สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
หนังประกวดร้อน ๆ
  เรื่อง และ ภาพ โดย อัญชลี ชัยวรพร
  LINK : เมนูรวมรายงานเทศกาลหนังเมืองคานส์
   
 

Burnt by the Sun 2 หนังที่ทุกคนต้องดู

 

 

หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดูค่ะ แต่ตอนหลังได้ไปถามเพื่อนนักวิจารณ์อิตาลี เขาบอกว่า This is a must-see movie. เพราะเป็นหนังที่แย่้ที่สุดที่เคยดูมาในชีวิต เขาดูได้แค่ชั่วโมงเดียวก็เดินออก คิดว่าจะพยายามดูอีกครึ่งเรื่องให้จบ เพื่อจะดูว่า การทำหนังเลวเป็นอย่างไร

Tender Son - The Frankenstein Project การกลับคืนมาเผชิญหน้าของพ่อกับลูก

 

Tender Son - The Frankenstein Project เป็นหนังของผู้กำกับฮังการีนาม Kornel Mundruczo ที่เคยสร้างผลงานประทับใจอย่าง Delta เมื่อสองปีก่อน หนนี้เขากลับมาใหม่ด้วยเรื่องราวการเผชิญหน้าของพ่อกับลูก

ผู้กำกับหนังรายหนึ่งกำลังคัดเลือกนักแสดงสำหรับหนังเรื่องใหม่ของเขา แต่ขณะที่กำลังซ้อมบทกันอยู่นั้น หนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดนามรูดี้ กลับแข็งขืนในการแสดง จนเกิดการฆาตกรรมเกิดขึ้น  ตำรวจสอบสวนเขาเข้า โดยที่เขาบอกแต่เพียงว่า ไม่รู้จักรูดี้มาก่อน

รูดี้กลายเป็นหนุ่มมีปัญหา เขาฆาตกรรมคนนับไม่ถ้วน จนผู้กำกับหนังต้องตามหาเขา ทั้งสองเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ...ในฐานะใหม่ พ่อกับลูก

หนังเรื่องนี้มีคนบอกว่าไม่ดี แต่ด้วยความที่ต้องการดูหนังประกวดทุกเรื่อง ดิฉันก็คิดว่า มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ หนังมีปัญหาในการพัฒนาเรื่อง ค่อนข้างช้า โดยไม่มีเสน่ห์ หนังเพิ่งจะมาดึงอารมณ์คนดูได้ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เมื่อพ่อกับลูกเผชิญหน้ากัน พ่อขับรถพาลูกตะลุยบนภูเขาหิมะลูกใหญ่

ส่วนช่วงแรก ๆ ที่มีปัญหานั้น ถ้าจะมีจุดเด่นที่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้คัดเลือกเข้าประกวด ก็คือ มีมุมมองและวิธีการถ่ายทำที่ไปเกี่ยวข้องกับการถ่ายหนัง แต่หลังจากนั้นแล้ว มันก็หายไป

Outside the Law หนังการเมืองแบบฉบับแก๊งค์สเตอร์

 

Route Fish

Fair Game เข้ามาได้อย่างไรกันนี่

ในบรรดาหนังที่เข้าประกวดปีนี้ Fair Game น่าจะเป็นหนังที่อ่อนที่สุด เป็นเพียงหนังฮอลลีวู้ดธรรมดา ๆ ที่สร้างมาจากเรื่องจริง กรณีความไม่ซื่อตรงของรัฐบาลบุชในการทำสงครามอิรัก วาลารีเป็นซีไอเอแอบแฝงที่ทำงานให้กับรัฐบาลในการสอบสวนคดีสำคัญต่าง ๆ เธอมีสามีนักการทูตชื่อโจ และครอบครัวเล็ก ๆ น่ารักที่เธอน่าจะอยู่ได้อย่างมีความสุข ถ้าไม่เพราะเพียงว่า สามีของเธอ โจ ตัดสินใจเขียนเปิดโปงความไม่ซ่อสัตย์ของรัฐบาลบุุช วาลารีต้องเลือกระหว่างการทำงาน หรือโจ ครอบครัวของเธอ

Doug Liman สร้าง Fair Game ได้เพียงเป็นฮอลลีวู้ดดี ๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น เรื่องราวอาจจะกระชับ แต่ก็บังคับให้คนดูอย่างเราเดินตามตลอดเวลา และไม่มีอะไรแปลกใหม่ การแสดงของฌอน เพนน์ และ นาโอมิ วัตส์ ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก

