สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

บทวิจารณ์ Re-cycle ของอ๊อกไซด์ และ แดนนี่ ปัง

 

เรื่อง และ ภาพ โดย อัญชลี ชัยวรพร / สำนักข่าว TCN (Thaicinema.org News)

  All rights reserved / 28 พฤษภาคม 2549
   
 

          ก่อนอื่น ขอบอกก่อนว่าบทวิจารณ์ที่กำลังจะเขียนถึง Re-cycle ของอ๊อกไซด์ และแดนนี่ ปังต่อไปนี้ เป็นการดูเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จากความยาวรวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 52 นาที ไม่ใช่เพราะวอล์กเอาท์หรืออะไรทั้งสิ้น แต่เพราะตัวเองดูได้แค่นั้น ต้องรีบไปขึ้นรถไฟกลับโรม เพื่อกลับมาจัดการเรื่องวีซ่าในเมืองไทย

          อันที่จริงแล้ว ตัวเองไม่ได้คาดหวังหนังเรื่องนี้เท่าไรนัก คิดไว้ว่าคงเป็นเพียงหนังผีที่ดีขึ้นเรื่องหนึ่งเท่านั้น คล้าย ๆ กับเรื่อง Pulse ของคิโยชิ คุโรซาว่า ได้รับการคัดเลือกเข้าเมืองคานส์เมื่อหลายปีก่อน

          แต่เมื่อรู้ว่า นี่เป็นหนังปิดในสาย Un Certain Regard ของเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้ ก็คิดไว้ว่า อืมน่าจะมีอะไรมากไปกว่านั้น

          หนึ่งชั่วโมงครี่งกับ Re-cycle นั้น ดิฉันพบว่าอ๊อกไซด์กับแดนนี่ทำงานดีขึ้น ไม่ใช่งานส่วย ๆ อย่างที่เราเห็นในหลายปีหลัง ๆ นี้ และไม่ได้ขายการตัดต่อ (เพียงลูกเดียว) เหมือนอย่างเคย

          Re-cycle กลายเป็นหนังผีที่พี่น้องคู่นี้พยายามพิถีพิถันกับงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การกำกับศิลป์ การใช้ดนตรี การใช้มุมกล้อง เรียกได้ว่าเป็นการใช้สไตล์ล้วน ๆ

          เรื่องเริ่มขึ้น  เมื่อนักเขียนสาวนามติงหยินกำลังพูดคุยกับผู้จัดการสำนักพิมพ์กับผลงานเรื่องใหม่ของเธอ เป็นหนังผีเรื่อง The Re-cycle แตกต่างจากงานเขียนของเธอก่อนหน้านั้นอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นหนังรัก

          ในงานแถลงข่าว ติงหยินยอมรับว่าเรื่องราวความรักในนวนิยายของเธอ นำมาจากชีวิตจริงส่วนหนึ่ง เมื่อนักข่าวพยายามถามว่าหนุ่มผู้นั้นตัวจริงเป็นใคร เธอกล่าวแต่เพียงว่า เขาไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

          ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาเข้ามาพูดคุยกับติงหยิน แต่เธอเดินจากเขาไป

          เขาคืออดีตคนรักของเธอ (นำแสดงโดยเจ เจตริน) ที่กล่าวว่า ได้หย่าขาดกับภรรยาแล้ว

          ติงหยินพยายามหันหลังให้กับชีวิตในอดีต เริ่มต้นกับงานเขียนชิ้นใหม่ The Re-cycle และในขณะที่เธอเริ่มงานเขียนชิ้นนี้ เธอได้พบกับสิ่งแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นผมยาวที่อยู่ตามโต๊ะ เสียงแปลกประหลาดมาตามสายโทรศัพท์ หรือแม้แต่เงาลึกลับ

          แม้จะมีความหวาดกลัว แต่ติงหยินกลับฉวยโอกาสให้เป็นประโยชน์ เธอเริ่มบันทึกเหตุการณ์นั้นลงเป็นบทประพันธ์ใหม่ของเธอ

          แต่โลกแห่งความจริงไม่อาจดึงรั้งติงหยินอีกต่อไป ขณะเดินทางกลับบ้านและขึ้นลิฟท์ในคืนหนึ่ง เธอถูกชักนำไปสู่โลกแปลกประหลาด โลกของผู้หรือสิ่งที่ถูกทอดทิ้ง และที่สำคัญมันเป็นโลกแห่งวิญญาณที่เธอเป็นเพียงผู้แปลกหน้า

          ชายชราลึกลับคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาบอกให้เธอออกจากโลกนี้ไปเสีย เพราะนี่ไม่ใช่โลกของเธอ

