่มเทศกาลวันที่ 15-16 กรกฎาคม ก่อนที่จะตามมาด้วยรอบสองในวันที่ 21 กรกฎาคม และรอบสุดท้ายฉายเป็นหนังมาราธอน 3 เรื่องรวด ความยาว 404 นาทีในคืนที่ 22 กรกฏาคมนี้ หกชั่วโมงรวด ดูกันมันส์ ๆ ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงหกโมงเช้า
จากการติดตามชมกระแสตอบรับหนัง 3 เรื่องแรกในรอบแรกนั้น เนื่องจากหนังจะฉายอยู่หลายครั้ง เขาจึงจัดฉายหมาแก่อันตราย กับมือปืนดาวพระเสาร์ในรอบเช้าตั้งแต่เวลา 11.00 ของวันธรรมดา ก็เลยคนดูไม่เต็มโรงนัก ยกเว้น หลุด 4 หลุดที่ฉายเวลาสองทุ่ม คนดูเกือบเต็มโรงที่มีที่นั่งประมาณ 70 ที่
คนดูเกาหลีไม่ค่อยแสดงออกเหมือนชาวยุโรป หากเปรียบเทียบกับเทศกาลหนังที่มีลักษณะงานคล้ายกันอย่างเทศกาลหนังฟาร์อีสต์ที่อูดิเน่ อิตาลี งานนั้นคนดูน่ารัก ชอบใจอะไร ก็ปรบมือ ตีเข่าเสียงดัง หนังเรื่องไหนฉายไม่จบแต่มีภาคต่ออย่างองค์บาก 2 หรือบุปผาราตรี 3 ก็ผิวปากแซว ๆ แต่คนดูที่พูชอน อย่างมากก็แค่หัวเราะ ดังจะเห็นได้จากฉากตอนจบใน เกรียนล้างโลก ที่อเล็กซ์ลุกขึ้นมาถามมือซิมพิฆาตว่า เขาจะทำอย่างไรถ้าคนดูปิดมือถือ หรือตอนที่ธาดากลัวว่าแล็ปท็อปของขวัญจะอันตราย แล้วเขาใช้มือของแมวมาสัมผัสแล็ปท็อปแทน ใน ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด
เรียกได้ว่าระหว่างหนังฉาย เราจะไม่ได้เห็นอะไรมากกว่านั้น แต่ถ้าหนังมีถามตอบเมื่อไร แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันนี้เริ่มเห็นได้จากช่วงถามตอบของ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ที่หมู ชยนพ บุญประกอบ ซึ่งเป็นผู้กำกับคนเดียวที่ไปร่วมงาน ความจริงเขาเชิญคุณยุทธเลิศ สิปปภาคไปด้วย แต่คุณยุทธเลิศไม่ได้ไป ให้ฝ่ายต่างประเทศของพระนครฟิลม์ไปแทน
Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ฉายรอบเย็น ๆ ของวันที่ 15 กับ 17 กรกฎาคม ในโรงหนังที่มีความจุประมาณ 100 ที่ เต็มเกือบทั้งสองรอบ ระหว่างที่หนังฉาย ก็ไม่เห็นปฏิกิริยาอะไรมากนัก จนเมื่อหนังฉายจบไปแล้ว ก็จะได้ยินได้ฟังคำถามมากขึ้น
ผู้ชมท่านหนึ่งกล่าวว่า กว่าสองชั่วโมงที่ได้ดู หนังไม่น่าเบื่อเลย คิดว่าหนังมีจังหวะและเรื่องที่น่าสนใจ มีการเลือกนักแสดงที่สมบทบาทมาก
ชยนพได้ให้รายละเอียดของหนังแก่ผู้ชมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้นักร้องร็อคจริง ๆ ในฉากร้องเพลง พวกเขาต่างเป็นฮีโร่ของผู้กำกับมาก่อน ตอนที่เขาเป็นเด็ก เขาเองก็อยากเป็นร็อคสตาร์เหมือนกัน สำหรับนักร้องเหล่านั้น ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะให้เล่นเป็นตัวเอง เรื่องนี้ชยนพได้บอกต่อว่าบอดี้สแลมเป็นกลุ่มที่ดังมากที่สุดในตอนนี้
มีคนถามถึงการใช้ภาพประกอบต่าง ๆ อย่างตอนการ์ตูน ซึ่งชยนพบอกว่าตอนภาพวาดตัวการ์ตูนนั้น เป็นความคิดของเขา แต่งานส่วนใหญ่ในหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของคนร่วมงาน 5 คน รวมทั้งโปรดิวเซอร์
ผู้ชมท่านหนึ่งถามเรื่องที่มีคู่เลสเบี้ยนในหนังเป็นเรื่องปรกติในสังคมหรือไม่ ชยนพกล่าวว่าจริง ๆ แล้วถ้าดูจนจบ ตอนที่นักแสดงกลับมาเจอกันอีกครั้ง เราจะเห็นว่าพวกเขาก็กลับไปใช้ชีวิตตามปรกติ
คนดูขอลายเซ็นและถ่ายรูปหลังจากหนังและช่วงถาม - ตอบ
|