จึงไม่น่าแปลกใจนักที่หนังเรื่องนี้จะถูกโห่มากที่สุด ในจำนวนหนังประกวดที่ฉายในปีนี้

Our Life หนังพ่อลูกอีกแล้ว

 

 

ปีนี้มีหนังเกี่ยวกับพ่อที่ต้องดูแลลูกเยอะมาก และหนังเรื่องนี้ Our Life ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และอาจจะเป็นหนังพ่อลูกที่อ่อนที่สุดเลยก็ว่าได้

หนังพูดถึงคลอดิโอ หนุ่มคุณพ่อลูกสาม ซึ่งทุกคนต่างยังเล็ก ๆ กันอยู่   โดยเฉพาะลูกคนสุดท้อง ที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พอแม่คลอดเสร็จ ก็เสียชีวิตทันที คลอดิโอเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างแถบชานเมืองโรม เขามีปัญหาทั้งการทำงานและครอบครัว แต่ก็ผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายทุกอย่างไปได้   จากกำลังใจและความช่วยเหลือที่ได้จากเพื่อนและครอบครัว

เป็นหนังธรรมดา ๆ ที่ดูเพลิน ๆ ได้ แต่ไม่มีอะไรจดจำ

 

Poetry เรียบ ๆ ตามแบบฉบับ แต่ยังไม่ถึงที่สุด

 

 

อาจจะไม่มีใครพูดถึง Poetry ของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของเกาหลีใต้คนนี้ ลีชางดงมากนัก แต่ Poetry ก็เป็นงานเรียบ ๆ ที่น่าจับตามองอีกเรื่องหนึ่ง

เรื่องราวของคุณยายวัยหกสิบกว่า อยู่กับหลานชายวัยรุ่นคนหนึ่ง เธอแต่งตัวดูเท่ห์ เป็นผู้ดี แต่แท้ที่จริงแล้ว เธอมีรายได้แต่เพียงน้อยนิดจากการรับจ้างดูชายแก่อัมพาต ในวัยที่ไม่แตกต่างกันมากนัก วันหนึ่งเธอเป็นเห็นหญิงชาวนาที่กำลังสูญเสียลูกสาว ซึ่งกระโดดน้ำตาย ขณะเดียวกัน เธอเริ่มสนใจไปนั่งเรียนวิชาการแต่งบทกลอน ที่ที่ทำให้ชีวิตของเธอเริ่มเปลี่ยนไป

กลุ่มผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งได้เรียกเธอเข้าประชุม เพียงเพื่อจะเจอความจริงที่เธอแทบรับไม่ได้ เมื่อพบว่าหลานชายของเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนที่ข่มขืนเด็กสาว จนเธอกระโดดน้ำตาย พวกเขาต่างตกลงกันว่า จะหาเงินก้อนหนึ่งเพื่อชดใช้แม่ของเด็กสาว

แต่เธอจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น ในขณะเดียวกันนี้ เธอได้พบว่า การแต่งบทกวีอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ชีวิตที่เปลี่ยนไป เริ่มสร้างแรงบันดาลใจให้เธอกลั่นกลองความรู้สึกออกมาได้อย่างไพเราะมากขึ้น

ดิฉันไม่มีปัญหาในการดูหนังเรื่องนี้นะคะ หนังมีอะไรบางอย่างที่ดึงเราตลอดเวลา แม้ว่าการแสดงของนักแสดงหลักที่รับบทเป็นคุณยาย อาจจะดูเกะกะไปบ้าง ในตอนที่เธอพยายามจะแต่งบทกวี และแม้ว่าหนัง Poetry อาจจะไม่ดีเท่ากับหนังบางเรื่องก่อนหน้านี้ของลีชางดง แต่มันก็สวยงาม ร่มรื่น

ฉากจบอาจจะดูไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ยไปสักหน่อย ไม่อยากเล่า ขอให้ดูเองจะดีกว่า

 

My Joy หนังดูไม่รู้เรื่อง

 

 

เป็นหนังเรื่องเล่าเรื่องแรกของผู้กำกับยูเครน เซอร์ไก ลอซนิซซ่า ก่อนหน้านี้เขามีผลงานสารคดีเพียงสองเรื่อง จึงทำให้ My Joy กลายเป็นหนังฟีเจอร์เรื่องแรกไปโดยปริยาย