          ก่อนที่เขาจะสั่งทิ้งท้ายว่า เธอเป็นผู้กำหนดให้ตนเองมาอยู่ตรงที่นี้เอง จากการเขียนบทประพันธ์เรื่อง The Re-cycle นั่นเอง

          ติงหยินเผชิญหน้ากับโลกแห่งวิญญาณหลากรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโลกของเล่นที่ถูกทิ้ง เด็กที่ถูกทำแท้ง และเธอเกือบจะเอาชีวิตไปไม่รอดอยู่หลายครั้ง ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง

          ดิฉันดูถึงตอนที่เด็กหญิงตัวน้อยพยายามพาติงหยินผ่านโลกวิญญาณ  และโลกแห่งความลึกลับทุกรูปแบบ เพื่อไปสู่ทรานซิท จุดเปลี่ยนที่จะนำเธอไปสู่โลกแห่งความจริง

          ติงหยินจะทำได้หรือไม่ ดิฉันเองก็ไม่รู้ ก็คงจะต้องลุ้นเท่า ๆ กับคนอ่านเหมือนกัน

          ในงานชิ้นใหม่นี้ เห็นได้ชัดว่าอ๊อกไซด์กับแดนนี่พยายามสร้างสถานการณ์เข้มข้นที่บีบคั้นอารมณ์คนดูและตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นการใช้มุมกล้องหรือการตัดต่อ อย่างตอนที่พบกับนักข่าวนั้น ทั้งซีเควนซ์นั้นมีแต่การใช้กล้องโคลสอัพไปที่นักข่าวและติงหยิน พร้อมกับการตัดต่ออย่างฉับไหว

          ตอนที่เผชิญหน้ากับผีนั้น เขาทั้งคู่ก็ทำได้ดีในการสร้างสภาวะจู่โจมเพื่อให้คนดูรู้สึกตกใจ เหมือนกับหนังผีหลาย ๆ เรื่อง ถ้าจะมีปัญหาอยู่บ้าง ก็คือฉากผีบางฉากนั้นไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่จำมาจากหนังผีญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้างอยู่ 2-3 ตอน

          และเมื่อมาถึงโลกแห่งวิญญาณหรือถ้าจะกล่าวให้ถูกก็คือโลกแฟนตาซีนั้น มันกลับเน้นภาพที่สุดโต่ง มีการนำสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็คมาช่วยอย่างเห็นได้ชัด

          จนอาจเรียกได้ว่า แทบทั้งเรื่อง เราดูด้วยความตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจแทบตลอดเวลา ถ้าจะน่าเบื่ออยู่บ้าง ก็ตอนที่เธอต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผีหลากรูปแบบในการล่าหาจุดทรานสิทเข้าสู่โลกแห่งความจริง และความพยายามในการใช้ดนตรีอย่างเร่งเร้า จนดูน่ารำคาญมากกว่า

 

 

          สิ่งที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้ กลับเป็นการถ่ายภาพและการกำกับศิลป์ ซึ่งเป็นฝีมือของเดชา ศรีมันตา และคนไทยอีกคน (จดชื่อไม่ทัน)

          ความจริงแล้ว ตอนแรกที่ดูหนังเรื่องนี้ กลับจะไม่จัดเป็นหนังร่วมสร้าง ไทย – ฮ่องกง เพราะทั้งเรื่องพูดภาษากวางตุ้งกันหมด แถมให้เจเป็นหนุ่มจีน พากย์ทับเสียภาษาไทยเป็นภาษากวางตุ้งเสียอีก

          แต่พอเห็นทีมงานส่วนหนึ่งเป็นคนไทย ไม่ว่าจะเป็นมือกล้อง กำกับศิลป์ ดนตรี (พยนต์ เพิ่มสิทธิ์) รวมทั้งโปรดิวเซอร์หลายคนเป็นคนไทย ก็เลยตั้งจัดกลุ่มเป็นหนังร่วมผลิตไทย - ฮ่องกงอยู่ดี

          หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าพี่น้องคู่นี้มีอนาคตไกลในฮอลลีวู้ดอย่างแน่นอน เพราะควบคุมเทคนิคและสไตล์ได้อยู่ ดูหนังเรื่องนี้ความรู้สึกเหมือนดูหนังฮอลลีวู้ด

          แต่อย่างไรก็ตาม ตามประสาความลุ่มลึกของเนื้อเรื่องคงยังไม่มีอยู่ดี แล้วเรามันก็เป็นพวกเนื้อหาต้องมาคู่กับสไตล์ด้วย จึงจะเป็นหนังเจ๋งจริง

          สองดาวครึ่งค่ะสำหรับ The Re-cycle

 

All rights reserved

 

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.