Day 1 / 15 พฤษภาคม
พาดหัวไว้แบบนี้ อาจจะทำให้คนคิดว่าหนังดีมากหรือแย่มาก ไม่คาดคิดว่าจะแย่มาก หรือไม่คาดคิดว่าจะดีมาก
ในความเป็นจริงก็คือที่บอกว่าไม่คาดคิดเพราะว่าไม่ได้คิดว่าหนังจะผสมผสานการเมืองของโมนาโคในช่วงทศวรรษ 1960 มาก จนชีวิตดั่งเทพนิยายหายไป เคยเขียนแนะนำประเทศนี้มาแล้ว ก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าประเทศนี้เคยมีปัญหาเศรษฐกิจขนาดหนักก่อนที่จะเป็นประเทศแพงหูฉี่เช่นนี้ ีหนังได้ขยายความตรงนี้ใหม่ทั้งหมด จนอาจจะทำให้คนไทยไม่ค่อยสนุกกับมันสักเท่าไร เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่หวังว่าจะได้เจอชีวิตเทพนิยายของเกรซ เคลลี่ แต่เอาเข้าจริงกลับทลายล้างชีวิตแฟนตาซีออกหมด
หนังเริ่มเรื่องเมื่อฮิทช์ค็อคเดินทางขอเข้าเฝ้าราชินีเกรซ พร้อมทาบทามขอให้พระองค์กลับมาเล่นหนังฮอลลีวู้ดเรื่องใหม่ของเขา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่จะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว แต่ปัญหามันหนักไปยิ่งกว่านั้นอีก เมื่อโมนาโคในตอนนั้นก็กำลังประสบวิกฤติการณ์ในประเทศหลายอย่าง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาคมชาวยุโรปด้วยกัน ดังนั้นเมื่อเรื่องราวการกลับไปเล่นหนังของเธอถูกเผยแพร่ออกไป จนทำให้เกิดแรงต่อต้านจากชาวบ้านในประเทศ
ขณะเดียวกันยังเกิดศึกในบ้านขึ้นอีก การทรยศหักหลังเพื่อล้มบัลลังค์อย่างที่เราเห็นในหนังจีนยุคเก่า ๆ ก็ยังมีให้เห็นในหนังฝรั่งกับเขาด้วย จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ทางราชวงศ์ไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย ถึงกับมีข่าวออกมาว่า ไม่อยากให้หนังเรื่องนี้ไปฉายในโมนาโคด้วยซ้ำ
สนุกดูอยู่ไม่น้อย แต่เป็นการสนุกในประเด็นทางการเมืองของเรื่องมากกว่า ปัญหาก็คือหนังยังไม่กล้าที่จะโยนไปทางการเมืองสุดโต่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์เรอเนียร์ พระราชสวามี (นำแสดงโดยทิม ร็อธ) ซึ่งเล่นได้ดีมาก หนังพยายามคลุกเคล้าส่วนผสมของผู้หญิงเข้าไป ด้วยการผูกเรื่องสนุก มุขตลก ชีวิตครอบครัว ความรัก ก็เลยทำให้หนังไปไม่ถึงที่สุด หลาย ๆ ตอนเป็นสิ่งที่เราคาดว่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งกับสามี มุขฮาในการฝึกภาษาฝรั่งเศส และเรื่องอะไรต่อมิอะไร
ดิฉันชอบในส่วนการเมืองของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกับกษัตริย์ ซึ่งทิม ร็อธ เล่นได้ดีมาก ด้วยความที่ดิฉันเคยเห็นภาพของพระองค์อยู่ช่วงหนึ่ง ก็เลยเห็นว่าทิม ร็อธ เล่นได้เหมือนมาก พระองค์ดูยุ่ง ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา จริง ๆ แล้วอยากให้เปลี่ยนหนังเป็น Rainers of Monaco ด้วยซ้ำไป
หนังไม่น่าเกลียดนัก แม้จะพยายามโคลสอัพหน้าตาของนิโคล คิดแมนเกินไปหน่อย ซึ่งยังไปไม่ถึงดวงดาวสักเท่าไร ขณะดูได้แต่คอยนึกถึงพระพักตร์ของพระองค์เป็นหลัก โดยไม่มีภาพนิโคล อยู่ในหัวเลย
|