เรื่องราวของคนขับรถบรรทุก ที่เผอิญเลี้ยวผิดทาง จนมาถึงที่ ๆ ไม่มีคนรู้จัก เขาได้พบกับชาวบ้านหมู่บ้านเล็ก ๆ ของรัสเซีย ที่ที่เต็มไปด้วยการใช้กำลังและสัญชาติญาณความอยู่รอดเกิดขึ้นเหนือความเป็นมนุษย์และสามัญสำนึก

ตอนดูหนังเรื่องนี้ มีเหตุการณ์จากเมืองไทยที่ทำให้ดิฉันไม่มีสมาธิในการดูหนังเลยค่ะ จำได้แค่ว่ารู้เรื่องถึงตอนที่มีเด็กสาวอายุไม่เกินสิบสาม พยายามขายตัวให้ เขาให้เงินไป แต่ปฏิเสธที่จะหลับนอนด้วย สักพักเขาก็ถูกทหารทำร้ายร่างกาย มาโผล่อีกที ก็มีทหารทำร้ายชายคนหนึ่ง ซึ่งหน้าตาเหมือนเขามาก มาอีกที ก็พบตัวเขา ไร้สติ จำอะไรไม่ได้

ขออภัยจริง ๆ ในความเบลอ

 

Of God and Men เกือบได้แต่ไม่ได้

 

 

Of God and Men เป็นหนังดีนะคะ เนื้อเรื่องดี (มาก) ผู้กำกับก็สามารถทำงานได้ดีที่จะนำเสนอสารที่ต้องการจะบอก ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบหนัง การแสดง ภาพ เป็นงานหนังทำดีทั่ว ๆ ไป แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นในเชิงสร้างสรรค์อะไรแปลกใหม่มากนัก

เรื่องราวที่นำมาจากชีวิตจริงที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อพระ 8 รูป ซึ่งไปเผยแพร่ศาสนาที่อัลจีเรีย ในขณะนั้นอัลจีเรียเกิดปัญหาการเมืองและก่อการร้ายอย่างที่เรารู้กันอยู่ แต่พระทั้งหมดกลับตัดสิจใจที่จะจำโบสถ์อยู่อย่างเดิม แม้ว่าจะได้รับคำเตือนจะรัฐบาลอัลจีเรียหรือแม้แต่สถานทูตฝรั่งเศสก็ตาม แล้วสุดท้ายพวกเขา 7 รูปก็ถูกลักพาตัวโดยกลุ่มที่เราคิดว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และไม่กลับมาอีกเช่นเลย

Of God and Men ได้รับเสียงโหวตจากนักวิจารณ์เป็นลำดับสอง รองจาก Another Year สำหรับดิฉัน กลับคิดว่ามันไม่ถึงที่สุด (อีกแล้ว) หนังมีการลำดับเรื่องที่ไม่คงที่ เหมือนจะราบเรียบแบบสไตล์หนังไมค์ ลีห์ ที่จะให้เราสัมผัส แล้วซึมซับบรรยากาศ อารมณ์ แต่มันก็ไม่ใช่ จะเป็นหนังดราม่าไปเลย มันก็ไม่ใช่ แล้วความไม่เป็นเอกภาพนี้ ผู้กำกับก็ไม่สามารถจัดการให้มันกลืนเป็นเนื้อเดียวกันได้ ทำให้หลายคนรู้สึกเฉย ๆ กับหนัง

ดิฉันกลับชอบหนังเป็นจุด ๆ เสียมากกว่า หลาย ๆ ตอนทำให้เราได้เห็นความเชื่อ ความศรัทธาของพระทั้งหมดที่ตัดสินใจจะอยู่ต่อ เพราะความเชื่อความศรัทธาที่พวกเขามีต่อพระเจ้า (แบบไม่ยัดเยียด) ขณะเดียวกัน ก็เสนอสภาวะปุถุชนของพระเหล่านั้น พวกเขาก็มีความรู้สึก อยากกลับบ้าน อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว เหมือนพวกเรา

ชอบฉากจบที่แสดงให้เห็นภาพขาวโพลนของหิมะ และคลุมเครือ เมื่อกลุ่มพระทั้ง 7 รูปซึ่งถูกลักพาตัว หายเข้าไปในป่า มันเป็นการสรุปที่ดีที่สุด สำหรับการหายตัวของพระทั้ง 7 รูป ที่ยังไม่พบตัวตนจนถึงขณะนี้

   
  

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.